ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 16, 2011 14:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 25,550-25,650 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,774.60 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.31-30.34 - GFQ11 Hi- Low 26,580-26,270 ปิดที่ 26,330 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 45.1 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 1,781.4 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.032 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 39.501 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พร้อมด้วยธนาคารกลางชั้นนำอีก 4 แห่งของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะจัดหาเงินกู้เพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และยังได้ฉุดสัญญาทองคำปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 186.45 จุด หรือ 1.66% ปิดที่ 11,433.18 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 20.43 จุด หรือ 1.72% ปิดที่ 1,209.11 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 34.52 จุด หรือ 1.34% ปิดที่ 2,607.07 จุด หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พร้อมด้วยธนาคารกลางชั้นนำอีก 4 แห่งของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศว่าจะจัดหาเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในภาคธนาคารของยุโรป อันเป็นผลมาจากวิกฤติหนี้สาธารณะ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ขยับขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 89.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับข่าวที่ว่าบรรดาธนาคารกลางชั้นนำของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศว่าจะร่วมมือกันกอบกู้วิกฤตภาคธนาคารของยุโรปด้วยการจัดหาเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงข้อมูลในภาคการผลิต กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 16 กันยายน ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1241.31ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พร้อมด้วยธนาคารกลางชั้นนำอีก 4 แห่งของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะจัดหาเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน โดยมีเป้าหมายที่จะลดภาวะตึงตัวในภาคธนาคาร ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.99% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3881 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.3745 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3730 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ 0.03% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.630 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 76.650 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.71 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.24-30.27 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.31-30.34 บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของสหรัฐขยายตัวขึ้น 0.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.1% เพราะได้แรงหนุนจากยอดการผลิตสินค้าคงทนเพื่อผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น 1.3% และยอดการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 2.6% รายงานของเฟดระบุว่า การผลิตในโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. ส่วนการผลิตในเหมืองแร่พุ่งขึ้น 1.2% หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนก.ค.ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 77.4% ในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ 77.3% - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 428,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 417,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 410,000 ราย และนับเป็นการเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 419,500 ราย จากระดับ 415,500 ราย การเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสะท้อนให้เห็นถึงภาวะซบเซาของตลาดแรงงานสหรัฐ อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างมาก โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 1% ต่อปี - คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกแถลงการณ์ว่า อีซีบีจะอัดฉีดสภาพคล่องในรูปสกุลเงินดอลลาร์เข้าสู่ภาคธนาคารของยุโรป ด้วยการปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนเป็นเวลา 3 เดือนจนถึงช่วงปลายปีนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง อีซีบี, ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางอังกฤษ,ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ แถลงการณ์ของอีซีบีระบุว่า มาตรการปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารในยูโรโซนครั้งล่าสุดนี้ เป็นมาตรการเพิ่มเติมจากการปล่อยเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์ในระยะเวลา 7 วันซึ่งมีการดำเนินการตามปกติอยู่แล้วในปัจจุบัน และเป็นการปล่อยเงินกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ โดยอีซีบีและธนาคารกลางอีก 4 แห่งจะดำเนินการปล่อยเงินกู้ในวันที่ 12 ต.ค., 9 พ.ย. และ 7 ธ.ค. - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวลง 1.3% สู่ระดับ 1.18 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปีนี้ จากไตรมาสแรกที่ระดับ 1.196 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขาดดุลจะอยู่ที่ 1.225 แสนล้านดอลลาร์สัดส่วนของยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 3.1% ในไตรมาส 2 - สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (อียู) หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในเขตยูโรโซนยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.5% ต่อปี ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ในส่วนของประเทศสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.9% ต่อปีในเดือนสิงหาคม 2554 ซึ่งยังทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับเดือนกรกฎาคม ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ