
แพลตฟอร์มXเตรียมเปิดให้ใช้คริปโทชำระเงินและJP Morganไฟเขียวลูกค้าลงทุนบิตคอยน์
- Bitget เผย 3 ปัจจัยหนุนโลกคริปโทคึกคัก ทั้ง 1. สหรัฐผ่านกฎหมายสนับสนุน Stablecoin ที่มีเงินดอลลาร์หนุนหลัง 2. แพลตฟอร์ม X ของอีลอน มักส์ เตรียมเปิดการใช้งานฟีเจอร์ชำระเงินด้วยคริปโทผ่านความร่วมมือกับ Visa และ 3. JP Morgan Chase ธนาคารใหญ่สุดของสหรัฐฯ อนุญาติให้ลูกค้าสามารถลงทุนบิทคอยน์ได้แล้ว
- แนะจับตาการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและความปลอดภัยจากผู้กำหนดนโยบาย เหตุเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จระยะยาว
- มองเป้าบิทคอยน์เดือนมิถุนายนที่113,000 ดอลลาร์ จากกฎระเบียบใหม่ที่เป็นบวกรวมถึงปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค แต่ระวังการกลับตัวแข็งค่าของเงินดอลลาร์และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจสร้างความผันผวน
นางสาวเกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการของ บิตเก็ต (Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัท Web3 ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่าเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้มีความคืบหน้าสำคัญที่เป็นปัจจัยบวกเกิดขึ้นกับโลก คริปโท 3 ปัจจัยสำคัญ คือ
- สหรัฐฯได้มีการผ่านกฎหมาย Genius ACT ซึ่งอนุญาติให้สามารถออก Stablecoin ที่มีสกุลเงินดอลลาร์หนุนหลังได้ โดยกฎหมายดังกล่าวจะเป็นแรงหนุนการเติบโตของตลาดคริปโทในระยะยาว
- มีความคืบหน้าของการนำคริปโตมาใช้เพื่อการชำระเงินอย่างแพลตฟอร์ม X ของอีลอน มักส์ ที่เตรียมเปิดการใช้งานฟีเจอร์ชำระเงินด้วยบล็อกเชนผ่านความร่วมมือกับ Visa ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานกว่า 600 ล้านคนเข้าถึงโลกการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ในชีวิตประจำวัน
- ธนาคาร JP Morgan Chase ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ อนุญาติให้ลูกค้าสามารถที่จะลงทุนบิทคอยน์ได้แล้ว แม้ตัวซีอีโอ เจมี่ ไดมอน (Jamie Dimon) จะยังไม่เห็นด้วยกับการลงทุนในคริปโท แต่การตัดสินใจของ JPMorgan ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบิทคอยน์และอาจกระตุ้นให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมรายอื่นต้องเริ่มเสนอบริการที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้ตกขบวน
"อย่างไรก็ตามความสำเร็จในระยะยาวยังคงขึ้นอยู่กับความชัดเจนด้านกฎระเบียบและระบบความปลอดภัยขั้นสูงความลึกของการเปลี่ยนแปลงในตลาดคริปโทนี้จะขึ้นอยู่กับว่า ผู้กำหนดนโยบายจะสามารถปรับตัวทันกับทั้งนวัตกรรมและความคาดหวังด้านการปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่" นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าว
นายไรอัน ลี (Ryan Lee ) หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ Bitget Research กล่าวว่าราคาบิทคอยน์สามารถแตะระดับ 110,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ จากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันและกฎระเบียบที่มีความชัดเจนขึ้นรวมถึงปัจจัยมหภาคอย่างความคาดหวังที่จะเกิดการลดดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อทำให้บิทคอยน์ถูกมองเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงโดยเฉพาะเมื่อ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Treasury yields) ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนกังวลต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภาพรวม
"ระดับราคา 113,000 ดอลลาร์ ภายในเดือนมิถุนายนมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ โดยปัจจัยที่ต้องระวังคือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หรือเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุขึ้นใหม่ อาจทำให้โมเมนตัมของตลาดสะดุดได้โดยประวัติศาสตร์ของบิทคอยน์ได้แสดงให้เห็นว่าการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว มักตามมาด้วยการปรับฐานแรงๆ เช่นกัน" นายไรอัน ลี กล่าว