กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--ตีฆ้องร้องป่าว
สสส.หนุนสร้างชุมชนให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน มีสุขภาวะครบทั้งกาย ใจ สังคม ปัญญา เผยชุมชนในภาคใต้แห่ขอรับทุนสนับสนุนกว่า 100 โครงการ ในจำนวนนี้มีชุมชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอทุน 15 โครงการ พร้อมยืนยันสสส.มุ่งมั่นให้ชุมชนในสังคมไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้าทั่วทุกพื้นที่
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยในการประชุมปฐมนิเทศและแลกเปลี่ยน ผู้รับทุนโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ ภาคใต้ ประจำปี 2554 ที่โรงแรมบีพีแกรนด์ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่าโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างความเข้าใจกับคนในชุมชนให้รู้จักการจัดการ วางแผน อันเกิดจากการระดมสมอง กลั่นกรองความรู้เพื่อนำไปสู่การทำแผนชุมชน เพื่อขับเคลื่อนชุมชนและท้องถิ่นให้มีสุขภาวะครบ 4 มิติ ทั้งกาย ใจ สังคมและปัญญา
สำหรับพื้นที่ภาคใต้ นับเป็นภูมิภาคหนึ่งที่มีพื้นฐานทางสังคมความเป็นอยู่ที่เข้มแข็ง หรือมีพื้นฐานทางสุขภาพที่ดี แต่ยังขาดกระบวนการจัดการเรื่องขององค์ความรู้ รวมทั้งการยกระดับให้เป็นที่รู้จักและเป็นแบบอย่างแก่ชุมชนในภูมิภาคอื่น ด้วยเหตุนี้สถาบันการจัดการระบบสุขภาพภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (สจรส.ม.อ.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่พื้นที่ภาคใต้ ปี 2554 โดยการสนับสนุนทุนให้กับชุมชนและท้องถิ่นในการดำเนินโครงการร่วมกัน
“ปีนี้มีชุมชนจากทั่ว14 จังหวัดภาคใต้ ขอเข้าร่วมโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ ถึง108ชุมชน ทำให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้รับทราบข้อมูลและแนวทางของแต่ละชุมชนในการจัดการปัญหาที่บั่นทอนหรือทำลายภาวะสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนสร้างสุขให้กับชุมชน” ทพ.กฤษดา กล่าว
ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวต่อว่า เป็นที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วยปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีชุมชนเข้าร่วมโครงการ ร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ ถึง15 ชุมชน ซึ่งเป็นการสะท้อนภาพให้เห็นว่าท่ามกลางปัญหาความไม่สงบที่ยังปรากฎอย่ในพื้นที่ แต่ชาวบ้านก็มีกระบวนการในการสร้างสุขภาวะที่ดีได้ด้วยกิจกรรมต่างๆ
“ทุกพื้นที่สามารถจัดการปัญหาในท้องถิ่นตนเองได้ โดยมีแนวทางของตัวเอง แต่ทั้งนี้ต้องสร้างความพร้อมให้กับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นเพื่อรู้จักการสังเคราะห์ข้อมูลปัญหา นำไปสู่จัดการข้อมูล จัดการแผน และการขับเคลื่อนเพื่อนำไปพัฒนาการจัดการชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ทพ.กฤษดา กล่าว
ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวต่อว่า การดำเนินการในครั้งนี้ สสส.จะเป็นดั่งหน่วยภารกิจเฉพาะในการทำให้ชุมชนในสังคมไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า ด้วยการสร้างภาคีเครือข่ายในการเติมเต็มรอยยิ้มให้ปรากฎทั่วทุกพื้นที่ให้ได้มากที่สุด