"โอกิลวี่" ผงาด ปิดงบปี 45 สูงกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาดครองแชมป์โฆษณายอดเยี่ยมของไทย ตั้งเป้าปี 46 โต 15%

ข่าวทั่วไป Wednesday January 8, 2003 14:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
ดีงเซียนการตลาด "เธียรชัย ฉัตรมงคลกุล" คืนรัง เสริมทีมบริหารให้คล่องตัวยิ่งขึ้น
กลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย ปิดปี 2545 ได้อย่างน่าพอใจด้วยการเติบโตสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาด มั่นใจปี 46 โต 15% หลังจากได้ลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพสูงหลายราย ประกอบกับแนวโน้มการขยายตัวอย่างมากและรวดเร็วของธุรกิจอื่นนอกเหนือจากงานโฆษณา
กลุ่มบริษัท โอกิลวี่ ภายใต้การนำของ ทีม ไอแซค ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทยเมื่อปี 2545 ที่ผ่านมา เผยผลประกอบการปี 2545 สามารถทำรายได้และรักษาอัตรากำไรไว้ได้ตามเป้าหมาย โดยกลุ่มบริษัทฯ มีการขยายตัว 15% จากปี 2544 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยของตลาดที่อยู่ในระดับ 10-12% เมื่อเทียบกับปี 2544
มร.ไอแซค กล่าวว่า "ปี 2545 นับเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะมีการแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายทั้งในวงการและในด้านความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ก็ยังสามารถสร้างผลประกอบการได้ตามเป้าหมาย มียอดแคปปิตอลไลซ์บิลลิ่งถึง 2,800 ล้านบาท รวมทั้งยังประสบความสำเร็จสูงจากการนำเสนองานที่สร้างสรรค์ มีความโดดเด่นให้แก่ลูกค้าได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งทำให้เราสามารกวาดรางวัลมากที่สุดและครองความเป็นผู้นำจากการประกวดผลงานโฆษณายอดเยี่ยมหรือแทค อวอร์ดในปี 2545 ด้วยเช่นกัน"
ผลประกอบการดีเป็นที่น่าพอใจในปี 2545 เป็นผลมากจากทั้งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจอื่น นอกเหนือจากงานโฆษณา และรายได้เพิ่มจากลูกค้ารายใหญ่ของธุรกิจโฆษณา เช่น ยูนิลีเวอร์ คอลด์เบคค์ ไทยประกันชีวิต โมโตโรลา และเรดบูล เป็นต้น แม้ว่าธุรกิจอื่นนอกเหนือจากงานโฆษณาจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ธุรกิจโฆษณาก็ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้กว่า 60% ให้แก่กลุ่มบริษัท โอกิลวี่ ในประเทศไทย โดยที่ โอกิลวี่ แอดเวอร์ไทซิ่ง มีอัตราการเติบโตประมาณ 5% ในปี 2545 เมื่อเทียบกับปี 2544
ทั้งนี้ โอกิลวี่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการสร้างธุรกิจการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management-CRM) และการตลาดแนวอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งมีบริษัท โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ เป็นผู้รับผิดชอบ ในปีที่ผ่านมาธุรกิจดังกล่าวสามารถทำรายได้เกินเป้าถึง 25% ทำให้รายได้ของบริษัทฯ สูงกว่าปี 2544 ถึง 50% และเมื่อเทียบกับกลุ่มโอกิลวี่แล้ว ธุรกิจดังกล่าวสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% สำหรับในปี 2546 นี้ คาดว่าจะยังสามารถขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพราะเพิ่งมีลูกค้าใหม่รายใหญ่อีกหลายราย อาทิ ดีแทค
สำหรับธุรกิจอื่น ๆ ในเครือโอกิลวี่ ก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจเช่นกัน โอกิลวี่ พีอาร์ มีผลประกอบการที่สูงกว่าเป้าหมายโดยมีอัตราการเติบโต 22% จากปี 2544 และสร้างรายได้ 15% ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ อีกทั้งยังสามารถสร้างชื่อจากการคว้ารางวัลระดับภูมิภาคหลายรายการ เช่น รางวัลแคมเปญ เพื่อการลงทุนและการเงินยอดเยี่ยม ที่จัดโดยนิตยสาร พีอาร์วีค สำหรับโครงการประชาสัมพันธ์การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
เอ็นเตอร์ไพรส์ มีผลประกอบการดีกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยมีอัตราการขยายตัวรวม 17% จากปี 2544 และสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ คิดเป็น 6% ส่วน รีซีลท์ส แอดเวอร์ไทซิ่ง มีการเติบโต 19% จากปี 2544 และสร้างรายได้ 4% ให้แก่กลุ่มโอกิลวี่ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการหาลูกค้าใหม่ได้เป็นจำนวนมาก เช่น ดีเอชแอล, บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) และแคเรียร์ เป็นต้น
นอกจากผลประกอบการที่ดีแล้ว โอกิลวี่ยังได้เตรียมพร้อมและเสริมทีมบริหารและการวางกลยุทธ์ให้แก่ลูกค้า เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง มีความคล่องตัวมากขึ้น
มร.ไอแซค กล่าวว่า "ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่จะทำให้เรารักษาตำแหน่งในฐานะผู้นำด้านการสื่อสารการตลาดนั้น คือ ความสามารถในการแปลงโจทย์ของลูกค้าให้เกิดผลเป็นจริงได้ตามเป้าหมาย ลูกค้าของเราต่างต้องการสิ่งที่จะเพิ่มคุณค่าให้แก่แบรนด์ของตน ต้องการที่ปรึกษาในด้านการวางกลยุทธ์ที่มีความเข้าใจภาพรวมธุรกิจได้อย่างลึกซึ้ง และต้องมีความสามารถสูงพอที่จะนำความเข้าใจดังกล่าวถ่ายทอดออกมาเป็นแผนงานสื่อสารการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ปัจจัยนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้บริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารการตลาดประสบความสำเร็จและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์จึงเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจนี้"
เพื่อที่จะเสริมความคล่องตัวและความแข็งแกร่งของทีมบริหารและการวางกลยุทธ์ โอกิลวี่ ได้แต่งตั้ง นายเธียรชัย ฉัตรมงคลกุล เป็น Group Management Partner ดูแลงานในส่วนของการวางแผนกลยุทธ์ให้แก่ลูกค้า (Strategic Planning)สำหรับกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการสร้างแบรนด์แบบ 360 องศาให้แก่ลูกค้าแต่ละราย
นายเธียรชัย เคยทำงานกับกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ มาก่อน และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มากมายในธุรกิจหลากหลายประเภทจากการร่วมงานกับบริษัทชั้นำหลายแห่งในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในช่วง 12 ปี ที่ผ่านมา ได้แก่ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด, กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้ โกลฟ, ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและโฆษณา บริษัท เทเลคอมเอเซีย จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท โลว์ จำกัด
ก่อนหน้านี้ โอกิลวี่ ได้แต่งตั้งนางกนกพร นิตย์ธีรานนท์ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ จำกัด นางกนกพรมีประสบการณ์รวมทั้งประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการพัฒนาและบริหารแผนกการตลาดทางตรงและเทเลมาร์เก็ตติ้งประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และแผนก Integrated Markeing Communications ประจำภูมิภาคอาเซียนและเอเชียใต้ของไอบีเอ็ม
"ภายใต้การนำของคุณกนกพร โอกิลวี่วันพร้อมที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจไทยสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับลูกค้าของตน ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่องค์กรธุรกิจไทย โอกิลวี่วันเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารและลูกค้าสัมพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดอยู่แล้วในระดับโลก สำหรับในประเทศไทยเราเชื่อว่าโอกิลวี่วันจะเป็นผู้นำในธุรกิจนี้และมีผลประกอบการรวมทั้งการเติบโตอย่างน่าพอใจเช่นกัน" มร.ไอแซคกล่าว
"ด้วยทีมบริหารที่แข็งแกร่ง มากด้วยประสบการณ์และทัศนคติที่ว่า "เราทำได้" ของชาวโอกิลวี่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถสร้างโอกาสได้จากความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในปี 2546 นี้ อย่างไรก็ดี เราคิดว่าปี 2546 นี้ จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่มั่นคง เราจึงตั้งเป้าหมายไว้แบบค่อนข้างพอดี ๆ ตัว เราเชื่อว่าในปีนี้ธุรกิจอื่นนอกเหนือจากงานโฆษณาจะยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็ว โอกิลวี่จะยังมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์งานที่มีคุณค่าและมูลค่าเพิ่มมากขึ้นให้แก่ลูกค้าของเรา ซึ่งจะทำให้เรามีความแตกต่างและมีศักยภาพในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น"
อนึ่ง โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ เป็นกลุ่มเอเจนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ด้วยเครือข่ายสำนักงานกว่า 120 แห่งใน 17 ประเทศ และได้รับเลือกให้เป็น "เอเจนซี่แห่งปี" ในปี 2541 และ 2542 ทั้งยังเป็นกลุ่มเอเจนซี่ที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งในสิบแห่งของโลก ด้วยเครือข่ายสำนักงานกว่า 377 แห่งใน 97 ประเทศทั่วโลกมีเครือข่ายครอบคลุมการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ตั้งแต่ ธุรกิจด้านการโฆษณา การตลาดทางตรง (Direct Marketing) สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Media) การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Maanagement) เทเลมาร์เก็ตติ้ง การวิจัยการตลาด การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย รวมถึงการออกแบบตราสัญลักษณ์เพื่อการสื่อสารองค์กร ทั้งนี้ โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ เป็นบริษัทในเครือดับบลิวพีพี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทให้บริการสื่อสารชั้นนำของโลก
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ในประเทศไทย มีหน่วยธุรกิจในเครือทั้งสิ้น 5 หน่วย ประกอบด้วย โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง, โอกิลวี่วัน เวิลด์วายน์, โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์, เอ็นเตอร์ไพรส์ ไอจี และ รีซัลท์ส แอดเวอร์ไทซิ่ง
แถลงข่าวในนาม : กลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม : จุฑารัตน์ ธนไพศาลกิจ
(chutharat.thanapaisarnkit@ogilvy.com)
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 0-2632-8300--7--จบ--
-ศน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ