อินเทลดึงกฎของมัวร์พลิกโฉมการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งในบ้านและนอกบ้านผลักดันการเกิดคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่

ข่าวทั่วไป Wednesday January 14, 2004 11:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
เมื่อเร็วๆ นี้ มร. พอล โอเทลลินิ ประธานและประธานฝ่ายปฏิบัติการของอินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้กล่าวในงานอินเตอร์เนชั่นแนล คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ (International Consumer Electronics Show) ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า อินเทลอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อที่จะดึงพลังความสามารถของเทคโนโลยีการประมวลผลมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับโลกคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมุ่งสร้างสรรค์ให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกและง่ายดาย มีความคล่องตัวสูงในการใช้งาน ตลอดจนมีสมรรถนะและประโยชน์ใช้สอยต่อผู้บริโภคเพิ่มขึ้นด้วย ความพยายามดังกล่าวของอินเทลมีขึ้นเพื่อทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีซิลิคอนที่ล้ำหน้าและพัฒนามาตรฐานแบบเปิดให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
มร.โอเทลลินิ ยังได้กล่าวในระหว่างการบรรยายสุนทรพจน์แก่บุคคลในแวดวงอุตสาหกรรมนี้ต่อไปว่า แรงขับเคลื่อนแบบเดียวกันที่เข้ามาเป็นตัวผลักดันการปฏิวัติอุตสาหกรรมพีซี ได้แก่ การที่เรากำลังก้าวเข้าสู่กลุ่มคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง เมื่อโลกคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์และคอนเทนท์ได้เปลี่ยนจากระบบอนาล็อกมาเป็นดิจิตอล ก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสมหาศาลในการปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ พร้อมทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและสามารถรวมคุณสมบัติต่างๆ มาไว้ในอุปกรณ์ดังกล่าวได้อีกด้วย ทั้งนี้ เป็นผลจากการนำ "กฎของมัวร์" มาประยุกต์ใช้กับอีกอุตสาหกรรมหนึ่งนั่นเอง"
"เป้าหมายของเราคือ การกำจัดพรมแดนที่กั้นการใช้งานระหว่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในบ้านและนอกบ้าน โดยเราได้ทำงานร่วมกับบริษัทต่างๆ ทั้งในวงการพีซีและคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว สำหรับในปี พ.ศ. 2547 นี้ อินเทลจะให้ความสำคัญกับเป้าหมายดังกล่าวมากพอๆ กับงานที่เราได้ทำไปเมื่อปีที่แล้วเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับเทคโนโลยีไร้สายสำหรับการประมวลผลแบบเคลื่อนที่"
อินเทลวางแผนที่จะนำนวัตกรรมซิลิกอนและแพล็ตฟอร์มที่ใช้มาตรฐานแบบเปิดมาประยุกต์เข้ากับดิจิตอลโฮมเพื่อช่วยสร้างยุคใหม่ให้กับโลกคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำให้ผู้คนสามารถเปิดดูคอนเทนท์อิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ หรือใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม ปัจจุบัน อินเทลมีโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น โดยทำผ่านกองทุนอินเทลดิจิตอลโฮม ซึ่งมีเงินในกองทุนรวม 200 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับกองทุนอินเทลดิจิตอลโฮม ได้มีการประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จะเข้าไปลงทุนในบริษัทต่างๆ ที่ผลิตส่วนประกอบให้กับผลิตภัณฑ์ของอินเทลและเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีและคอนเทนท์หลักๆ ที่จะช่วยให้อุปกรณ์และเทคโนโลยีสำหรับดิจิตอลโฮมมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นและใช้งานได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่า กองทุนดังกล่าวจะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญของอินเทล แคปิตอล ซึ่งเป็นโครงการการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ของบริษัทนั่นเอง
นอกจากการลงทุนมูลค่ามหาศาลดังกล่าวแล้ว อินเทลยังได้นำความชำนาญในด้านเทคโนโลยีไร้สายและความสามารถในฐานะที่เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมซิลิคอน มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับการใช้และการควบคุมดิจิตอลคอนเทนท์อีกด้วย ตัวอย่างงานพัฒนาซึ่งมีอยู่หลายชิ้น ได้แก่ การพัฒนาอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงที่ชื่อว่า "เอ็นเตอร์เทนเมนท์ พีซี" (Entertainment PC) ซึ่งเป็นอุปกรณ์พีซีรูปทรงเพรียวบางเชื่อมต่อกับจอโทรทัศน์ เราสามารถใช้เอ็นเตอร์เทนเมนท์ พีซี ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเพลิดเพลินกับดิจิตอลคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เกมต่างๆ ตลอดจนวิดีโอที่มีความคมชัดสูง อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้จะสามารถส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันได้แบบไร้สาย โดยการสั่งงานด้วยรีโมตคอนโทรลแทนการใช้คีย์บอร์ดอย่างที่เป็นอยู่ นอกจากนี้เอ็นเตอร์เทนเมนท์ พีซี ยังมีปุ่มเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ ซึ่งทำหน้าที่เป็น ดิจิตอล มีเดีย อแดปเตอร์ หรือตัวแปลงสัญญาณสื่อดิจิตอล ไปในตัวด้วย โดยมาพร้อมกับพัดลมไร้เสียงและตัวเชื่อมสัญญาณภาพและเสียงของอุปกรณ์คอนซูเมอร์ ทั้งนี้คาดว่า เอ็นเตอร์เทนเมนท์ พีซี ซึ่งสามารถทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายได้ด้วย จะมีวางจำหน่ายในราวกลางปีนี้ โดยผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายต่างๆ จะนำมาจำหน่ายในราคาไม่เกิน 800 เหรียญสหรัฐ
นอกเหนือจากนี้ อินเทลยังได้เปิดตัวเทคโนโลยีต่างๆ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งรวมถึง Liquid Crystal on Silicon (LCOS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อินเทลออกแบบมาเพื่อใช้ปรับปรุงรูปทรงของจอแสดงภาพขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าเดิม เป็นที่คาดการณ์ว่าเทคโนโลยี Liquid Crystal on Silicon ของอินเทลซึ่งขณะนี้มีชื่อรหัสว่า Cayley จะถูกนำมาใช้กับจอภาพขนาดใหญ่ภายในต้นปีนี้ คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตจอภาพซึ่งจะส่งผลให้ราคาของจอภาพดังกล่าวลดลงเหลือไม่เกิน 2,000 เหรียญสหรัฐในปีหน้า
ในด้านของการพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานอื่นๆ นั้น อินเทลยังได้พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาอีกหลายอย่างเพื่อใช้ในการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพที่ล้ำหน้ายิ่งกว่าเดิม อาทิ เทคโนโลยีสำหรับเซ็ตท้อปบ็อกซ์ อุปกรณ์ภาพดิจิตอล อุปกรณ์เครื่องเล่นมีเดียแบบพกพา ดิจิตอลมีเดียอแดปเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อให้มีสมรรถนะดีกว่าเดิม สามารถใช้งานได้คล่องตัวยิ่งกว่าเดิม และมีทางเลือกมากขึ้นในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสร้างความเพลิดเพลินจากสื่อดิจิตอลต่างๆ ได้อย่างหลากหลายและเต็มที่
มร.โอเทลลินิ ยังได้กล่าวย้ำว่า "เป้าหมายของเรา คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินกับการใช้อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงต่างๆ ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีซิลิคอนที่อินเทลกำลังนำเสนออยู่นี้ได้อย่างเต็มที่ อินเทลจึงได้เข้ามาช่วยพัฒนาเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ สำหรับอุตสาหกรรมแบบเปิด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างอุปกรณ์คอนซูเมอร์หลากหลายชนิด อินเทลในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มทำงานที่มีชื่อเรียกว่า "ดิจิตอล โฮม เวิร์กกิ้ง กรุ๊ป" ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ผู้ให้บริการคอนเทนท์ และอุตสาหกรรมคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ จะมีบทบาทในการช่วยผลักดันให้เกิดมาตรฐานเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค
มร.โอเทลลินิ กล่าวต่อว่า "เราเชื่อว่า การที่อินเทลเข้ามาช่วยสร้างมาตรฐานต่างๆ ให้เป็นรูปเป็นร่างไปพร้อมๆ กับการนำเทคโนโลยีซิลิคอนที่ล้ำหน้ามาประยุกต์ใช้ จะทำให้วิธีการที่ผู้บริโภคนำเทคโนโลยีมาใช้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การพัฒนามาตรฐานในอุตสาหกรรมคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยสร้างนวัตกรรมให้เกิดเร็วขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งเป็นผลในแง่บวกเช่นเกียวกับที่เกิดขึ้นมาแล้วในอุตสาหกรรมพีซี"
ตัวอย่างของความร่วมมือในอุตสาหกรรมอีกตัวอย่างหนึ่ง ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยี Digital Transmission Content Protection over Internet Protocol (DTCP/IP) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อินเทลและบริษัทอื่นๆ พัฒนาขึ้นร่วมกัน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตามบ้านสามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนท์ด้านความบันเทิงต่างๆ ที่มีการป้องกันเอาไว้ โดยใช้งานผ่านเครือข่ายไร้สายจากอุปกรณ์หลากหลายชนิดที่ติดตั้งในบ้าน ดูเหมือนว่า เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาเป็นสิ่งพื้นฐานสำหรับดิจิตอลโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ซึ่งกำลังมีการขยายตัวมากขึ้นทุกขณะเมื่อผู้ให้บริการคอนเทนท์ทั้งหลายอย่างเช่น วอร์เนอร์ บราเธอร์ส และบริษัทอื่นๆ ต่างเดินหน้าร่วมมือกันมากขึ้น
"การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยบรอดแบนด์ การใช้โฮมพีซี และเทคโนโลยีไร้สาย เมื่อผนวกเข้ากับความสามารถในการรับส่งคอนเทนท์ระดับสูงด้วยเทคโนโลยีไร้สาย นั่นหมายความว่า ในอนาคตเราจะสามารถชมภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดจากที่บ้านได้ในวันเดียวกับการนำภาพยนตร์นั้นๆ มาออกฉายในโรงภาพยนตร์กันเลยทีเดียว มุมมองของอินเทลเกี่ยวกับดิจิตอลโฮมนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องของสถานที่มากเท่าไร แต่เราจะคำนึงถึงความสามารถในการโอนถ่ายข้อมูลผ่านอุปกรณ์พกพา อุปกรณ์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ที่มีจอแสดงภาพขนาดใหญ่ เพื่อทำให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินกับดิจิตอลคอนเทนท์ต่างๆ ตามแบบฉบับที่พวกเขาต้องการ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด สถานที่ไหน หรือเวลาใดก็ตาม" มร.โอเทลลินิ กล่าวสรุป
อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบเครือข่าย และอุปกรณ์สื่อสาร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทลได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
* ชื่อและยี่ห้ออื่นๆ อาจถูกอ้างอิงถึง โดยถือเป็นทรัพย์สินของชื่อและยี่ห้อนั้นๆ
คำอธิบายภาพ
ชื่อภาพ: Paul Otellini at CES
มร. พอล โอเทลลินิ ประธานและประธานฝ่ายปฏิบัติการของอินเทล คอร์ปอเรชั่น ขณะกล่าวในงานอินเตอร์เนชั่นแนล คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า อินเทลอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อที่จะดึงพลังความสามารถของเทคโนโลยีการประมวลผลมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับโลกคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์
ชื่อภาพ: ICOS
อินเทลได้คิดค้นเทคโนโลยีขนาดจิ๋วด้านการแสดงผล โดยมีชื่อเรียกว่า Liquid Crystal on Silicon (LCOS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่มีคุณภาพและความละเอียดคมชัดของภาพสูงกว่าที่เป็นอยู่ในราคาที่ต่ำกว่า 2,000 เหรียญสหรัฐ
ชื่อภาพ: Entertainment PC
เอ็นเตอร์เทนเมนท์ พีซี เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาแพลตฟอร์มพีซีสำหรับบ้าน โดยได้รับการออกแบบมาสำหรับติดตั้งในห้องนั่งเล่น และใช้สำหรับโมเดลการใช้งานในดิจิตอล โฮมรวมถึงการส่งผ่านข้อมูลและดึงดิจิตอลคอนเทนท์ด้านความบันเทิงมาใช้ เช่น ดนตรี รายการโทรทัศน์ เกม และวิดีโอคุณภาพสูง
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Orawan Chuenwiratsakul
Associate Director
Carl Byoir & Associates
p: +1 (66 2) 627 3501 ext 212
f: +1 (66 2) 627 3545
ochuenwiratsakul@carlbyoir.com--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ