
WSOL เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 ส่งสัญญาณฟื้นตัว รายได้รวม 504.8 ล้านบาท EBITDA ปรับตัวบวก 22.60 ล้านบาท เดินหน้าแผนคุม-ลดต้นทุนต่อเนื่อง เร่งดันรายได้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก Financial Solutions, B2B Solutions, B2C Solutions คาดธุรกิจฟื้นตัว
นายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน) หรือ WSOL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้รวม 504.8 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 1,427.4 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ซึ่งบริษัทได้ทำการด้อยค่าเงินลงทุน จำนวน 1,090 ล้านบาท และด้อยค่าทรัพย์สินดำเนินงาน จำนวน 100 ล้านบาท อีกทั้งตัดการนำงบการเงินของ บริษัท ทีเอสอาร์ ไลฟ์วิ่ง โซลูชันส์ จำกัด (มหาชน) (TSR) และ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BZB) เข้ามาจัดทำงบการเงินรวม
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากคณะผู้บริหารชุดใหม่ต้องการสะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานผิดพลาดของผู้บริหารชุดเดิม ซึ่งการด้อยค่าในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีความคล่องตัวและโปร่งใสในการบริหารจัดการธุรกิจในอนาคต
อย่างไรก็ตามในไตรมาส 1/2568 กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (Operating EBITDA) กลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสอยู่ที่ 22.60 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่ตั้งเป้าไว้ สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างเป็นระบบ และการปรับโครงสร้างธุรกิจที่เริ่มส่งผลอย่างเป็นรูปธรรม
ปัจจุบันบริษัทมีรายได้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ที่ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างไป ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโซลูชันทางการเงิน (Financial Solutions), กลุ่มธุรกิจโซลูชันสำหรับธุรกิจ (B2B Solutions) และกลุ่มธุรกิจโซลูชันหรับผู้บริโภค (B2C Solutions) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 47.05%, 15.29% และ 37.59% ตามลำดับ
นอกจากนี้ WSOL ยังให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับลดต้นทุนด้าน IT Infrastructure ได้มากกว่า 20% ปรับลดค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนและสวัสดิการรวมทั้งกลุ่มได้มากกว่า 30% และลดต้นทุนพื้นที่สำนักงานอาคารเซ็นทรัล ทาวเวอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มีแผนเตรียมย้ายสำนักงานใหญ่ในช่วงกลางเดือนมิ.ย. 2568 เพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายด้านพื้นที่และคลังสินค้า ควบคุมต้นทุนทางการเงินให้เหมาะสมกับฐานะทางการเงินของกิจการ
"จากผลการดำเนินงานของไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นผลของมาตรการปรับโครงสร้างบริษัท ลดต้นทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ขณะเดียวกันก็เร่งสร้างรายได้จาก Core Business เดิมที่ยังมีศักยภาพ และจากการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้หลัก ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้ต้นทุนทางการเงินลดลงกว่า 69% เมื่อเทียบกับต้นทุนทางการเงินในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวของบริษัทในระยะถัดไป" นายอิทธิชัย กล่าว