
แผ่นดินไหวในเมียนมาร์และประเทศไทยได้สะท้อนให้เห็นความร้ายแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ท่ามกลางแนวโน้มของภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก ความตระหนักรู้เกี่ยวกับความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมในการรับมือของทุกภาคส่วนจึงมีความสำคัญ โดยในช่วงเวลาวิกฤติภาคค้าปลีกมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้ชุมชนมีความพร้อมในการรับมือกับวิกฤตที่เกิดขึ้นผ่านการสนับสนุนช่องทางในการเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นอย่างสะดวก
เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้น ความท้าทายสำหรับผู้ค้าปลีกจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและซับซ้อน ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อโครงสร้างของร้านค้าอาจทำให้ร้านต้องปิดให้บริการชั่วคราว เครือข่ายการคมนาคมขนส่งอาจจะติดขัดหยุดชะงักรวมถึงอาจจะเกิดความยากลำบากในการเข้าถึงสินค้าในคลัง ขณะที่ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน เช่น อาหาร น้ำ ยา และอุปกรณ์ฉุกเฉินกลับพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลานั้น หากมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์จะมีประโยชน์อย่างมากต่อชุมชนและระบบเศรษฐกิจ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ระบบจัดจำหน่ายมักเผชิญกับความเสียหาย ขาดประสิทธิภาพในการจัดการ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือชั้นวางสินค้าในพื้นที่ประสบภัยมักจะว่างเปล่า ขณะที่พื้นที่อื่นๆ กลับมีสินค้าค้างสต็อกจำนวนมากเกินความจำเป็น
โซลูชันการคาดการณ์โดยใช้ AI (Artificial Intelligent) และ ML (Machine Learning) ได้ยกระดับการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติและการจัดการสินค้าคงคลัง ด้วยการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มค้าปลีกและองค์กรต่างๆ สามารถเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยพิบัติได้แบบเชิงรุก การคาดการณ์โดยใช้ AI จะช่วยให้สามารถรักษาระดับสินค้าคงคลัง และช่วยสร้างความมั่นใจในการบริหารจัดการภายใต้สถานการณ์วิกฤติได้เป็นอย่างดี โดยโซลูชันนี้จะวิเคราะห์และสรุปข้อมูลจำนวนมหาศาลให้เป็นข้อมูลข้อมูลเชิงลึกที่เข้าใจง่าย ช่วยคาดการณ์ความต้องการสินค้า และสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คริสตี้ เดวิสัน รองประธานอาวุโสฝ่ายการขาย เอเชียแปซิฟิก ของ รีเล็กซ์ โซลูชันส์ กล่าว "AI ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ตอบสนองต่อเหตุการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำอีกด้วย เช่น การพยากรณ์การขายน้ำดื่มบรรจุขวดที่จะเพิ่มขึ้นก่อนเกิดภัยพิบัติ หรือการเปลี่ยนเส้นทางการจัดส่งยาทันทีหลังจากเกิดแผ่นดินไหว โดยระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถรู้ความต้องการล่วงหน้าและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงได้อย่างความแม่นยำ"
แพลตฟอร์มจาก รีเล็กซ์ ผู้ให้บริการโซลูชันการวางแผนห่วงโซ่อุปทานและค้าปลีกที่รวมศูนย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้าและการจัดการสต็อกระหว่างคลังสินค้าแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้สามารถกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุด ลดความเสี่ยงของการขาดแคลนหรือมีสต็อกมากจนเกินไปสำหรับภูมิภาคที่ไม่ได้รับผลกระทบ ส่งผลให้ต้นทุนในการจัดการกับสต็อกลดลงและและความเสียหายจากสินค้าที่หมดอายุควบคู่กับการปรับปรุงระดับบริการสำหรับลูกค้า ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ชุมชนสามารถเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน ช่วยให้ชุมชนฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดย AI จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมและการวางแผนตอบสนองต่อภัยพิบัติ
ตามรายงานผู้บริโภคสภาพอากาศสุดขั้ว ในสหรัฐอเมริกา จากรีเล็กซ์ โซลูชันส์ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลือกผู้ค้าปลีกที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ด้วยเหตุผลที่ว่ามีสินค้าในสต็อกที่ดีกว่า และด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ความยืดหยุ่นของซัพพลายเชนจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญ ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ผู้ค้าปลีกจะต้องคอยติดตามความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และความไม่แน่นอนของซัพพลายเชนเพื่อให้แน่ใจว่าร้านค้าปลีกจะสต็อกสินค้าที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม
คริสตี้ เดวิสัน กล่าว "เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเชิงรุกเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องเพิ่มความพร้อมและความสามารถในการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการพัฒนาความแม่นยำในการคาดการณ์ความต้องการสินค้า และการบริหารจัดการคลังสินค้า เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ถูกต้องมีพร้อมจำหน่ายในเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ การนำข้อมูลสภาพอากาศแบบเรียลไทม์และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์มาใช้ ผู้ค้าปลีกจะสามารถปรับการจัดสต็อกสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนในช่วงเหตุการณ์สภาพอากาศวิกฤตได้ดียิ่งขึ้น และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับชุมชนในที่สุด"