สำนักงานต่างประเทศแห่งที่ 5 ของบีโอไอ พร้อมเปิดตัวในนครเซี่ยงไฮ้เมืองธุรกิจของจีน

ข่าวทั่วไป Thursday March 27, 2003 11:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--บีโอไอ
ท่ามกลางการรบระหว่างกองทัพของสหรัฐอเมริกาและกลุ่มพันธมิตรกับประเทศอิรักที่ยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงในเร็ววัน หรือจะยืดเยื้อออกไป แต่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอก็จะจัดงานเปิดตัวสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นคร เซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 เมษายน 2546 ที่จะถึงนี้ โดยสำนักงานแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนอาคารธนาคารกรุงเทพจำกัดประจำนคร เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นอาคารเดียวกันกับที่ตั้งสถานกงสุลไทยประจำนครเซี่ยงไฮ้ และสำนักงานพาณิชย์ของกระทรวงพาณิชย์
พิธีเปิดสำนักงานบีโอไอประจำนครเซี่ยงไฮ้ได้รับเกียรติจากรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานในพิธี และในวันเดียวกันนี้ก็จะมีพิธีลงนามความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างบีโอไอกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจีน เพื่อร่วมกันสนับสนุนการลงทุนทั้งของคนไทยในจีนและของคนจีนในไทย รวมทั้งจะมีการจัดสัมมนาใหญ่เรื่องโอกาสและลู่ทางการลงทุนทั้งในจีนและไทยด้วย
สำนักงานของบีโอไอในนครเซี่ยงไฮ้นี้เป็นสำนักงานในต่างประเทศแห่งใหม่ล่าสุดของบีโอไอ ปัจจุบันบีโอไอมีสำนักงานต่างประเทศ 4 แห่ง คือที่ นิวยอร์ค แฟรงเฟิร์ต ปารีสและโตเกียว แต่เหตุผลที่ทำให้ต้องมีการตั้งสำนักงานขึ้นในจีนเพราะการเปลี่ยนแปลงของพื้นฐานทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศจีนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้การลงทุนจากทั่วโลกพุ่งเป้าไปยังจีนมากที่สุด จีนจึงเป็นทั้งแหล่งรองรับการลงทุนที่มีแรงงานราคาถูก มีทรัพยากรมหาศาล จีนเป็นตลาดที่ใหญ่โตด้วยจำนวนประชากรกว่า 2,000 ล้านคน และกำลังซื้อในจีนก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้จีนก็มีศักยภาพที่จะไปลงทุนในต่างประเทศด้วย
ดังนั้น การเข้าไปตั้งสำนักงานในจีนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่คำถามมีอยู่ว่า ทำไมบีโอไอจึงเลือกที่จะตั้งสำนักงานในนครเซี่ยงไฮ้ ทั้งที่เมืองหลวงของจีนคือกรุงปักกิ่ง และยังมีเมืองใหญ่อย่างกวางโจว และเซินเจิ้น
บีโอไอเลือกนครเซี่ยงไฮ้เพราะการค้าการลงทุนนั้นจะเกิดขึ้นในเมืองธุรกิจ เมืองที่เป็นศูนย์รวมทางการค้า การเงินและการขนส่ง ซึ่งนครเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีความเจริญทางด้านธุรกิจมายาวนาน และที่สำคัญนครเซี่ยงไฮ้อยู่ใกล้กับเขตเศรษฐกิจ ใช้เวลาในการเดินทางน้อยไม่ว่าจะขึ้นเหนือหรือลงใต้ ในขณะที่เมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งเป็นศูนย์กลางทางราชการ
ภารกิจหลักของสำนักงานบีโอไอในนครเซี่ยงไฮ้นั้นจะทำหน้าที่ในการชักจูงนักลงทุนจีนให้เข้ามาลงทุนในไทย และทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนให้กับนักธุรกิจไทยที่ต้องการไปลงทุนในจีน โดยสำนักงานบีโอไอจะเน้นการสร้างเครือข่ายด้านการลงทุน ทั้งกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจีนในทุกหัวเมืองใหญ่ อาทิ ปักกิ่ง หางโจว ซูโจว กวางโจว และคุนหมิง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นหัวเมืองชายฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของจีน ส่วนหัวเมืองฝั่งตะวันตกของจีนจะอยู่ในแผนงานในอนาคต
นอกจากนี้ก็จะดำเนินการจัดสัมมนาใหญ่เรื่องโอกาสและลู่ทางการลงทุนในทุกหัวเมืองใหญ่เมืองละอย่างน้อย 1 ครั้งในปี 2546 จากนั้นสำนักงานบีโอไอประจำนคร เซี่ยงไฮ้ก็จะติดตามกลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนที่มีความเป็นไปได้ในการเข้ามาลงทุนในไทย โดยขณะนี้บีโอไอมีรายชื่อกลุ่มนักลงทุนใหญ่ดังกล่าวอยู่กว่า 50 ราย ซึ่งแม้ว่ากลุ่มดังกล่าวจะยังไม่ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยทันทีทันใด แต่อย่างน้อยบีโอไอก็จะมีเครือข่ายด้านการลงทุนที่เป็นภาคเอกชนรายใหญ่ของจีนเพิ่มมากขึ้น
สำหรับวิธีการดำเนินงานของสำนักงานบีโอไอประจำนครเซี่ยงไฮ้ในขวบปีแรกนี้จะเน้นหนักเรื่องการสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เพราะการทำธุรกิจในจีนจะต้องอาศัยความสัมพันธ์กับเครือข่าย ซึ่งนายวิญญู เล้าพูนพิทยะ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสำนักงานประจำนครเซี่ยงไฮ้ เพราะมีประสบการณ์มากมาย เคยเป็นผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคเหนือ (เชียงใหม่) มีประสบการณ์ในต่างประเทศเมื่อสมัยที่ดำรงตำแหน่งเลขานุการเอก (ฝ่ายการลงทุน) สถานเอกอัครราชทูต
ไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการตลาดคนหนึ่งในบีโอไอ นายวิญญูจึงนำกลยุทธทางการตลาดมาเป็นวิธีการดำเนินงานของสำนักงานประจำนครเซี่ยงไฮ้ โดยบีโอไอจะเน้นการประชาสัมพันธ์บทบาทหน้าที่และการอำนวยความสะดวกของสำนักงานบีโอไอเป็นที่รู้จักก่อน จากนั้นก็จะสร้างเครือข่ายและพันธมิตรกับทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อใช้วิธีการต่างๆ ผันตัวเองให้เป็นส่วนหนึ่งในแผนงานของเครือข่าย ในขณะเดียวกันก็จะมีกิจกรรมชักจูงการลงทุนจากจีนมายังไทยประกอบกันไป
สิ่งที่น่าติดตามหลังจากนี้คือ กลยุทธและแผนงานที่วางไว้จะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ไม่นานเกินรอ สิ้นปี 2546 นี้ สำนักงานบีโอไอประจำนครเซี่ยงไฮ้คงจะมีผลงานออกมาให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม--จบ--
-ศน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ