
บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) หลังสำนักงาน ก.ล.ต. นับ 1 ไฟลิ่ง เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 79 ล้านหุ้น ชูจุดแข็งด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 25 ปี ในธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย โดยได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ด้วยการให้คำปรึกษาและนำเสนอโซลูชั่นเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมของงานระบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายดุษฎี มีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมสเทค ลิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTEC เปิดเผยว่า บริษัทฯเป็นผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่ายที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากว่า 25 ปี โดยมุ่งมั่นนำเสนอโซลูชั่นเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมของงานระบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ 'เพื่อส่งมอบโซลูชั่นเทคโนโลยีที่ให้คุณค่าสูงสุดต่อลูกค้าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม' ด้วยทีมวิศวกรและทีมผู้เชี่ยวชาญสำหรับการให้บริการตั้งแต่การทำความเข้าใจแบบวิศวกรรม ออกแบบระบบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯจำหน่าย ศึกษา ตรวจสอบ ให้คำปรึกษา เพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมทั้งด้านเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ ข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องงบประมาณโดยรวมของลูกค้า ครอบคลุมถึงให้บริการติดตั้ง ตรวจสอบ ซ่อมแซมและบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ นำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายให้แก่ซัพพลายเออร์ชั้นนำในระดับสากลรวม 30 ราย โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Distributor) จำนวน 6 แบรนด์ ได้แก่ FRESE, FIVALCO, CHANGDER, FIREGUARD, ECO-WATER/ENVIROSWIM และ BOCA และเป็นตัวแทนจำหน่ายทั่วไป (Non-Exclusive Distributor) รวม 24 แบรนด์ เช่น VIKING, REFLEX, NIHON SPINDLE, JOHNSON-CONTROLS และ TDT เป็นต้น และยังจัดหาผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากซัพพลายเออร์รายอื่นอีกมากกว่า 150 แบรนด์ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ ได้แก่ VALOR ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์วาล์วที่ใช้ในระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล และ ZERO FIRE เป็นอุปกรณ์ตู้ดับเพลิงอีกด้วย
ส่วนผลการดำเนินงานระหว่างปี 2565-2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 936.66 ล้านบาท 984.46 ล้านบาท และ 943.22 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการดำเนินงานคิดเป็นสัดส่วน 96.78% 98.71% และ 99.22% ของรายได้รวม ทั้งนี้บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาลเฉลี่ย 60.93% ผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยเฉลี่ย 34.94% ขณะที่ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมเฉลี่ย 4.69% ของรายได้จากการดำเนินงาน ซึ่งแบรนด์สินค้าของบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 21.30% 20.55 และ 23.61 ของรายได้จากการดำเนินงาน โดยมีกำไรสุทธิ 29.42 ล้านบาท 42.35 ล้านบาท และ 41.92 ล้านบาทตามลำดับ
ด้านดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท แมสเทค ลิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTEC เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือ ไฟลิ่ง เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ของ MASTEC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเดินหน้านำเสนอข้อมูลธุรกิจของบริษัท (โรดโชว์) เพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนรายย่อยและประชาชนทั่วไป ซึ่งมีแผนการโรดโชว์ทั่วประเทศไทย
"MASTEC มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตด้วยกลุ่มผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจมายาวนาน เป็นหนึ่งในผู้นำด้านนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมที่ครอบคลุมตั้งแต่ระบบปรับอากาศ สุขาภิบาล อัคคีภัย ความปลอดภัย และพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการให้คำปรึกษา และนำเสนอโซลูชั่นด้านวิศวกรรม สะท้อนการบริหารจัดการท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นวัตกรรมอย่างรวดเร็วสำหรับการเดินทางไปโรดโชว์ทั่วประเทศมุ่งหวังจึงนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนได้เข้าใจธุรกิจของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น" ดร.สมภพกล่าว
ขณะที่นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจาก บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 79 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.33 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจ วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท โดยบริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับรองรับธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมสำหรับตลาดอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และเป็นเงินทุนสำหรับรองรับธุรกิจใน Synergy Products ของกลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัย รวมถึงขยายช่องทางการตลาดเพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ทั้งนี้บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทและหลังหักสำรองต่างๆทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับบริษัทกำหนดไว้แต่ละปี
