กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--สวทช.
อุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยมีมานานกว่า 40 ปี และเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อพิจารณาทั้งในด้านการจ้างงาน การส่งออก และมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรม อาทิ ในปี 2543 อุตสาหกรรมสิ่งทอได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ระบบเศรษฐกิจเท่ากับ 270,179 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมร้อยละ 5.51 รวมทั้งมีบทบาทในการสร้างงานมากที่สุดในหมวดอุตสาหกรรมคิดเป็นจำนวนการจ้างงานในปี 2543 เท่ากับ 1,083,700 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.6 ของการจ้างงานในหมวดอุตสาหกรรมทั้งหมด
ต่อมาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยได้เริ่มมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและในจำนวนที่สูงมากขึ้น โดยปี2543 อุตสาหกรรมสิ่งทอมีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 223,512 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.0 ของมูลค่าการส่งออกทั้งประเทศ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยมีการขยายตัวมาโดยตลอด ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตภายในประเทศ อีกทั้งจำนวนเครื่องจักรเพื่อการผลิตของอุตสาหกรรมสิ่งทอทุกสาขาก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าปัจจุบันโรงงานฟอกย้อม พิมพ์ และตกแต่งสำเร็จ สิ่งทอทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมากประสบกับปัญหาการขาดความรู้ และเทคนิคการใช้ทรัพยากร การผลิต การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ ส่งผลให้คุณภาพผลิตภัณฑ์ไม่แน่นอน โรงงานส่วนมากไม่มีผู้เชี่ยวชาญช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสินค้า ในขณะเดียวกันข้อจำกัดทางด้านโควต้าและการเปิดประเทศของประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศจีน อินเดีย บังคลาเทศ และปากีสถาน ทำให้ผู้ซื้อสินค้าสิ่งทอหันไปซื้อสินค้าจากประเทศเหล่านั้น ผนวกกับพัฒนาการในเรื่องเขตการค้าเสรี และความต้องการสินค้าอย่างเร่งด่วนของผู้ซื้อ เพื่อลดค่าใช้จ่ายทางการเงิน การเก็บสต็อกและความเสี่ยงทางด้านการค้า ทำให้ประเทศที่มีค่าแรงงานสูงปานกลาง อาทิ ประเทศเม็กซิโก ประเทศทางยุโรปตอนใต้ และประเทศยุโรปตะวันออก เริ่มเข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมสิ่งทอมากขึ้น
นอกจากปัญหาด้านกระบวนการผลิตแล้ว ปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรมนี้ คือ ต้นทุนของน้ำ และการกำจัดของเสียและน้ำเสีย ซึ่งต้องอาศัยองค์ความรู้ในงานฟอกย้อม พิมพ์และตกแต่งสำเร็จ และข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรฐานน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ซึ่งปัญหาดังกล่าวถือเป็นหัวใจการทำงานของโรงงานที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา เพื่อให้โรงงานมีการจัดการและแนวทางการบำบัดที่ถูกต้อง
ดังนั้น สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และภาควิชาวิศวกรรมสิ่งทอ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ร่วมกับโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย(ITAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดโครงการ “การปรับปรุงและเพิ่มผลผลิตในงานฟอกย้อม พิมพ์ และตกแต่งสำเร็จของอุตสาหกรรมสิ่งทอ” เพื่อให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับความรู้และเทคนิคการผลิต การปรับปรุง และการพัฒนากระบวนการผลิต อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงเสริมศักยภาพในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นความหวังว่าโรงงานจะหาแนวทางในการลดการใช้สารเคมีและพลังงานที่ใช้ในการผลิตอุตสาหกรรมสิ่งทอ รวมทั้งลดต้นทุนในการผลิตเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
ทั้งนี้ โครงการได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานและเป้าหมาย อันประกอบด้วย
กิจกรรมที่ 1 จัดอบรมสัมมนาเพื่อให้บริษัทได้รับความรู้ในหัวข้อ “เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดในงานฟอกย้อม พิมพ์และตกแต่งสำเร็จของอุตสาหกรรมสิ่งทอ” ในวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2548 ณ ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสยามซิตี้ ราชเทวี กรุงเทพฯ
กิจกรรมที่ 2 เข้าเยี่ยมบริษัทตัวอย่างที่ใช้ Cleaner Technology ในงานย้อม พิมพ์และตกแต่งสิ่งทอ
กิจกรรมที่ 3 เข้าเยี่ยมและวินิจฉัยปัญหาและความต้องการของบริษัท เพื่อนำไปสู่การสรุปปัญหาโดยภาพรวมและการขอรับบริการจากโครงการ ITAP ด้านการให้คำปรึกษาสำหรับโครงการเดี่ยวต่อไป โดยจะคัดเลือกบริษัทที่เข้าร่วมในกิจกรรมที่ 1 และ 2 หรือบริษัทที่ให้ความสนใจ
กิจกรรมที่ 4 ให้คำปรึกษาแก่บริษัทที่สนใจขอรับบริการเพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดรายบริษัท
โดยมีระยะเวลาของโครงการรวมทั้งสิ้น 16 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2548 - 30 มิถุนายน 2549 ซึ่งประโยชน์ที่ผู้ประกอบการและผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับในครั้งนี้คือความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดสำหรับพิมพ์และตกแต่งสำเร็จสิ่งทอ ทราบถึงข้อมูลความต้องการและปัญหางานฟอกย้อม พิมพ์และตกแต่งสำเร็จสิ่งทอของผู้ประกอบการ เพื่อสร้างแนวทางการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหา การพัฒนาทางเทคนิค และการเสนอใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด หลังจากผู้เชี่ยวชาญเข้าเยี่ยมและวินิจฉัยปัญหาและความต้องการเบื้องต้นที่บริษัท อีกทั้งทำให้บริษัทได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมบริษัทตัวอย่าง เพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการที่จะพัฒนาเทคโนโลยีในบริษัทตนเองต่อไป รวมถึงบริษัทจะได้ปรับและใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับงานฟอกย้อม พิมพ์และตกแต่งสำเร็จสิ่งทอ การจัดการและคำแนะนำระบบบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้บริษัทมีศักยภาพการแข่งขันในตลาดที่ยั่งยืน นอกจากนี้ยังสามารถสนองความต้องการในการแก้ปัญหาเป็นรายบริษัทตามความสนใจและต้องการ เพื่อนำไปสู่การมีศักยภาพในการแข่งขันต่อไป ที่สำคัญคือเกิดเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจเข้าร่วมการสัมมนาสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวรรณรพี สายน้ำเขียว โทรศัพท์ 0-2564-7000 ต่อ 1379 โทรสาร 0-2564-7003 หรือ 0-2564-7093 E-mail : wanrapee@nstda.or.th และที่เว็ปไซต์ www.ttcexpert.com ปิดรับสมัครวันที่ 13 พฤษภาคม 2548
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย(ITAP)
โทร.0-2619-6187,8--จบ--