
ดร.กิตติโชติ ศุภกำเนิด ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในงานสรุปผลสำเร็จและพิธีปิด "กิจกรรมการนำมาตรฐานเกษตรปลอดภัยไปพัฒนาเกษตรแปรรูป" ภายใต้โครงการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องอมรินทร์ ชั้น 3 อาคารศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย สถาบันอาหาร โดยกิจกรรมสรุปผลและพิธีปิด มีวัตถุประสงค์ เพื่อสรุปผลสำเร็จการดำเนินกิจกรรม พิธีมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้ประกอบการที่ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 38 กิจการ และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลธุรกิจตัวอย่างด้านการพัฒนามาตรฐานเกษตรปลอดภัยที่ประสบความสำเร็จ (Success Case) ที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 4 กิจการ ได้แก่ 1) บริษัท ธีรภัทรฟู้ดส์ จำกัด 2) บริษัท ริช เฮมพ์ คอร์ป จำกัด 3) บริษัท เอดับบลิวเอชบี จำกัด 4) วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอมบางตลาด ภายในงานมีการบรรยายหัวข้อ "การยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์สู่ตลาดคุณภาพ" โดยคุณบำรุง สังข์สว่าง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการผลิต (ตลาดศรีเมืองราชบุรี) บริษัท แอ็กโกรคอมเมิร์ส กรุ๊ป จำกัด และ "การแนะนำ (Application Bangbow Platform)" ที่คัดเลือกสินค้าจากผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ โดย คุณไวยฤทธิ์ วิทยานรากุล บริษัท แบ่งเบา แฟลตฟอร์ม จำกัด รวมถึงการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงการ Business Networking ของผู้ซื้อ (Trader)

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มีการดำเนินนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ภายใต้นโยบาย"ดีพร้อม คอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" เป็นการปฏิรูปดีพร้อมสู่องค์กรทันสมัย เฟ้นหาฮีโร่ผู้นำธุรกิจไทย พัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมดีอยู่คู่ชุมชน ภายใต้กลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป คือ ให้ที่ 1 : ให้ทักษะใหม่ : เพิ่มทักษะ ความรู้ ความสามารถบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับทักษะที่มีอยู่เดิม (Upskill) สร้างทักษะขึ้นมาใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน (Reskill) และสร้างทักษะใหม่ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ (New skill) ให้ที่ 2 : ให้เครื่องมือที่ทันสมัย : เปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมเดิมไปสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพสามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจรองรับการเปลี่ยนแปลงด้วยการติดอาวุธที่สำคัญ ให้ที่ 3 : ให้โอกาสโตไกล : ด้วยการช่วยเหลือวิสาหกิจให้มีขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจและสามารถแข่งขันได้ ทั้งในประเทศและระดับสากล ด้วยการเสริมสร้างศักยภาพของ SMEs ให้เข้าถึงโอกาสต่าง ๆ ให้ที่ 4 : ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน : โดยการนำแนวคิด BCG มาปรับใช้ในธุรกิจ พร้อมทั้งส่งเสริมด้านการปรับปรุงกระบวนการผลิตและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และปฏิรูปดีพร้อม มุ่งพัฒนาองค์กรให้ดีพร้อม เพื่อเตรียมรับมือกับบริบทและกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ภายใต้ความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
ทั้งนี้ ผลการดำเนินกิจกรรมภาพรวม เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 469 ล้านบาท รวมถึงผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับการรับรอง GAP (Good Agricultural Practice) จำนวน 5 กิจการ, การรับรองเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand จำนวน 4 กิจการ และเตรียมความพร้อมการยื่นขอรับรองมาตรฐานจากหน่วยรับรอง (Certification Body : CB) จำนวน 29 กิจการ และผู้ประกอบการมีโอกาสเข้าถึงช่องทางการตลาดได้มากขึ้นผ่านกิจกรรมการการเชื่อมโยงธุรกิจไปยังผู้ค้า (Trader) ตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ นับเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้ประกอบการในธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมายของไทยจะสามารถเข้าสู่ช่องทางการตลาดได้มากขึ้น