ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 20, 2011 13:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 25,850-25,950 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,781 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.14-30.17 - GFV11 Hi- Low 26,630-26,020 ปิดที่ 26,530 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 35.8 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,778.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,771.00-1,832.90 ดอลลาร์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.668 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.163 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรปได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโรและหันเข้าไปถือครองสกุลเงินที่ปลอดภัยกว่า เช่นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 108.08 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 11,401.01 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 11.92 จุด หรือ 0.98% ปิดที่ 1,204.09 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 9.48 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 2,612.83 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤติหนี้ยุโรป หลังจากที่ประชุมรมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใดๆที่เฉพาะเจาะจงในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลกรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับอียู และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เกี่ยวกับการรับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งใหม่ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 2.26 ดอลลาร์ หรือ 2.60% ปิดที่ 85.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 84.79-87.75 ดอลลาร์ หลังจากที่ประชุมรมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใดๆที่เป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าวิกฤติหนี้ยุโรปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและทำให้ความต้องการพลังงานอ่อนแอลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 20 กันยายน ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1251.91ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกัวลว่า การผิดนัดชำระหนี้ของกรีซอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคธนาคารในยุโรป อย่างไรก็ตาม ยูโรสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลกรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เกี่ยวกับการรับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งใหม่ ค่าเงินยูโรข็งค่าขึ้น 0.83% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3682 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3797 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3639 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐที่ระดับ 76.550 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 76.770 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.55 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.41-30.44 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.14-30.17 บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - ทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ และนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้หารือกันทางโทรศัพท์ เกี่ยวกับวิกฤติหนี้สาธารณะในยูโรโซน และความคืบหน้าในตลาดการเงิน แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า ทั้งสองผู้นำเห็นชอบว่า "จำเป็นต้องมีการใช้มาตรการร่วมกันเพื่อจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก" มีรายงานว่า การหารือดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางภาวะตลาดการเงินทั่วโลกที่ผันผวนอย่างมาก โดยรายงานข่าวล่าสุดระบุว่า กรีซมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายต่อกลุ่มยูโรโซน ทั้งนี้ สหรัฐซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับภาระหนี้สินที่สูงขึ้นเรื่อยๆนั้น ได้ประสานงานด้านสถานการณ์การเงินอย่างใกล้ชิดกับประเทศคู่ค้าในยุโรป - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้เปิดเผยแผนการจัดเก็บภาษีฉบับใหม่ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถระดมรายได้จากการจัดเก็บภาษีราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ โอบามายังได้เสนอแผนการระดมรายได้ราว 5.80 แสนล้านดอลลาร์จากการลดการใช้จ่ายในบางด้าน ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายในโครงการ Medicare และ Medicaid, รายได้ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะมาจากการยุติการทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน และรายได้ 4.30 แสนล้านดอลลาร์จะมาจากการออมเงินที่ใช้ในการจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเติม การแถลงแผนลดยอดขาดดุลของโอบามาแทบจะไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดการเงิน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าโอกาสแผนการขึ้นภาษีของโอบามาจะผ่านความเป็นชอบจากสภาคองเกรสนั้น มีน้อยมาก เนื่องจากพรรครีพับลิกันคัดค้านนโยบายการขึ้นภาษีมาโดยตลอด - สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ A/A-1 จากอันดับเดิมที่ A+/A-1+ พร้อมกับคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือไว้ที่ "เชิงลบ" โดยระบุว่าอิตาลีซึ่งมีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยูโรโซนนั้น ยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวที่อ่อนแอ นอกจากนี้ สถานการณ์ด้านการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลของอิตาลีก็อยู่ในภาวะที่เประบางมาก S&P กล่าวว่า ความขัดแย้งด้านนโยบายและภาวะเปราะบางในพรรคร่วมรัฐบาลของอิตาลี จะยังคงจำกัดศักยภาพของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศและรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจในต่างประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ