กทม. ติดตามคุณภาพอากาศพื้นที่ใกล้เคียงเหตุเพลิงไหม้โกดังในซอยฉลองกรุง 55-เข้มตรวจระบบป้องกันอัคคีภัยโรงงานทั่วกรุงฯ

ข่าวทั่วไป Wednesday May 14, 2025 16:59 —ThaiPR.net

กทม. ติดตามคุณภาพอากาศพื้นที่ใกล้เคียงเหตุเพลิงไหม้โกดังในซอยฉลองกรุง 55-เข้มตรวจระบบป้องกันอัคคีภัยโรงงานทั่วกรุงฯ

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการระงับเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสินค้าโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ในซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบังว่า สปภ. ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุผ่านฟ้าว่ามีเหตุเพลิงไหม้ภายในโกดัง ซอยฉลองกรุง 55 ถนนฉลองกรุง ใกล้เคียงโรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง) จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยพร้อมด้วยรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุดังกล่าว โดยที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นโกดังขนาดใหญ่และมีชั้นใต้ดินสำหรับเก็บสินค้าประเภทพลาสติก เฟอร์นิเจอร์ห้องครัว และบานซิงค์ ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณชั้นใต้ดิน ซึ่งมีวัตถุเชื้อเพลิงจำพวกเม็ดพลาสติก ไม้ ทินเนอร์ และกล่องกระดาษจำนวนมาก ทำให้การเข้าดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก ประกอบกับมีกลุ่มควันจากชั้นใต้ดินลอยขึ้นไปด้านบนของอาคาร ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง และมีกลุ่มควันดำขนาดใหญ่ลอยออกมาจากจุดเกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากการสูดดมและบางส่วนต้องอพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่สำนักงานเขตลาดกระบังจัดตั้งขึ้น ได้แก่ โรงเรียนลำพะอง โรงเรียนวัดทิพพาวาส ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนวัดทิพพาวาส และหอประชุมสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ส่วนสาเหตุและค่าเสียหายอยู่ระหว่างการสอบสวนของสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ฉลองกรุง

ทั้งนี้ สปภ. จะประสานสำนักอนามัย (สนอ.) และสำนักงานเขตพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัยในสถานประกอบการโรงงานและโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะสถานประกอบการที่ผลิต เก็บ ครอบครอง มีการใช้สารเคมีและวัตถุอันตราย หรือวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ในพื้นที่กรุงเทพฯ

นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวว่า สสล. ได้สนับสนุนเครื่องมือและบุคลากรร่วมแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว โดยจัดรถสุขาเคลื่อนที่อำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ที่มีการดับเพลิง และรถบรรทุกน้ำ 10 คันร่วมกับสำนักงานเขตใกล้เคียง เพื่อสนับสนุนน้ำให้แก่รถดับเพลิงอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ส่วนมาตรการติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการตรวจสอบคุณภาพอากาศในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุง กทม. ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น 2.5 และ PM10 อย่างต่อเนื่อง โดยตรวจวัดด้วยวิธีมาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งมีสถานีตรวจวัดฯ ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ได้แก่ เขตลาดกระบัง (รัศมี 7 กิโลเมตร) เขตมีนบุรี (รัศมี 10 กิโลเมตร) และเขตหนองจอก (รัศมี 10 กิโลเมตร) โดยสรุปผลการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และ PM10 ในช่วงก่อน (วันที่ 10 พ.ค. 68) ระหว่าง (วันที่ 11 พ.ค. 68) และหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ (วันที่ 12 พ.ค. 68) พบว่า มีค่าไม่เกินมาตรฐานทั้ง 3 พื้นที่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ