ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 12, 2011 11:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 24,400-24,500 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,665.5 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 31.01-31.04 - GFV11 Hi- Low 24,790-24,440 ปิดที่ 24,590 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9.8 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,661 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นถึง 2.1% เมื่อวันจันทร์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.8 เซนต์ ปิดที่ 31.998 ดอลลาร์/ออนซ์ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายเบาบาง ก่อนที่รัฐสภาสโลวาเกียจะลงมติแผนการเพิ่มขนาดของทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) โดยมีกระแสข่าวว่า สโลวาเกียอาจไม่อนุมัติแผนการดังกล่าวเนื่องพรรคร่วมรัฐบาลเสียงแตก ขณะเดียวกัน สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากที่ประธานธนาคารกลางยุโรปออกมาเตือนว่าวิกฤตหนี้ยุโรปกำลังขยายวงกว้างกลายเป็นความเสี่ยงในเชิงระบบ ซึ่งดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นได้กระตุ้นให้นักลงทุนขายทองคำ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโ จนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 16.88 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 11,416.30 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.65 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 1,195.54 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 16.98 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 2,583.03 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีวิตกกังวลในขณะที่รอดูผลการลงมติของรัฐสภาสโลวาเกียต่อแผนการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งจะมีขึ้นหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทเอกชนที่จะทยอยเปิดเผยในเดือนนี้ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 85.81 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกสำหรับปีนี้และปีหน้า เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยราคาเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จากความหวังว่าผู้นำยุโรปจะประกาศแผนการใหม่ในการรับมือปัญหาหนี้สินในภูมิภาค หลังจากที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรีเยอรมนีบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือกรีซและการใช้มาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรป นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังดีดตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐที่เคลื่อนไหวในแดนบวกระหว่างวัน ก่อนที่บริษัทต่างๆจะเริ่มทยอยเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสามซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะออกมาดี กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 12 ตุลาคม ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1227.99ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) ก่อนที่รัฐสภาสโลวาเกียจะลงมติแผนการเพิ่มขนาดกองทุนสร้างเสถียรภาพยุโรป (EFSF) ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือควบคุมหนี้สาธารณะไม่ให้ลุกลาม โดยสโลวาเกียเป็นประเทศเดียวที่ยังไม่ได้โหวตแผนการดังกล่าว หลังจากที่ประเทศยูโรโซนอีก 16 ประเทศได้ไฟเขียวแผนการเพิ่มขนาดกองทุนกู้วิกฤตยูโรโซนไปกันหมดแล้ว ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.182% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3666 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3642 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3644 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ 0.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.670 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 76.660 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.670 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.93-30.96 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 31.01-31.04บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - วุฒิสภาสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 35 อนุมัติร่างกฎหมายการปฏิรูประบบกำกับดูแลอัตราแลกเปลี่ยน โดยร่างกฎหมายนี้มีจุดประสงค์ที่จะกดดันรัฐบาลจีนให้ปล่อยให้หยวนแข็งค่าขึ้น เพื่อส่งผลบวกต่อการสร้างงานในสหรัฐ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเปิดทางให้สหรัฐสามารถตอบโต้จีนด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เนื่องจากจีนปล่อยเงินหยวนให้อ่อนค่าเกินจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการทำกำไรของกลุ่มผู้ส่งออกของสหรัฐและเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ส่งออกของจีนอย่างไม่เป็นธรรม สำหรับเนื้อหาหลักๆของร่างกฎหมายปฏิรูประบบกำกับดูแลอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ระบุว่า บริษัทสหรัฐสามารถเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการสอบสวนในประเด็นที่ว่า รัฐบาลต่างชาติให้การอุดหนุนบริษัทของประเทศตนผ่านทางการทำให้ค่าเงินอยู่ในระดับต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ - วุฒิสภาสหรัฐมีมติไม่รับรองแผนกระตุ้นการสร้างงานฉบับใหม่ซึ่งเสนอโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการลงมติรอบแรกด้านกระบวนการปฏิบัติ (procedural vote) เนื่องจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครทบางคนได้ออกเสียงคัดค้านแผนการเก็บภาษีคนรวย ซึ่งรวมอยู่ในแผนกระตุ้นการจ้างงานฉบับนี้ด้วย เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโอบามาได้เสนอแผนกระตุ้นการสร้างงานฉบับใหม่ต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งแผนการดังกล่าวมีชื่อว่า "American Jobs Act" โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานภายในประเทศ โดยเฉพาะคนงานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ครูอาจารย์ สัตว์แพทย์ และจะสร้างงานมากขึ้นให้กับผู้ที่ตกงานมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ แผนดังกล่าวจะลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทต่างๆที่จ้างพนักงานใหม่ และจะลดภาษีเงินได้กับพนักงานชาวอเมริกันทุกคน และธุรกิจขนาดเล็กทุกแห่ง อย่างไรก็ตาม แผนกระตุ้นการจ้างงานฉบับใหม่ของโอบามาไม่สามารถผ่านการลงมติรอบแรกของวุฒิสภา เนื่องจากมีคะแนนโหวตไม่ถึง 60 เสียง อันเนื่องมาจากวุฒิสภาชิกบางคนได้ออกมาเสียงคัดค้านแผนการขึ้นภาษีคนรวยที่รวมอยู่ในแผนกระตุ้นการจ้างงานฉบับนี้ด้วย - กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกสำหรับปี 2554 และ 2555 เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โอเปคคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 880,000 บาร์เรล/วัน เป็น 87.81 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่ 87.99 ล้านบาร์เรล/วัน สำหรับปี 2555 โอเปคประมาณการว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 89.01 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 89.26 ล้านบาร์เรล/วัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ