"อายิโนะโมะโต๊ะ" ผนึกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หนุนคนไทยสุขภาพดีทุกวัย

• ไทยติดอันดับ 3 ผู้สูงวัยในเอเชีย สะท้อนความท้าทายของสังคมไทยกับสังคมสูงวัย
• อะมิโนมอฟสนับสนุนงาน Betong Festival ครั้งแรกของไทยที่สตาฟ 110 คน เป็นผู้สูงอายุ กระตุ้นวัยเก๋า 'ใช้ชีวิตให้มีชีวิต'

ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยพบว่าผู้สูงอายุมีสัดส่วนเป็น 1 ใน 5 ของประชากรทั้งประเทศ สะท้อนความท้าทายที่สังคมและเหล่าวัยเก๋าต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และสุขภาพกายและจิตใจที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ

กรมกิจการผู้สูงอายุ เผยว่าประเทศไทยมีอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรวัยสูงอายุ เป็นอันดับ 3 ในเอเชีย รองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นความท้าทายหลายมิติในทั้งระดับประเทศ สังคม และบุคคล โดยพบว่ารูปแบบความสุขของผู้สูงอายุ อันดับแรกคือ ความสุขทางจิตใจและอารมณ์ รองลงมาคือ การได้รับการดูแลเอาใจใส่ ตามด้วยการมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง นอกจากนี้ ผู้สูงวัยจะมีความสุขจากการที่ได้ทำประโยชน์และเป็นที่ต้องการของสังคม

บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทชั้นนำของโลกในการสร้างความกินดีมีสุข จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งเสริมคนไทยทุกช่วงวัยโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้มีสุขภาพดี ด้วยการสนับสนุนงาน Betong Festival-เทศกาลแห่งสีสัน ความสนุก และการมีส่วนร่วมของชุมชน อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2568 ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อปลุกความคึกคักให้ชุมชนใช้ชีวิตให้มีชีวิต กระตุ้นแอ็กทีฟไลฟ์สไตล์ของทุกรูปแบบการใช้ชีวิตผ่านหลากหลายกิจกรรม อาทิ บันทึกกิจกรรมแอ็กทีฟผ่านแอปพลิเคชัน Calorie Credit Challenge (CCC) เพื่อสะสมเครดิตแลกของรางวัล Exercise in the City - เติมสีสันให้เบตงมีชีวิต ด้วยไฟประดับและหุ่นลมออกกำลังกาย และร่วมวิ่งใน Saturday Night Run 2025 ชื่นชมความสวยงามยามค่ำคืนของเมืองเบตงในบรรยากาศสนุกสนาน

นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "เป้าหมายสำคัญของกิจกรรมเหล่านี้ ไม่ใช่แค่การแข่งขันกีฬา แต่คือการสร้างแรงจูงใจให้คนออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีขึ้น ผ่านการมีส่วนร่วมและการสะสมพฤติกรรมสุขภาพในชีวิตประจำวัน ซึ่งแพลตฟอร์ม CCC ช่วยเชื่อมโยงคนในสังคมให้ลุกขึ้นมาใส่ใจสุขภาพ ทั้งผ่านชาเลนจ์ การสะสมแต้ม การได้เครดิต ไปจนถึงสิ่งตอบแทนที่เป็นแรงจูงใจเล็ก ๆ แต่ทรงพลัง เรามองว่าผู้สูงอายุคือกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ เพราะเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศ ซึ่งหลายคนยังไม่ได้รับการกระตุ้นให้ออกกำลังกายอย่างจริงจัง การสร้างชาเลนจ์ใหม่ ๆ ที่ท้าทาย และสามารถบันทึกข้อมูลสุขภาพหรือความสำเร็จเล็ก ๆ แต่ละอันได้ ทำให้พวกเขาเกิดความสนุก รู้สึกมีส่วนร่วม เกิดการชักชวนให้เพื่อน ๆ มาออกกำลังกายให้มากขึ้นไปด้วยกัน กลายเป็นชุมชนคนรักสุขภาพที่เข้มแข็ง"

"การมีส่วนร่วมของชุมชนคือหัวใจของความยั่งยืนและปัจจัยชี้ความสำเร็จของทุกอีเวนต์กีฬา เราต้องทำให้คนในพื้นที่รู้สึกว่า 'ได้บางสิ่งกลับไป' ทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจ และความสุขร่วมกัน เพราะหากชุมชนไม่เห็นด้วยหรือไม่ได้ประโยชน์ในมิติเศรษฐกิจ สุขภาพ และสังคม กิจกรรมเหล่านี้ก็จะไม่สามารถไปต่อได้ ดังนั้น 3 มิตินี้ต้องเดินไปพร้อมกัน เพื่อให้กิจกรรมประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง การที่มีภาคเอกชนอย่างอายิโนะโมะโต๊ะมาร่วมสนับสนุนด้วย ผมมองว่าช่วยให้กิจกรรมมีชีวิตขึ้น และทำให้สังคมดีขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม" นายเศกสันฐ์กล่าวเสริม

นายเบญจพล ลิมพลญาณ ผู้จัดการกองธุรกิจใหม่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด "อายิโนะโมะโต๊ะเล็งเห็นความสำคัญของการที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ จึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมอาหารและสุขภาพเพื่อให้คนไทยได้ 'กินดี มีสุข' ผ่านการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ AminoScience อันเป็นความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ โดยได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ "อะมิโนมอฟ" ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมด้วยกรดอะมิโนจำเป็นทั้ง 9 ชนิด รวม 3,000 มิลลิกรัม โดยเฉพาะลิวซีนสูงถึง 1,200 มิลลิกรัม ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงวัยในการดำเนินชีวิตในมิติต่าง ๆ ทั้งการมีร่างกายที่แข็งแรง สามารถเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมได้อย่างคล่องแคล่ว ลดความเสี่ยงจากการหกล้ม ด้วยแนวคิดที่ว่า 'กล้ามเนื้อแข็งแรง ใจไม่เหงา ชีวิตมีคุณค่า' เพราะความแข็งแรง ไม่ใช่แค่เรื่องของกล้ามเนื้อแต่คือพลังชีวิตที่ทำให้ทุกวันมีความหมาย ซึ่งสร้างความสำเร็จจากยอดขายที่เติบโต 236% พร้อมกระแสตอบรับที่ดีจากผู้สูงวัย"

"ในปีนี้ บริษัทได้เดินหน้าสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงวัย โดยสนับสนุนงาน Betong Festival ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบในการปลุกความมีชีวิตชีวาให้กับชุมชน ซึ่งงานนี้ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีสตาฟเป็นผู้สูงวัย จำนวน 110 คน ทางบริษัทจึงร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้สูงวัย ให้ได้ใช้ชีวิตให้มีชีวิต พร้อมการแจกผลิตภัณฑ์ 4,000 ชิ้น แก่ผู้ร่วมงานและสตาฟวัยเก๋า กว่า 4,000 คน และสนับสนุนกิจกรรมวิ่งสะสมเครดิตแลกของรางวัลผ่านแอปพลิเคชัน Calorie Credit Challenge เพื่อปลุกความแอ็กทีฟในตัวคุณ นอกจากนี้ ยังมีการใช้สื่อกลางเป็นการ์ดที่เขียนให้กำลังใจจากคนทั้งเบตง จำนวน 2,000 กว่าใบ มอบให้กับนักวิ่ง แสดงถึงการร่วมมือร่วมใจกันของชาวเบตงทุกเพศ ทุกวัย"

อาจารย์วชิรา พงศาวกุล อายุ 77 ปี อดีตครูมัธยมและปัจจุบันยังคงดูแลสุขภาพอย่างแข็งแรงด้วยการรำไทเก๊ก เล่าถึงเหตุผลที่เข้าร่วมเป็นสตาฟอาสาสมัครในงานนี้ว่า "รู้สึกดีใจมากที่ผู้จัดงานให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ พอทราบว่ามีโอกาสเข้าร่วมเป็นสตาฟก็รู้สึกเหมือนได้มีคุณค่าอีกครั้ง โดยรับหน้าที่คีย์รายชื่อแทนเครื่องสแกน ไม่เหนื่อยเลย แต่สนุกและภูมิใจที่สุดที่ได้มีส่วนร่วมในงานระดับนานาชาติแบบนี้ สุขภาพที่ดีของตัวเองเกิดจากการมองโลกในแง่ดี กินอร่อย นอนหลับสบาย และที่สำคัญคือได้รำไทเก๊กกับเพื่อน ๆ ที่เข้าใจกัน ได้สังคมดี ๆ มาเติมเต็มใจในวัยเกษียณ"