'CODE CLEAN' พลิกโฉมธุรกิจร้านสะดวกซักด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

ข่าวทั่วไป Tuesday May 6, 2025 16:04 —ThaiPR.net

'CODE CLEAN' พลิกโฉมธุรกิจร้านสะดวกซักด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

ปักธงบุกทำเลยุทธศาสตร์ '7-Eleven - ปั๊มบางจาก' พร้อมโกอินเตอร์ เดินหน้าขยายแฟรนไชส์ ชูโมเดล 'ยืดหยุ่น-ลงทุนน้อย-คืนทุนเร็ว'

CODE CLEAN ยกระดับแพลตฟอร์มร้านสะดวกซักอัจฉริยะ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ด้วยระบบอัตโนมัติครบวงจร รายเดียวในไทย วางโรดแมพ 3 ปี ทุ่มงบ 300 ล้าน บุกตลาดเต็มพิกัด จับมือพันธมิตรลุยเปิดสาขาที่ 7-Eleven ปั๊มบางจาก รุกตลาดต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าขยายแฟรนไชส์ เจาะกลุ่มผู้ที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income เป็นได้ทั้งงานประจำและธุรกิจเสริม ชูจุดขายโมเดลแฟรนไชส์ที่ยืดหยุ่น เข้าถึงง่าย คืนทุนเร็ว ไม่เก็บค่า GP ไม่เก็บส่วนแบ่งรายได้ พร้อมโปรแกรมแฟรนไชส์ผ่อนได้ที่ช่วยให้คนทุนน้อยเป็นเจ้าของร้านง่ายขึ้น

นายณพัฒน์ เบญญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอชแอนด์โก จำกัด ผู้ให้บริการร้านสะดวกซักอัตโนมัติ และผู้ให้บริการธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักอัตโนมัติ ภายใต้แบรนด์ 'CODE CLEAN' เปิดเผยว่า CODE CLEAN เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะยกระดับธุรกิจร้านสะดวกซักในประเทศไทยให้มีความทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น โดยมุ่งแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้บริการและผู้ประกอบการร้านสะดวกซัก ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเหรียญ การเติมสินค้า ตลอดจนความสะดวกในการดูแลร้าน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น

"เราต้องการให้ร้านสะดวกซักมีความ 'สะดวก' อย่างแท้จริง จึงได้นำเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อทำให้ CODE CLEAN เป็นร้านสะดวกซักอัจริยะ โดยพัฒนาเครื่อง Vending ให้เป็น 'Central Payment' ที่รองรับการชำระเงินทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ ธนบัตร สแกนจ่าย หรือใช้คะแนนแลกส่วนลด ผู้ใช้บริการจึงไม่ต้องแลกเหรียญอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาระบบ Vending ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยเชื่อมต่อการทำงานของเครื่องซัก เครื่องอบ ตู้จำหน่ายสินค้า เข้าไว้ด้วยกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงิน และสั่งงานเครื่องได้ครบในจุดเดียว ซึ่งจุดเด่นเรื่องความสะดวก รวมถึงการซักที่สะอาด การบริการที่ดี โปรโมชันที่ดึงดูด และแคมเปญที่ทำร่วมกับพาร์ตเนอร์ เช่น การแลกคะแนนจาก 7-Eleven บางจาก ทรูมันนี่ ทำให้เราได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการอย่างรวดเร็ว" นายณพัฒน์ กล่าว

ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีของ CODE CLEAN ยังได้เพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าของร้าน ทำให้ไม่ต้องคอยเติมเหรียญ และยังมีแดชบอร์ดที่ช่วยให้เจ้าของร้านควบคุมการดำเนินงาน ตรวจสอบยอดขายและสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์ มีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ และมีฟังก์ชันวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก จึงลดภาระเจ้าของร้าน ไม่จำเป็นต้องอยู่ประจำร้าน ไม่ต้องเข้าร้านบ่อย

CODE CLEAN ยังให้การสนับสนุนแฟรนไชส์ซีแบบครบวงจร ตั้งแต่การฝึกอบรม การดูแลร้าน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การควบคุมมาตรฐาน พร้อมทีมช่างที่คอยดูแลเครื่องตลอดสัญญา และฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยเจ้าของร้าน ที่คอยแก้ปัญหาและตอบข้อสงสัยของผู้ใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง CODE CLEAN นับเป็นผู้ให้บริการร้านสะดวกซักรายเดียวที่ลงทุนระบบไอที ที่ทำให้ทีมงานสามารถรีโมตเข้าไปแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการแทนเจ้าของร้าน

"ธุรกิจร้านสะดวกซักมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว เพราะการซักผ้าเป็นกิจกรรมจำเป็นของทุกคน เราตั้งใจทำให้ CODE CLEAN เป็นธุรกิจที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income ไม่ว่าจะทำเป็นรายได้หลัก หรือทำเป็นธุรกิจเสริมควบคู่กับงานประจำ โดยสามารถสร้างรายได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องใช้แรงงานมาก เจ้าของร้านสามารถควบคุมทุกอย่างได้ผ่านมือถือ และคืนทุนได้ภายใน 3-5 ปี" นายณพัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ CODE CLEAN ยังมีแผนที่จะพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มระบบเซนเซอร์ เพื่อให้เจ้าของร้านตรวจสอบปริมาณแก๊ส จำนวนเงินสด ระดับน้ำ อุณหภูมิน้ำ และสามารถคำนวณค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส เพื่อพิจารณาผลกำไรแบบเรียลไทม์ รวมทั้งมีการลงทุนในเทคโนโลยี AI และ Data Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก ทางด้านผู้ใช้บริการ CODE CLEAN ได้พัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น รับ-ส่งผ้าถึงบ้าน บริการแม่บ้านในแอปพลิเคชัน และอื่น ๆ ซึ่งจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

ด้วยโมเดลธุรกิจที่ครบวงจร คุ้มค่ากับการลงทุน ผนวกกับระบบเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย บริการหลังการขาย และความจริงใจของผู้บริหารที่ต้องการให้เจ้าของร้านประสบความสำเร็จ ทำให้ CODE CLEAN เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นแบรนด์ใหม่ในตลาด

นายกฤษฎา ดาบเพ็ชร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท วอชแอนด์โก จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน CODE CLEAN มีสาขากระจายอยู่ใน 36 จังหวัด รวม 215 สาขา เป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 73 สาขา แฟรนไชส์ 142 สาขา โดยได้วางแผนธุรกิจในระยะ 3 ปี ด้วยเป้าหมายที่จะครองส่วนแบ่งตลาด 20% เพิ่มยอดขายเฉลี่ยต่อสาขา 20% ต่อปี และขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกจังหวัดที่มีประชากรเกิน 500,000 คน ซึ่งมี 53 จังหวัด รวมถึงการเพิ่มสาขาใน สปป.ลาว และประเทศอื่นๆ

โดยการขยายสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของจะใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ปีละ 30 สาขา โดยใช้กลยุทธ์การจับมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนแบบ Joint Venture รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) ในการเลือกทำเลยุทธศาสตร์ เช่น ร้าน 7-Eleven และสถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ส่วนการขยายแฟรนไชส์ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสาขาใหม่ปีละ 70 สาขา ผ่านกลยุทธ์การนำเสนอแพกเกจลงทุนที่คุ้มค่า ยืดหยุ่น พร้อมข้อเสนอพิเศษไม่เก็บค่าแฟรนไชส์ 3 ปีแรก รวมทั้งไม่เก็บค่า GP และส่วนแบ่งทางการตลาดตลอดสัญญา

สำหรับรูปแบบการลงทุนของ CODE CLEAN ถูกออกแบบให้ครอบคลุมการลงทุนทุกระดับทุน ตั้งแต่ S, M, M+, L, XL โดยเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องปั๊มน้ำ ระบบน้ำ-ไฟ-แก๊ส และการตกแต่ง พร้อมเปิดร้านได้ทันที อีกทั้งยังมีโครงการ 'ย้ายค่าย ไม่ย้ายเครื่อง' เพื่อให้ร้านที่ไม่ใช่แฟรนไชส์มาเป็นแฟรนไชส์ซี่กับ CODE CLEAN และโปรแกรม 'CODE CLEAN สะดวกซัก สะดวกผ่อน' เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจได้โดยวางเงินดาวน์เพียง 50% และผ่อนส่วนที่เหลือกับบริษัทโดยตรงเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งโปรแกรมนี้จะมีจำนวนจำกัดในงานอีเวนต์สำคัญ เช่น Thailand Franchise Business Opportunities 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4-7 มิถุนายน 2568 ที่ไบเทค บางนา

"เราไม่เพียงมุ่งมั่นทำให้ธุรกิจเติบโต แต่ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการดำเนินงานภายใต้แนวคิด ESG โดยพัฒนาระบบบำบัดน้ำทิ้งที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อนปล่อยออกจากร้าน และเตรียมนำพลังงานสะอาดมาใช้ ในด้านสังคม เราให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตพนักงาน และดำเนินกิจกรรม CSR เพื่อคืนประโยชน์สู่สังคม ส่วนด้านธรรมาภิบาล แม้เราเป็นบริษัทขนาดกลาง แต่ก็มุ่งดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุนและผู้ใช้บริการ" นายกฤษฎา กล่าวทิ้งท้าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ