
CIVIL เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/68 เติบโตต่อเนื่อง คว้างานใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 337 ล้านบาท ลุ้นผลงานประมูล 1,300 ล้านบาท หนุน Backlog 22,800 ล้านบาท มุ่งมั่นยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน รองรับการเติบโตยั่งยืน ด้านงบไตรมาส 1/68 รายได้รวม 1,126 ล้านบาท เติบโต 9% กำไรสุทธิ 7 ล้านบาท
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2 ปี 2568 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทมีโครงการใหม่ ในกลุ่มงานก่อสร้างถนน บำรุงถนน และงานบูรณะทางผิวแอสฟัลต์ จำนวน 8 โครงการ มูลค่ารวม 337 ล้านบาท รวมถึงยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตามกรอบเวลาที่วางไว้
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานทาง มูลค่ารวมประมาณ 1,300 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลภายในไตรมาส 2 นี้ ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติม อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง, งานเขื่อน, และ โครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ทั้งนี้ บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2568 จำนวน 22,800 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่ลงนามสัญญาแล้ว 13,100 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2571
"CIVIL มุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการบริหารจัดการโครงการ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการควบคุมต้นทุน เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างและพลังงานจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ บริษัทยังคงยึดหลักกลยุทธ์ FAST ส่งมอบผลงานที่เป็นเลิศด้วยความรวดเร็ว แสดงถึงความตั้งใจในการดำเนินโครงการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและชุมชนอย่างยั่งยืน พร้อมรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทในระยะยาว" นายปิยะดิษฐ์ กล่าว
ด้านผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,030 ล้านบาท จำนวน 96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9% และมีกำไรสุทธิ 7 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท โดยรายได้ของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการส่งมอบงานก่อสร้างสำเร็จตามแผนที่กำหนดไว้ 4 โครงการ รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำไรสุทธิปรับตัวลดลงจากการปรับเพิ่มประมาณการต้นทุนของโครงการก่อสร้างในกลุ่มงานรถไฟ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงบริหารจัดการโครงการอย่างรอบคอบ เพื่อควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และเดินหน้าส่งมอบงานตามแผนที่วางไว้