กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--วิวาลดี้
คณะกรรมการบริหารแห่งบรรษัทการลงทุนเอกชนในต่างประเทศ (Overseas Private Investment Corporation: OPIC) ซึ่งเป็นสถาบันพัฒนาด้านการเงินของรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา ได้อนุมัติงบสนับสนุนกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการพัฒนาโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในประเทศไทยจำนวน 51 แห่ง ซึ่งการบุกเบิกโครงการประเภทนี้จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในเมืองไทยให้เกิดการขยายตัวมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการมอบเงินทุนจำนวนมหาศาล เพื่อการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเมืองไทย ผ่านการดำเนินงานร่วมกับธนาคารภายในประเทศ
ซันเอดิสัน ประเทศไทย เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำระดับโลกซึ่งมีฐานการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา และเป็นสำนักงานสาขาของบริษัท เอ็มอีเอ็มซี อิเล็กทรอนิก แมททีเรียล จำกัด จะได้นำงบประมาณดังกล่าวไปใช้ในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์และผลิตพลังงานทดแทนที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เพื่อป้อนสู่โครงสร้างด้านระบบไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 1 ถึง 50 เมกะวัตต์ และเมื่อรวมทั้งหมดแล้ว จะมากถึง 520 เมกะวัตต์
“เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนมาใช้แหล่งพลังงานทดแทนที่สะอาดและไม่สร้างผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม การอนุมัติงบสนับสนุนครั้งนี้ทำให้ ซันเอดิสัน สามารถพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง แทนที่จะต้องของบประมาณเพื่อนำมาพัฒนาโครงการทีละแห่ง” มิสเอลิซซาเบธ ลิตเติ้ลฟีลด์ ประธานและผู้บริหารสูงสุดแห่งบรรษัทการลงทุนเอกชนในต่างประเทศ กล่าว
ซันเอดิสัน คือหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือและยังเป็นผู้บุกเบิกรูปแบบบริการด้านพลังานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรชั้นนำของโลก โดยมีความผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านการพัฒนา การออกแบบ การวางระบบ การติดตั้ง การจัดหาแหล่งเงินทุน การตรวจสอบ การดำเนินงานและการซ่อมบำรุงระบบเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ โดยเมื่อคำนวนจนถึงเดือนมิถุนายน 2554 นี้ ปรากฏว่า ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ซันเอดิสันได้ดำเนินงานหรือบริหารจัดการทั้ง 526 แห่ง สามารถผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้วมากกว่า 330 เมกะวัตต์
เอ็มอีเอ็มซี คือผู้นำในด้านการออกแบบและการผลิตซีลิโคนเวเฟอร์เพื่อใช้ในอุปกรณ์กึ่งตัวนำเป็นอันดับสี่ของโลก และเป็นผู้ผลิตซีลิโคนเวเฟอร์ซึ่งใช้ในในแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่เป็นอันดับห้า และยังเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ
บรรษัทการลงทุนเอกชนในต่างประเทศ (Overseas Private Investment Corporation: OPIC) เป็นสถาบันพัฒนาด้านการเงินของรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำหน้าที่ระดมเงินทุนสำหรับภาคเอกชนเพื่อการแก้ไขปัญหาในโครงการพัฒนาที่สำคัญ เพื่อผลักดันนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ ให้ก้าวไปข้างหน้า ทั้งยังมีส่วนในการสร้างรากฐานให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในการบุกตลาดใหม่เพื่อสร้างรายได้ ตำแหน่งงานและโอกาสในการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่ง OPIC บรรลุเป้ามายดังกล่าวด้วยการจัดหาเงินทุน การค้ำประกัน การรับประกันความเสี่ยงทางการเมือง และการสนับสนุนกองทุนเพื่อการลงทุนสินทรัพย์ของเอกชน
OPIC ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1971 ในฐานะหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐเมริกา ซึ่งดำเนินงานบนพื้นฐานการสนับสนุนตนเอง และไม่เป็นภาระแก่ผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน โดยให้บริการแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกิจทั้งรายใหม่ และรายเดิมที่ต้องการขยายธุรกิจ ในมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก จวบจนปัจจุบัน OPIC ได้สนับสนุนเงินทุนไปแล้วมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่โครงการกว่า 4,000 แห่ง ก่อให้เกิดการส่งออกในสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าถึง 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างงานให้แก่ชาวอเมริกันมากกว่า 275,000 ตำแหน่ง