ทีเอ็มบี มีกำไร 750 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2554 ผลกำไรรวม 9 เดือน 3,041 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีที่แล้ว 28%

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 20, 2011 09:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ธนาคารทหารไทย ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี เผยผลประกอบการของธนาคารและบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 3 ของ 2554 มีกำไรสุทธิ 750 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3.2% จากไตรมาส 3/2553 ส่งผลให้ในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ มีผลกำไรสุทธิรวม 3,041 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 27.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ธนาคารมีผลการดำเนินงานหลัก ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนต่างดอกเบี้ยรับ (Net Interest Margin — NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 2.49% เมื่อเทียบกับ 2.45 % ในไตรมาส 2/2554 และ 2.03% ในไตรมาสที่ 3/2553 ทำให้รายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น 6.1% จากไตรมาส 2/2554 และ 46.5% จากไตรมาส 3/2553 ในขณะที่รายได้หลักที่มิใช่ดอกเบี้ย ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือเพิ่มขึ้น 20.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2554 และ 38.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2553 นอกจากนี้ ธนาคารยังมีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้น 9.4% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว อันเป็นผลเนื่องมาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากที่มอบประโยชน์โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าที่ไม่เคยได้รับมาก่อนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการปรับปรุงช่องทางการบริการซึ่งทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการของธนาคารได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันสินเชื่อคุณภาพก็เติบโตเพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้วซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของธนาคาร ในด้านของสภาพคล่อง ธนาคารยังคงดำเนินนโยบายระมัดระวังโดยธนาคารดำรงสภาพคล่องไว้ในระดับสูง ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วเงินฝาก (Loan to Deposit & BE Ratio) ที่อยู่ที่ 84% ในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารมีจำนวน 29,137 ล้านบาท ลดลง 885 ล้านบาท สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวน 31,647 ล้านบาท ลดลง 986 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร ณ สิ้นไตรมาสนี้คิดเป็น 6.1% สำหรับงบเฉพาะธนาคารและ 6.6 % สำหรับธนาคารและบริษัทย่อย อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้ธนาคารได้ตั้งสำรองจำนวน 1,747 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2554 และไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว เนื่องจากธนาคารมีนโยบายเชิงระมัดระวัง ในการรับมือกับสถานการณ์การผันผวนของเศรษฐกิจและวิกฤตตลาดเงินของต่างประเทศซึ่งอาจมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ ทั้งนี้ หลังจากตั้งสำรอง ธนาคารมีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็น 71% จาก 64% ในไตรมาสที่แล้ว ทั้งนี้ ธนาคารมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2554 มีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 16.9% ซึ่งเป็นกองทุนชั้นที่ 1 ในสัดส่วน 11.7% สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 299 1950, 1953, 1715 / 02 242 3260

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ