
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือทางวิชาการระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อ "จุฬาฯ - การบินไทย: ความรู้คู่ฟ้า Chula-TG: Be the Star in the Sky of Knowledge" เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ณ เรือนจุฬานฤมิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีผู้บริหารระดับสูงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และประกาศความพร้อมในการเดินหน้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนาความรู้และศักยภาพบุคลากรอย่างยั่งยืน
ภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมปาฐกถาพิเศษ นอกจากนี้ยังมีนายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นางจันทริกา โชติกเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่สายทรัพยากรบุคคล บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ รองศาสตราจารย์ ดร.มาโนช โลหเตปานนท์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ดำเนินรายการโดย อาจารย์ ดร.ถิรพุทธิ์ ปิติฉัตร ผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โครงการ "ความรู้คู่ฟ้า Chula-TG" เป็นผลจากการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ชั้นนำกับองค์กรภาคธุรกิจการบินของประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการพัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบริการที่ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านบุคลากร เทคโนโลยี และความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ความร่วมมือครั้งนี้ครอบคลุมโครงการสำคัญที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านวิชาการ สื่อสร้างสรรค์ และการพัฒนาทักษะอาชีพ หนึ่งในโครงการหลักคือการจัดทำเนื้อหา Edutainment เพื่อเผยแพร่บนเที่ยวบินของการบินไทย ซึ่งออกแบบให้ผู้โดยสารสามารถเรียนรู้ระหว่างการเดินทาง ด้วยเนื้อหาที่ถ่ายทอดโดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาฯ ในรูปแบบวีดิทัศน์และสื่อมัลติมีเดีย โดยเนื้อหาสำคัญชุดแรกจะเป็นกรณีศึกษาการบริหารและการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ซึ่งถือเป็นตัวอย่างเชิงกลยุทธ์ที่สะท้อนกระบวนการคิดเชิงวิเคราะห์ การจัดการภาวะวิกฤต และการเปลี่ยนผ่านองค์กรที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งในแวดวงธุรกิจและการศึกษา
อีกหนึ่งความโดดเด่นของความร่วมมือในครั้งนี้คือการจัดทำรายการ "Series of the President" ซึ่งเป็นรายการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของการบินไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดเผยแนวคิดภาวะผู้นำ วิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนองค์กร และการจัดการในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย เป็นประโยชน์แก่บุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป
ในด้านการพัฒนาหลักสูตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและการบินไทยได้ร่วมกันออกแบบหลักสูตรด้านการบริการ "School of Hospitality" ซึ่งจะดำเนินการโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เน้นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการผสมผสานกับองค์ความรู้ด้านจิตวิทยาบริการ การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม และความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล เพื่อยกระดับทักษะของบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ยังมีโครงการ "1 Staff 1 Certificate" ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานการบินไทยทุกระดับสามารถเข้ารับการอบรมหลักสูตรระยะสั้นจากจุฬาฯ ในหลากหลายสาขาวิชา เช่น การบริหารจัดการ การตลาดดิจิทัล ภาษาอังกฤษสำหรับงานบริการ และทักษะการคิดเชิงออกแบบ โดยผู้ผ่านการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองคุณวุฒิจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในสายอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเชื่อมั่นในพลังของความรู้ในการเปลี่ยนแปลงสังคม ความร่วมมือกับการบินไทยครั้งนี้จึงเป็นแบบอย่างของการใช้วิชาการเชื่อมโยงกับโลกจริงอย่างมีพลัง ทั้งในระดับบุคคล องค์กร และประเทศชาติ"
ด้าน ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า "การบินไทย มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมด้านการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรเสมอมา เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับจุฬาฯ ในการสร้างสรรค์โครงการที่มีคุณค่าและสร้างแรงบันดาลใจเช่นนี้"
การดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของเรา ไม่เพียงแต่เป็นบทพิสูจน์ถึงศักยภาพในการบริหารจัดการภายใต้สถานการณ์วิกฤติ หากยังสะท้อนบทเรียนอันทรงคุณค่าที่ควรได้รับการศึกษาวิเคราะห์และถ่ายทอดแก่สังคมวงกว้าง เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการและพลิกฟื้นธุรกิจในอนาคต"
งานแถลงข่าวครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่มีเป้าหมายชัดเจนในด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ และเป็นตัวอย่างของการบูรณาการระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจที่มุ่งสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม ในระยะยาว ทั้งในมิติของคุณภาพบริการ มาตรฐานวิชาชีพ และการสร้างแรงจูงใจใหม่ให้กับการเรียนรู้ ตลอดชีวิตของคนไทย