ชิชยะ ศรชัยสวัสดิ์ เด็กสวนกุหลาบเกรดเฉลี่ยเกือบ 4 อยากเป็นครู

ข่าวบันเทิง Tuesday September 13, 2011 14:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--โทรทัศน์ครู “น้องฟิล์ม เด็กสวนกุหลาบเกรดเฉลี่ยเกือบ 4 หน้าตาดีอย่างกับดารา เลือกที่เดินบนเส้นทางวิชาชีพครู วิชาชีพที่ใครก็บอกว่า เหนื่อย หน้าเบื่อ เงินเดือนน้อย ไม่เชิดหน้าชูตา” เมื่อถามเด็กที่เรียนเก่ง ในโรงเรียนที่ได้ชื่อว่าเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศ อย่างโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนที่ผลิตเยาวชนคนเก่งมากมาย ว่าต้องการจะประกอบอาชีพอะไรในอนาคต เชื่อได้ว่าสวนใหญ่ก็มักจะตอบว่า เป็นแพทย์ วิศวกร สถาปนิก จะมีสักกี่คนที่อยากจะเป็นครู อาชีพที่ใครก็รู้ว่าเป็นอาชีพที่ต้องมีความเสียสละอย่างมาก เมื่อถามถึงเหตุผลก็จะตอบคล้าย ๆ กันอีกว่า วิศวกร แพทย์ มีภาษีดีกว่า น่าเชิดชูกว่า ครูทำงานหนัก ลำบาก เงินเดือนน้อย จบมาเงินเดือนเริ่มต้นเพียง 7,940 บาท ถ้าคนที่เขามีทางเลือก เป็นคนที่คิดว่ามีความสามารถที่จะทำอะไรได้มากกว่าเขาก็เลือกที่เป็นอย่างอืนดีกว่า รายการกล้าคิด กล้าทำ จากสถานีโทรทัศน์ครู ได้ไปสอบถามนักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนที่ผลิตเยาวชนคนเก่งมากมาย ว่า จบ ม.6 แล้วจะเดินเส้นทางสายวิชาชีพใด หลายคนตอบอยากเป็น แพทย์ วิศวกร สถาปนิก มัคคุเทศก์ บางคนอยากเป็นนักดนตรี ผู้ควบคุมทีมฟุตบอลระดับโลก แต่มีนักเรียนคนหนึ่ง ที่มีผลการเรียนดีระดับเกรดเฉลี่ย 3.94 บอกว่าอยากเป็นครู และเป็นความตั้งใจตั้งแต่วัยเด็กไม่เคยเปลี่ยน น้องฟิล์ม นายชิชยะ ศรชัยสวัสดิ์ นักเรียนชั้น ม.6 สายศิลป์คำนวณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย บอกว่า ครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่ต้องมีความเสียสละอย่างสูง ครูแมน ตันสมบูรณ์ หัวหน้าระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย พูดถึงน้องฟิล์มว่า เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ผลการเรียนดีมาตลอดตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.6 ขณะที่ครูชูชม ธรณธรรม หัวหน้ากลุ่มงานจัดการเรียนรู้ บอกว่า รู้สึกแปลกใจที่น้องฟิล์มบอกอยากเป็นครู และก็เป็นความตั้งใจของเขาที่อยากเป็นจริงๆ ครูสุวรรณา ตุ้มนาค ครูสอนภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งเป็นครูที่น้องฟิล์มประทับใจ จนตั้งใจว่าจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษเหมือนครูสุวรรณา บอกว่า อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่ไม่ว่าใครจะจบมาจากสาขาวิชาชีพใดก็ตาม ล้วนต้องมีครูทั้งสิ้น ถ้าไม่มีครูในวันนั้น ก็ไม่เป็นพวกเขา พวกเรา ในวันนี้ ครูสุวรรณา รู้ถึงความจริงดีว่า คนที่ไม่อยากเป็นครูก็จะมีเหตุผลของความไม่อยากเป็น แต่ในรายของน้องฟิล์มนั้น เธอรู้สึกแปลกใจที่เด็กดี เรียนเก่งอย่างเขา จะอยากเป็นครู แต่ก็รู้สึกดีใจ ถ้าหากน้องฟิล์มได้เป็นครูจริง ๆ เราจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพ เพราะน้อยมากที่เด็กวัยรุ่นยุคนี้ที่อยากจะเป็นครู และแม้จะต้องเจอกับความยากลำบากมากมาย จากการสัมผัสด้วยตัวเองและจากคำบอกเล่า แต่น้องฟิล์มก็มีความตั้งใจและยกย่องอาชีพครูเป็นอาชีพในดวงใจเสมอ “ครูคือผู้ให้ หลายคนมักจะตอบเช่นนี้ แต่มันก็คือความจริง เป็นอย่างนั้นจริง ๆ อย่างเวลาก็ต้องให้นักเรียน ความรู้ก็ไม่ปกปิดต้องให้ทุกอย่าง” น้องฟิล์ม พูดถึงความในใจ ความตั้งใจของตัวเอง เพื่อตอกย้ำความมีเกียรติของอาชีพที่เขาจะเดินเข้าสู่ในอนาคตอย่างภาคภูมิใจ น้องฟิล์ม บอกว่า ถ้าเปรียบเทียบชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ครูก็คือ ปอดที่มีหน้าที่รับเส้นเลือดดำมาฟอกเป็นเลือดแดงแล้วส่งไปเลี้ยงร่างกาย ถ้าร่างกายคือประเทศชาติ ปอดก็จะส่งเลือดไปดูแลร่างกายทุกส่วน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และโครงการโทรทัศน์ครู ได้ค้นพบน้องฟิล์มจึงได้เข้าไปถ่ายทำเรื่องราวของน้องฟิล์ม เพื่อถ่ายทอดความตั้งใจของเด็กคนหนึ่งซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ความรู้ แต่อยากเป็นครู อาชีพซึ่งใคร ๆ ก็บอกว่าเหนื่อย เงินเดือนน้อย เพื่อเป็นการจุดประกายให้เด็กรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของการเป็นครู โดยเริ่มจากการไปสอบถามครูที่เคยสอน เคยสัมผัสน้องฟิล์ม และสอบถามจากเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้องฟิล์มเป็นคนดี เรียนเก่ง เวลาใกล้สอบก็มักจะติวให้เพื่อน ๆ ถ้าเขาเป็นครู จะต้องเป็นครูที่ดีแน่นอน ทางรายการได้ท้าให้น้องฟิล์ม ทดลองเป็นครู โดยให้เป็นผู้ช่วยครู ซึ่งวิชาที่เขาเลือกคือ ภาษาอังกฤษ โดยมีคุณครูสุวรรณา ตุ้มนาค ซึ่งน้องฟิล์มประทับใจ เป็นครูพี่เลี้ยง ทดลองสอนให้กับนักเรียนรุ่นน้อง เขาต้องสอนหน้าห้องเสมือนเป็นครูจริง ๆ แม้จะตื่นเต้นไปบ้างด้วยความไม่คุ้นเคย แต่เขาก็ทำมันได้ดี นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมออกแบบฝึกหัด ที่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน และต้องค้นคว้าจากตำราหลายเล่มกว่าจะได้คำตอบสักหนึ่งคำตอบ และต้องใช้วิจารณญาณอย่างสูงในการเลือกว่าคำตอบใดคือคำตอบที่ดีที่สุด ถูกต้องทีสุดสำหรับนักเรียน “ผมไม่คิดเลยว่า sheet แค่แผ่นเดียว กว่าจะออกมาเป็นแบบฝึกหัดหรือข้อสอบได้ จะยุ่งยากขนาดนี้” ครูสุวรรณา สอนเขาว่า เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาของเรา คำตอบของนักเรียนจึงอาจจะไม่ถูกต้องสมบูรณ์ทั้งหมด บางรายตอบไม่ถูกเลย แต่เขาทำงานเรียบร้อยก็ต้องแยกแยะและเขียนชมเชยไปว่า ทำงานเรียบร้อยดี เพื่อเป็นกำลังใจ ซึ่งมันคือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น้องฟิล์มได้เรียนรู้ความเป็นครู (ที่ดี) สุมาลี ศรชัยสวัสดิ์ คุณแม่ของน้องฟิล์ม บอกว่า การที่น้องฟิล์มอยากเป็นครูและได้มีโอกาสได้ทดลองสอนทำให้เขารู้ว่าทุกอาชีพมีความยากลำบาก โดยส่วนตัวของแม่แล้วไม่ได้คาดหวังว่าลูกจะต้องเป็นอะไร แต่มีความรู้สึกว่าถ้าลูกชอบอะไรก็ให้เขาทำในสิ่งที่ชอบก็น่าจะเป็นสิ่งที่ที่สุด น้องฟิล์ม กล่าวทิ้งท้ายว่า การได้สัมผัส ทดลองสอน และเรียนรู้ในหลาย ๆ สิ่ง ของการเป็นครูทำให้รู้ว่าการเป็นครูเป็นหนทางที่ยากลำบาก มีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ถ้าเรายังอยากที่จะเดินเส้นทางสายนี้ สำหรับตัวเองแล้วก็ยังอยากที่จะเป็นครู เพราะเป็นเส้นทางที่ได้เลือกตั้งแต่แรก จะให้มาเปลียนตอนช่วงนี้คงไม่ใช่ อย่าคิดว่าครูเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ ไม่มีหน้ามีตาในสังคม การเป็นครูเป็นสิ่งที่มีเกียรติและเป็นสิ่งที่ยากมาก แต่ถ้าเราตั้งใจมันก็ต้องสำเร็จในสักวัน “ผมอยากเป็นครูครับ” หากนักเรียนที่เรียนดีก้าวเข้ามาเป็นครูมากขึ้น ก็เชื่อได้ว่า ในอนาคตเราจะมีบุคลากรที่มีคุณภาพอีกมากมาย ติดตามดูคลิปรายการกล้าคิดกล้าทำย้อนหลังได้ที่ www.thaiteachers.tv

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ