ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 1, 2011 15:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 25,800-25,900 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,824 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.95-29.98 - GFQ11 Hi- Low 26,670-26,220 ปิดที่ 26,370 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.1% แตะที่ 1,831.7 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ความต้องการทองคำในภูมิภาคเอเชียและยุโรปจะยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 53.58 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 11,613.53 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 5.97 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 1,218.89 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 3.35 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 2,579.46 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค. และภาคเอกชนเพิ่มการจ้างงานในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเดือนหน้า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลบ 9 เซนต์ หรือ 0.10% แตะที่ 88.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.67-89.54 ดอลลาร์ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของดีมานด์พลังงานในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศพุ่งขึ้นเกินคาด กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 1 กันยายน ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1232.31ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากรมว.คลังกรีซออกมายอมรับว่า เศรษฐกิจกรีซมีแนวโน้มที่จะถดถอย และอาจจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการรักษาเป้าหมายด้านการคลังของรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากทางการเยอรมนีรายงานว่า จำนวนคนว่างงานลดลง 8,000 รายมาอยู่ที่ 2.95 ล้านราย ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.54% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4367 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4445 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4369 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ 0.17% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.570 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 76.680 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.95 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 29.95-29.98 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.95-29.98 บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐมีกำหนดการประกาศแผนกระตุ้นการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในการประชุมสภาครองเกรสในวันที่ 7 กันยายนนี้ นายโอบามาระบุในจดหมายที่ส่งถึงผู้นำสภาคองเกรสว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของสหรัฐควรปล่อยวางประเด็นทางการเมืองและร่วมกันหาข้อสรุปว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ ไม่ใช่การหาว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดของพรรค ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญ ในหลายส่วน และพรรคการเมืองทั้งสองควรพยายามกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ทั้งนี้ การสร้างงานและการเร่งอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจถือเป็นวาระสำคัญสำหรับคณะทำงานของนายโอบามา ในขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐเคลื่อนไหวในระดับ 9.1% และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงจนแทบจะหยุดชะงัก - คณะรัฐบาลของนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้อนุมัติข้อเสนอการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางด้านในกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้กองทุน EFSF เข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลยูโรโซนในตลาดรอง และปล่อยเงินกู้ระยะสั้นให้กับประเทศและธนาคารในยูโรโซนที่ประสบปัญหาด้านการเงิน นอกจากนี้ ข้อเสนอดังกล่าวยังเรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีเพิ่มวงเงินการประกันเงินกู้ใน EFSF เป็น 2.11 แสนล้านยูโร จากเดิม 1.23 แสนล้านยูโร ขณะที่ศักยภาพในการปล่อยเงินกู้ของกองทุน EFSF ได้รับการปรับเพิ่มเป็น 4.40 แสนล้านยูโร จากเดิม 2.50 แสนล้านยูโร - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศ พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 4.532 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ตัวเลขดังกล่าวหดตัวลง 0.4% ในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ยังขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% เพราะได้แรงหนุนจากความต้องการรถยนต์และเครื่องบินที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้ออุปกรณ์ด้านการขนส่งทะยานขึ้น 14.8% สู่ระดับ 5.32 หมื่นล้านดอลลาร์ และหากไม่นับรวมยอดสั่งซื้อในภาคการขนส่งแล้ว ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.ค.มีรายงานว่า การฟื้นตัวของภาคการผลิตเป็นกลไกหลักที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา แม้ในระยะหลังสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าอันเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ซบเซาก็ตาม - สหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 91,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. โดยบริษัทสหรัฐตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.การจ้างงานของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางเพิ่มขึ้น 88,000 ตำแหน่ง และการจ้างงานของบริษัทขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 3,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.ขณะที่ตัวเลขจ้างงานในภาคการผลิตสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ