ริเวอร์แควฯ และเอกโซติค ฟาร์ม วอนรัฐช่วยเข้ามาแก้ปัญหาค่าขนส่งผักสดทางอากาศ

ข่าวทั่วไป Wednesday December 25, 2002 08:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค
ผู้ประกอบการส่งออกผักสดทางอากาศรายใหญ่ 2 บริษัท คือ บจก.ริเวอร์แคว อินเตอร์เนชั่นแนล อุตสาหกรรมอาหาร และบจก.เอกโซติค ฟาร์ม โปรดิวซ์ (ประเทศไทย) ได้เปิดเผยว่า หลังจากทางบริษัท การบินไทย ได้ประกาศปรับอัตราค่าขนส่งทางอากาศ สำหรับสินค้าผักสด และดอกไม้ เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 7 ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ จะยิ่งส่งผลให้ประเทศไทยขาดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้น
นายโรจน์ บุรุษรัตน์พันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บจก.ริเวอร์แคว อินเตอร์เนชั่นแนล อุตสาหกรรมอาหาร และนายไพชยนต์ เอื้อทวีกุล ประธานกรรมการ บจก.เอกไซติค ฟาร์ม โปรดิวซ์ (ประเทศไทย) ได้กล่าวว่า การส่งออกผักสดของไทยที่สำคัญ เช่น ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง และกระเจี๊ยบ ในปัจจุบันต้องประสบปัญหาการแข่งขันอย่างรุนแรง นอกจากประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนามและจีน ซึ่งเพาะปลูกผักเหล่านี้ได้แล้ว ยังมีประเทศในแถบอเมริกาใต้ เช่น เปรู หรือในแถบอาฟริกา เช่น ซิมบับเว แทนซาเนีย เป็นประเทศคู่แข่งที่สามารถเพาะปลูกผักคล้ายคลึงกับประเทศไทยเช่นกัน โดยมุ่งการส่งออกไปในตลาดหลักเดียวกัน คือ ในยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษ ซึ่งเป็นตลาดที่มีปริมาณการนำเข้าสูง แต่ประเทศเหล่านั้นนอกจากมีค่าแรงที่ต่ำกว่าแล้ว ค่าขนส่งสินค้าทางอากาศยังต่ำกว่าเกิน 1 ตัว เช่น ค่าขนส่งจากเปรู และประเทศในอาฟริกา จะไม่เกิน 1 เหรียญสหรัฐต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม แต่สินค้าจากประเทศไทยปัจจุบัน ค่าขนส่งอยู่ที่ประมาณ 2 เหรียญสหรัฐ จึงทำให้วงจรของธุรกิจตั้งแต่เกษตรกร จนถึงผู้ส่งออกไม่สามารถขยายตัวได้เท่าที่ควร และมีแนวโน้มจะถูกลดส่วนแบ่งตลาดลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้ามีราคาสูงกว่า นอกจากค่าขนส่งแล้ว การบริหารเรื่องสถานที่สำหรับเก็บรักษาสินค้าที่เน่าเสียง่าย ก่อนบรรทุกสินค้าขึ้นเครื่องบิน (Perishable Center) สนามบินของประเทศไทยก็ยังไม่มีคามพร้อม และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สอดคล้องกับการควบคุมเรื่องสุขอนามัยอย่างเหมาะสม
ผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย ซึ่งมียอดส่งออกสินค้าผักสดรวมกันเกิน 500 ล้านบาทต่อปี ได้ขอให้ภาครับช่วยหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา เช่น ให้ทางบริษัทการบินไทย ศึกษาเรื่องการเช่าเหมาลำ (Chartered Flight) สำหรับการขนส่งสินค้าทั้งผักสด ผลไม้ และดอกไม้ ไปในทางเส้นทางที่มีปริมาณมากเพียงพอ เป็นต้น
การส่งออกสินค้าผักสดจากประเทศไทยยังมีศักยภาพอยู่หลายด้านเช่นฤดูกาลที่สามารถเพาะปลูกได้เกือบทั้งปี พืชพันธุ์ผักที่หลากหลาย สมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยที่ผักสดต่างๆ เหล่านั้นหากมีการควบคุมคุณภาพ และเข้มงวดเรื่องสารเคมีตกค้าง ยังเป็นจุดขายที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับสินค้าจากประเทศอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไปปรุงแต่งเป็นอาหารไทย ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในตลาดยุโรปในปัจจุบัน
รายละเอียดข่าวเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
จินตนา ตรีพิชิต บริษัท อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค จำกัด
โทร.02-585-1841 , 01-826-0639--จบ--
-ตม-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ