พม.หนุนตั้งสภาองค์กรชุมชนครอบคลุมทุกพื้นที่ ยกชุมชนเป็นกลไกหลักขับเคลื่อนท้องถิ่น

ข่าวทั่วไป Friday September 16, 2011 17:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--พม. นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นประธานกล่าวมอบนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนการจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น และกล่าวปิดการประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล ในงานสมัชชาเครือข่ายองค์กรชุมชน “สานพลังชุมชนท้องถิ่นและภาคีสู่การจัดการตนเอง”และการจัดประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ กันยายน ๒๕๕๔ ณ ห้องเอนกประสงค์ (๒๐๙) ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จัดโดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ชุมชนเป็นฐานรากของวัฒนธรรมของการอยู่ร่วมกัน เป็นพลังทางสังคมที่ช่วยให้สมาชิกอยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่น และที่สำคัญคือ เป็นที่รวมพลังการพัฒนาร่วมกันของท้องถิ่นไทยที่สำคัญอย่างยิ่ง รัฐบาลจึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งเพื่อให้ชุมชนเป็นกลไกการพัฒนาในเรื่องต่างๆ อันจะนำไปสู่การจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่นที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาสังคมและประเทศ ทั้งเรื่องสวัสดิการ การแก้ไขปัญหาความยากจน การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ การปฏิรูปที่ดิน การพัฒนาคนในท้องถิ่นให้มีงานทำ มีรายได้ เพื่อจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีระบบเศรษฐกิจพอเพียงและพึ่งพาตนเองได้มากที่สุด โดยมีพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ.๒๕๕๑ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เป็นกฎหมายรองรับเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนงานพัฒนาภาคประชาชน ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงฯ ทำหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งและพัฒนากิจการของสภาองค์กรชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)จึงได้จัดประชุมสภาองค์กรชุมชน ขึ้นทุกปี ตามพ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนฯ ที่กำหนดให้ในแต่ละปีต้องมีการประชุมระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อเป็นการนำเสนอรูปธรรมการจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น และรวบรวมประเด็นจากที่ประชุมระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายในการสนับสนุนการจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น นางนภา กล่าวต่อว่า กระทรวงฯ พร้อมที่จะสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนให้ครอบคลุมทั่วถึงในทุกพื้นที่ เพื่อให้เป็นกลไกพื้นที่ในการเชื่อมโยงงานพัฒนาและจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยการรายงานผลการดำเนินงานของสภาองค์กรชุมชน และการนำเสนอความเห็น ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาด้านต่างๆ ตลอดจนเสนอประเด็นปัญหาที่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ ประสบ รวมทั้งข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไข ซึ่งผ่านความเห็นจากที่ประชุมในระดับชาติในวันนี้ นับเป็นการเสนอมิติใหม่ของกระบวนการพัฒนาโดยชุมชน ซึ่งได้มีการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างกันเป็นเครือข่ายเป็นสภาองค์กรชุมชนตำบล รวมถึงเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันในระดับจังหวัดทั้ง ๗๗ จังหวัด ซึ่งกระทรวงฯ จะได้นำข้อนโยบายเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงเวลา ๓ ปี ได้มีการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนทั่วประเทศแล้วประมาณ ๒,๖๐๐ ตำบล โดยจะได้ขยายผลการจัดตั้งอย่างต่อเนื่องจนครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศภายในปี ๒๕๕๕ นอกจากนี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยังจะได้ร่วมกันสนับสนุนให้สภาองค์กรชุมชน มีความเข้มแข็งและมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญของชุมชนท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาของชุมชนและประชาชนที่สำคัญอย่างจริงจัง.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ