ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน และเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มข้นเพื่อฟื้นตัวหลังโควิด-19 ทำให้เส้นทางของการเป็นผู้ประกอบการกลายเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้คนจากทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผลการสำรวจ "Herbalife Nutrition Asia Pacific (APAC) Young Entrepreneur Survey" ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มดังกล่าว โดยพบว่า 7 ใน 10 ของกลุ่ม Gen Z และ Millennials มีความใฝ่ฝันอยากเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง
โชบี คิง รองประธานฝ่ายบริหารของเฮอร์บาไลฟ์ กล่าวว่า แม้จะมีอุตสาหกรรมให้เลือกสรรมากมายสำหรับผู้ประกอบการ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า "สุขภาพและโภชนาการ" คือกลุ่มธุรกิจที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนจากความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ล่าสุด จากผลการสำรวจเกี่ยวกับ "การเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญด้านสุขภาพ หรือ Changing Health Priorities" ของเรา พบว่ากว่า 86% ของผู้บริโภคเริ่มใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้นภายในปีที่ผ่านมา โดยผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งหนึ่งระบุว่า พวกเขาเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และเสริมด้วยวิตามินหรือแร่ธาตุ นอกจากนี้ รายงานตลาดยังคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมโภชนาการเฉพาะบุคคลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเติบโตเฉลี่ย 13.2% ต่อปี ในระหว่างปี 2021-2027
ขณะเดียวกัน ประชากรสูงวัยในภูมิภาคนี้ที่กำลังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดโครงการส่งเสริมสุขภาพในระดับประเทศมากขึ้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี ซึ่งความพยายามของโครงการเหล่านี้เริ่มเห็นผลมากขึ้น สะท้อนได้จากผลสำรวจของเฮอร์บาไลฟ์ที่ระบุว่า 73% ของผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพในช่วงวัยสูงอายุ ทั้งจากการเลือกโภชนาการที่เหมาะสม และการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งหากนำเทรนด์เหล่านี้มาผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพของประชากรในภูมิภาค จะทำให้เกิดพื้นที่ของการคิดค้นไอเดียใหม่ ๆ และการเริ่มต้นธุรกิจในกลุ่มนี้มีความน่าสนใจและเติบโตได้อย่างแข็งแรง
โดยทั่วไปแล้ว การเป็นผู้ประกอบการถือเป็นเส้นทางอาชีพที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า เพราะสามารถบริหารเวลาได้เอง ตัดสินใจได้อย่างอิสระ และขยายเครือข่ายทางธุรกิจได้มากขึ้น เฮอร์บาไลฟ์ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจด้านสุขภาพมาอย่างยาวนาน ได้รวบรวมองค์ประกอบสำคัญที่เป็นรากฐานสู่ความสำเร็จ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราใช้แบ่งปันให้กับผู้จัดจำหน่ายอิสระในภูมิภาคนี้ เพื่อช่วยสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงเสมอมา
เริ่มต้นวางรากฐานให้มั่น
ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยเริ่มต้นธุรกิจเพื่อต้องการหลุดพ้นจากข้อจำกัดต่าง ๆ ในองค์กร ซึ่งแม้จะได้รับอิสระในการเป็นเจ้านายของตัวเองแล้ว แต่ก็ไม่ควรมองข้ามการวางแผนอย่างรอบคอบ เพราะทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนต้องมีแผนเสมอ โดยเริ่มต้นจากการวางเป้าหมายของธุรกิจ พร้อมแผนปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และควรทบทวนแผนเป็นรายไตรมาส เช่น ควรมีการลดต้นทุนหรือปรับกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่? หรือบริการลูกค้าจะดีขึ้นถ้าใช้เทคโนโลยีหรือไม่?
สิ่งสำคัญที่เราต้องจำไว้คือ ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า เรากำลังคืบหน้าไปเสมอ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถหาวิธีใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจได้หลากหลาย เช่น ในธุรกิจสุขภาพและโภชนาการ ผู้จำหน่ายอาจจัดสัมมนาออนไลน์ กิจกรรมออกกำลังกายกลางแจ้ง และส่งคอนเทนต์สุขภาพให้ลูกค้าผ่านอีเมลหรือจดหมายข่าว
อีกหนึ่งบทเรียนที่สำคัญคือ "การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ" โดย 4 ใน 10 ของผู้ประกอบการระบุว่า การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จ เพราะเมื่อเปลี่ยนบทบาทมาเป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว หลายคนอาจรู้สึกว่าต้องทำทุกอย่างเองจนเหนื่อยล้า ดังนั้นการตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริงและมุ่งมั่นทำให้เสร็จในแต่ละวัน จึงเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพ
บ่มเพาะความฝันให้เติบโต
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ทั้งในระดับนโยบายและระดับบุคคล ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ด้านหลัก ๆ ดังนี้
- การสนับสนุนจากสังคม
ไม่ว่าธุรกิจจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นหรือเติบโตแล้ว ผู้ประกอบการย่อมต้องการคำแนะนำจากเครือข่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นส่วน นักวางแผนการเงิน หน่วยงานรัฐ หรือเครือข่ายผู้ประกอบการโดยตรง ในขณะเดียวกัน การสนับสนุนทางอารมณ์จากครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่อาจเผชิญกับแรงกดดันจากสังคมหรือครอบครัว การเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้ทดลอง เสนอไอเดีย และได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม จะเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ
- ความหลากหลายคือพลัง
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีโอกาสเพิ่มรายได้ต่อหัวสูงถึง 70% ภายในสองรุ่น หากลดความเหลื่อมล้ำทางเพศในการจ้างงานและการเป็นผู้ประกอบการได้ ดังนั้น ควรสนับสนุนให้ผู้หญิงเข้าสู่ตลาดที่มีศักยภาพใหม่ ๆ เพราะธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นผู้นำมีแนวโน้มขยายตัวได้เร็วและแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงรุ่นใหม่กล้าฝ่ากรอบสังคมเดิม และช่วยสร้างรากฐานของความเท่าเทียมในระบบเศรษฐกิจ
ความหลากหลายยังเป็นหัวใจของนวัตกรรม งานวิจัยหลากหลายชิ้นระบุว่า ทีมที่มีความหลากหลายทางเพศมีประสิทธิภาพมากกว่า และสามารถคิดแก้ปัญหาได้จากหลายมุมมอง ทำให้ธุรกิจมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
- ก้าวสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน
ผลสำรวจล่าสุดของเราแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภครุ่นใหม่ในเอเชียให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และคาดหวังให้ภาครัฐและธุรกิจมีบทบาทมากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการควรนำควยั่งยืนมาปรับให้เข้ากับธุรกิจของตัวเอง ซึ่งภาครัฐสามารถสนับสนุนได้ผ่านการให้แรงจูงใจและจัดการฝึกอบรมที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกอุตสาหกรรม และถึงแม้ว่าการนำไปปฏิบัติจริงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลมากต่อทั้งการดำรงชีพ ชุมชน และเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ปัจจุบันการเป็นผู้ประกอบการไม่ได้เป็นเพียงกลไกสร้างงานเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นอิทธิพลเชิงบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างนวัตกรรมและตลาดเข้าด้วยกัน เมื่อเทรนด์ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพและไลฟ์สไตล์เชิงบวกมากขึ้น ธุรกิจในกลุ่มนี้จึงกลายเป็นเวทีแห่งโอกาสที่น่าจับตามอง ซึ่งผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่สามารถเข้าใจได้อย่างรอบด้าน ทั้งสังคม เครือข่าย และระบบนิเวศทางธุรกิจ ที่สำคัญกว่านั้นคือ ความสำเร็จเริ่มต้นจากความเชื่อ และ การเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งถือเป็นสูตรลับในการก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดเสมอมา