แนะชาวสวนกล้วยไม้ใช้ข้อมูลสู้บีโอไอก่อนให้นายทุนไต้หวั่นย้ำยีตามแผนทางธุรกิจสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

ข่าวทั่วไป Monday September 23, 2002 07:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--สกว.
เตือนกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกล้วยไม้ต้องใช้ข้อมูลรายละเอียดผลดี ผลเสียของการให้ไต้หวันเข้าลงทุนธุรกิจกล้วยไม้ในไทยต่อบีโอไอ อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกเข้าต่อสู้ ชี้หากไต้หวันเข้าทำธุรกิจกล้วยไม้ในไทยจริงเกรงไทยสู้ยุทธวิธีและแผนธุรกิจไต้หวันไม่ได้ แม้แต่ฮ่องกง และสหรัฐที่ทำธุรกิจเก่งกว่าไทยยังแพ้ไต้หวัน
(สามารถดาวโหลดเนื้อข่าวนี้ได้ที่ http://pr.trf.or.th )
รศ.ดร.จิตราพรรณ พึลึก อาจารย์ประจำภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เรื่องกล้วยไม้ป่า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกล้วยไม้ ตลอดถึงกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยไม้จะเดินทางไปยื่นบัญชีรายชื่อคัดค้านการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่จะให้นายทุนไต้หวันเข้ามาลงทุนธุรกิจกล้วยไม้ในเมืองไทยในวันจันทร์ ที่ 23 กันยายน 2545 เวลา 11.00 น.ที่บีโอไอ ว่า เอกสารที่กลุ่มเกษตรกรจะนำไปเสนอต่อบีโอไอนั้นต้องเสนอด้วยเหตุผลและต้องสัมพันธ์กับความเสียหายของประเทศ ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือคนไทยไม่เก่งเรื่องตัวเลข ข้อมูลความเสียหายว่าเป็นอย่างไร อย่างเงินเป็นพันล้าน ต้องบอกลงลึกว่าตัวเลขพันล้านนั้นมาจากที่ไหนบ้าง ข้อมูลในการนำเสนอบีโอไอต้องละเอียด หากมีคนเข้ามาช่วยทำในเรื่องนี้จะทำให้น้ำหนักในการเสนอข้อมูลต่อบีโอไอมีมากขึ้น
“คณะทำงานที่ศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ดูแลบีโอไอ ได้แต่ตั้ง ศ.ดร.ธีระ สูตะบุตร อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้ามาศึกษาในเรื่องนี้ก็ต้องทำงานหนักด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีถือว่าทีมทำงานซึ่งนำโดย ศ.ดร.ธีระ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สามารถเรียกคนที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลในเรื่องกล้วยไม้ได้ เพื่อทำการรวบรวมให้บีโอไอ ซึ่งข้อมูลที่จะนำเสนอต่อบีโอไอนั้นต้องเป็นข้อมูลเชิงวิเคราะห์ที่ชี้ให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียอย่างละเอียด ที่ผ่านมาเราพูดด้วยข้อมูลความรู้สึก หากยังเป็นอย่างนั้นอยู่จะคัดค้านบีโอไอลำบาก หากต้องการทำให้บีโอไอเห็นความเสียหายของภาคเกษตรกรกลุ่มชาวสวน ผู้ประกอบการกล้วยไม้ กลุ่มผู้เลี้ยงเนื้อเยื่อ ต้องสู้กันด้วยข้อมูล
รศ.ดร.จิตราพรรณ กล่าวต่ออีกว่า ทางบีโอไอออกมาพูดว่าหลักการส่งเสริมกิจการให้ชาวไต้หวันเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมไม้ดอกไม้ประดับโดยเฉพาะกล้วยไม้ในเมืองไทยก็เพื่อให้เกิดการเกื้อกูลกัน ไม่ได้ต้องการให้เกิดการแข่งขันหรือทำลายกิจการของคนไทยนั้น อยากถามว่าถ้าไม่เป็นอย่างที่บีโอไอพูด ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งในเรื่องนี้บีโอไอในนามของรัฐบาลต้องเข้ามารับผิดชอบ
“อย่าลืมว่าในแง่ของการทำธุรกิจกิจไต้หวันเป็นนักลงทุนที่น่ากลัวมาก เพราะเขาใช้ยุทธวิธีในการทำลายธุรกิจเดิมของประเทศนั้นๆ เพื่อตัวเองจะได้ครองตลาด อย่างในฮ่องกงทางนักธุรกิจไต้หวันเข้าไปลงทุนทำกล้วยไม้ และขายกล้วยไม้ในราคาถูก จนนักลงทุนด้านกล้วยไม้ฮ่องกงอยู่ไม่ได้ และตอนนี้ไต้หวันเข้าไปซื้อกิจการบริษัทขายกล้วยไม้ในต่างประเทศ ที่สหรัฐอเมริกาก็เจอมาแล้ว อย่าลืมว่าเขามีอำนาจซื้อ มีอำนาจการผลิต เขาจะทำอะไรก็ทำได้ เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก และถ้าบีโอไอยังจะส่งเสริมไต้หวันอีก ก็เท่ากับช่วยเหลือคนอื่นให้มาฆ่าคนไทย อยากเห็นภาคการผลิตสินค้าเกษตรอยู่ในมือคนไทย เพราะเราเป็นเจ้าของแผ่นดิน ถ้าปล่อยให้เขามาซื้อแผ่นดินซื้อกิจการ เราแย่แน่ๆ ทุกวันนี้ทำไมรัฐไม่เข้ามาสนับสนุนการขายสินค้าของเกษตรกรไทย อยากได้สินค้าประเภทไหนถ้าบอกมาเกษตรกรไทยก็ทำได้ และเกษตรกรก็ยินดีทำหากมีคนมารับซื้อสินค้า แต่คนซื้อก็ต้องมีความจริงใจกับเกษตรกรด้วย”
ด้านสุวิทชัย แสงเทียน รองประธานกลุ่มชาวสวนกล้วยไม้ไทย กล่าวว่าในวันจันทร์ ที่ 23 กันยายน 2545 เวลา 11.00 น. กลุ่มสมาคมชาวสวนผู้ประกอบการเพาะเนื้อเยื่อ บริษัทผู้ส่งออกกล้วยไม้ เกษตรกรชาวสวนกล้วยไม้จะเดินทางไปที่บีโอไอ เพื่อนำเอกสารโดยเฉพาะลายชื่อผู้ไม่เห็นด้วยกว่า 3,000รายชื่อ พร้อมเทปบันทึกภาพที่กลุ่มชาวสวน ผู้ประกอบการ กลุ่มผู้เพาะเนื้อเยื่อ ที่เข้าร่วมประชุมกันที่พุทธมณฑลเมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมาที่ไม่เห็นด้วยในการที่บีโอไอจะส่งเสริมนักลงทุนชาวไต้หวันให้เข้ามาทำธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับในเมืองไทย บนพื้นที่ 16,000 ไร่ ในจังหวัดลพบุรี นอกจากนี้จะนำหนังสือดังกล่าวยื่นต่อนายอานันท์ ปัญยารชุณ ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการการเกษตรประจำสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมการการเกษตรประจำวุฒิสภา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดนในวันดังกล่าวพวกเราจะนำกล้วยไม้ไปมอบให้กับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของบีโอไอด้วยเช่นกัน
สามารถดาวน์โหลดข่าวได้ที่ http://pr.trf.or.th หรือติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ สกว. โทร.298-0455-72 ต่อ 159,160 หรือ 298-0454--จบ--
-ศน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ