
นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวถึงการกำชับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงเรียนสังกัด กทม. และแนวทางปฏิบัติกรณีพบเด็กนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อโควิด 19 ว่า สนศ. ได้ประสานสำนักอนามัย (สนอ.) สำนักการแพทย์ (สนพ.) และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เพื่อแจ้งให้โรงเรียนในสังกัดทั้ง 437 โรงเรียน ทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ตามหนังสือ กทม. ที่ กท 0808/ว 73 ลงวันที่ 22 เม.ย. 68 เรื่อง การเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ของโรงเรียนในสังกัด ซึ่งได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยในการตรวจสอบความพร้อมของอาคารเรียน ห้องเรียน เครื่องเล่นเด็ก ด้านสภาพแวดล้อม ความสะอาด วัสดุการเรียนการสอน เตรียมความพร้อมด้านสุขาภิบาลอาหารก่อนวันเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา ควบคุมดูแลการประกอบอาหารของแม่ครัว ความสะอาดของโรงอาหาร ภาชนะเครื่องใช้ การจัดเก็บนมในโรงเรียน การจัดเก็บอาหารสด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคติดต่อและโรคระบาดต่าง ๆ รวมทั้งโรคโควิด 19 ด้วย
ขณะเดียวกันได้ประสานให้สำนักงานเขตกำกับดูแลโรงเรียนในสังกัดดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการเชิงรุกตามแผนเผชิญเหตุในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงเรียนสังกัด กทม. ได้แก่ ประสานผู้ปกครองให้เฝ้าระวังและตรวจคัดกรองบุตรหลานก่อนพามาโรงเรียน หากพบว่า มีไข้ ไอ จาม หรืออาการอื่นใด ให้ตรวจ ATK และควรหยุดเรียนเฝ้าดูอาการที่บ้าน หรือพบแพทย์ โดยขอความร่วมมือผู้ปกครองแจ้งข้อมูลการเจ็บป่วยของนักเรียนให้โรงเรียนทราบ โรงเรียนทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งตู้กดน้ำดื่ม โต๊ะอาหาร คอมพิวเตอร์ ราวบันได ที่จับบานประตู หน้าต่าง ห้องน้ำ ฯลฯ การตรวจสอบสุขอนามัยอาหารภายในโรงเรียน ควบคุมดูแลการจัดเก็บอาหาร การประกอบอาหาร ใช้ช้อนกลางส่วนตัว รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้เด็กนักเรียนและผู้ปกครองในการเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียนอย่างปลอดภัย หากมีการติดเชื้อ ในสถานศึกษา ให้จัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมในโรงเรียน กรณีพบกลุ่มผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) ให้ประสานปรึกษาศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ และส่งต่อเข้ารับการรักษาตามสิทธิการรักษา หากพบนักเรียนติดเชื้อจำนวนมากในหลายระดับชั้น อาจพิจารณางดการจัดการเรียนการสอน On Site โดยปรับรูปแบบการเรียนการสอนแบบ Online หรือ On-Hand ทดแทน เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคและถือปฏิบัติตามขั้นตอนการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19
นอกจากนี้ ยังได้รณรงค์ส่งเสริมความรู้และกระตุ้นเตือนเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลากรในโรงเรียนเกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด 19 โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง โดย สนศ. ได้ประสานให้สำนักงานเขตกำกับดูแลโรงเรียนในสังกัดดำเนินการตามแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบุคมโรคโควิด 19 เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคให้กับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ผ่านเสียงตามสาย กิจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมโฮมรูม ป้ายนิเทศภายในโรงเรียน สื่อสังคมออนไลน์และกลุ่มโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงเฝ้าระวังตรวจสอบเด็กก่อนเข้าห้องเรียน หากพบนักเรียนที่มีอาการป่วยให้แยกเด็กอยู่ที่ห้องพยาบาล และแนะนำผู้ปกครองให้พาไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในโรงเรียน พร้อมบูรณาการร่วมกับ สนอ. และ สนพ. สื่อสารและประสานงานตรียมความพร้อมสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และแนวทางการส่งต่อรักษาของนักเรียน ผู้ปกครอง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียน เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โรงเรียนในสังกัด รวมทั้งประสานบุคลากรจากสถานพยาบาลในพื้นที่เขต ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณโรงเรียน ร่วมชี้แจงการป้องกันโรค การส่งต่อ สิทธิการรักษา และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในวันประชุมผู้ปกครองและวันปฐมนิเทศนักเรียน โดยมีแนวทางการรณรงค์สร้างความเข้าใจและกำชับเน้นย้ำเกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด 19 ได้แก่ เน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคลกับนักเรียน บุคลากรทุกระดับ และผู้ปกครอง หากรู้สึกมีไข้ควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก หากต้องเข้าในที่แออัด ให้สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างที่เหมาะสม เปิดประตูหน้าต่างห้องเรียนให้อากาศถ่ายเทสะดวก กรณีใช้เครื่องปรับอากาศให้เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศบ้าง เช่น ช่วงเวลาพักเที่ยง หรือช่วงเวลาที่ไม่มีการเรียนการสอน และโรงเรียนในสังกัดประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติให้แก่ผู้ปกครองและแนวทางการดูแลรักษากรณีบุตรหลานติดเชื้อโควิด 19