ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 13, 2011 15:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 26,150-26,250 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,832 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.14-30.17 - GFQ11 Hi- Low 26,900-26,510 ปิดที่ 26,750 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 46.2 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 1,813.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,807.90-1,865.20 ดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังร่วงลงหลังจากนักลงทุนเทขายทำกำไรในตลาดทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดอื่นๆ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 68.99 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 11,061.12 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 8.04 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 1,162.27 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 27.10 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 2,495.09 จุด หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า อิตาลีกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนเพื่อขอให้จีนเข้าซื้อพันธบัตรอิตาลี ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยพยุงตลาดให้ดีดตัวขึ้นในช่วงท้าย หลังจากที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักเกือบตลอดทั้งวัน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 88.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.00-88.95 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงท้าย หลังจากที่สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเมื่อวันศุกร์และปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงเช้าของการซื้อขายในวันจันทร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปิดบวกไม่มากนักเนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป และหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้า กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 13 กันยายน ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1241.92ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า อิตาลีกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนเพื่อขอให้จีนให้เข้าซื้อพันธบัตรอิตาลี อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงข่าวที่ว่ามูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในฝรั่งเศส เนื่องจากธนาคารเหล่านี้ถือครองพันธบัตรของกรีซอยู่เป็นจำนวนมาก ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.21% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3679 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3651 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3673 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ 0.45% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.200 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 77.550 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 77.00 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.13-30.16 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.14-30.17 บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า ปริมาณหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้อยู่ในภาวะ “ช็อก" ซึ่งความท้าทายในเรื่องนี้ทำให้การหารือนโยบายต่างๆพุ่งเป้าไปที่นโยบายทางการเงิน เพื่อเสถียรภาพอย่างยั่งยืน รายงานของไอเอ็มเอฟก่อนถึงวาระการประชุมประจำปี ซึ่งระบุว่า หนี้สินที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นงบดุลบัญชีที่ทรุดลงอย่างรวดเร็วในช่วงวิกฤต และในบางกรณีรัฐบาลก็เข้าไปแทรกแซงภาคธนาคาร สถานการณ์ที่ย่ำแย่เหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องความกดดันในเรื่องของค่าใช้จ่ายระยะยาวสำหรับประชาผู้สูงวัยที่มีจำนวนมากขึ้น - ไฟแนนเชียล ไทมส์ระบุว่า จีนอาจจะเข้าซื้อพันธบัตรของอิตาลีในปริมาณมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนในตลาดการเงินคลายความวิตกกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดการเงินได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อิตาลีกำลังพยายามระดมทุนอย่างหนักเพื่อนำเงินมาใช้ในการไถ่ถอนพันธบัตรที่ใกล้จะครบกำหนดและเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยรายงานระบุว่า หนี้สินของอิตาลีมีอยู่ราว 1.9 ล้านล้านยูโร ซึ่งมากกว่าหนี้ของสเปน กรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกสรวมกัน - วุฒิสภาอิตาลีอาจจะลงมติรับรองมาตรการรัดเข็มขัด เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ ก่อนหน้านี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลของนักลงทุนที่มีต่อหนี้สินของประเทศของอิตาลีนั้น ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอด และดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้ว่า ธนาคารกลางยุโปจะเข้าซื้อพันธบัตรอิตาลีไปเมื่อเดือนส.ค.แล้วก็ตาม ประธานาธิบดีจิออร์จิโอ นาโปลิตาโน ของอิตาลี ต้องออกมาเตือนถึงกรณีที่ค่าสเปรดระหว่างอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรเยอรมนีและอิตาลีที่สูงขึ้น โดยตลาดหุ้นอิตาลีร่วงลงไปกว่า 3% ช่วงบ่ายวานนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแผนการรัดเข็มขัด - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้คงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีในปีนี้ไว้ที่ 3.2% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเยอรมนีในปีหน้าลงสู่ระดับ 1.6% จากระดับ 2.0% ถือเป็นอีกสัญญาณบ่งชี้ว่า เยอรมนีคงจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายต่อไปอีกนาน เพราะฉะนั้นการช่วยเหลือเหล่าประเทศที่ประสบปัญหาคาดว่า จะไม่ผ่านฉลุยเหมือนในอดีตเป็นแน่แท้ แม้ว่า เยอรมนีจะมีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่การที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว วิกฤตหนี้ยุโรปเรื้อรัง ญี่ปุ่นเองก็ต้องพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากภัยพิบัติครั้งรุนแรง ทำให้เยอรมนีต้องหาทางนำพาประเทศให้รอดพ้นจากปัจจัยลบที่รุมเร้าเหล่านี้ให้ได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ