
นายอิทธิพล อิงประสาร ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการถนนบรรทัดทองว่า สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในด้านต่าง ๆ เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยดำเนินการจัดระเบียบทางเท้าบริเวณถนนบรรทัดทอง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ว่าไม่ได้รับความสะดวกในการสัญจรเพราะมีการตั้งแผงค้ารุกล้ำทางเท้า อีกทั้งยังมีลูกค้าจำนวนมากยืนรอใช้บริการบริเวณหน้าร้าน ทำให้ประชาชนบางส่วนต้องลงไปเดินบนพื้นผิวจราจรซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ สำนักงานเขตฯ จึงดำเนินการจัดระเบียบโดยอาศัยพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ตั้งวางแผงค้า หรืออุปกรณ์ใด ๆ กีดขวางทางเท้าและเพื่อให้ประชาชนใช้ทางเท้าได้อย่างสะดวกปลอดภัย ส่วนการดูแลความสะอาดของทางเท้าได้จัดเก็บขยะวันละ 3 รอบ โดยอนุญาตให้ประชาชนในชุมชนนำขยะมาทิ้งได้ตามเวลา ส่วนร้านค้าซึ่งมีปริมาณขยะจากการประกอบอาหารจำนวนมาก สำนักงานเขตฯ ได้ขอความร่วมมือให้ทิ้งขยะในเวลาที่กำหนด โดยจะร่วมกับสำนักการจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พิจารณาจุดติดตั้งถังขยะและจุดทิ้งขยะที่เหมาะสมต่อไป
นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงการตรวจสอบและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหารบนถนนบรรทัดทองในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสุขาภิบาลว่า พื้นที่โดยรอบถนนบรรทัดทองเป็นทรัพย์สินของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กทม. จึงไม่สามารถจัดให้มี Street Food ในบริเวณดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบกิจการสามารถติดต่อสำนักงานโรคติดต่อทางสาธารณสุขเพื่อขอคำแนะนำหรือการสนับสนุนเกี่ยวกับการกำจัดสัตว์นำโรคได้ที่ โทร. 0 2203 2885 ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีมาตรการป้องกันสัตว์และแมลงนำโรคไม่ให้เข้ามาในร้านอาหาร โดยดูแลรักษาความสะอาดของร้านอย่างถูกสุขลักษณะ ใช้อุปกรณ์ หรือสารเคมีที่เหมาะสมตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง สถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการร้านอาหารต้องจัดให้มีถังรองรับมูลฝอยที่มีสภาพดี ไม่รั่วซึม ไม่ดูดซับน้ำ มีฝาปิดมิดชิด และแยกเศษอาหารออกจากมูลฝอยประเภทอื่น พร้อมทั้งดูแลรักษาความสะอาดถังรองรับมูลฝอยและบริเวณโดยรอบอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงติดตั้งถังดักไขมัน หรือบ่อดักไขมันเพื่อแยกไขมันก่อนปล่อยน้ำทิ้งลงสู่ระบบระบายน้ำ เพื่อควบคุมและกำจัดแหล่งอาหารของสัตว์และแมลงนำโรค อีกทั้งเป็นการคัดแยกขยะเศษอาหารและไขมันส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ กทม. เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล
ทั้งนี้ สนอ. ร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้ตรวจสอบสุขลักษณะและการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของสถานประกอบการที่มีการจำหน่ายอาหาร พร้อมให้คำแนะนำทางด้านวิชาการ ควบคุม กำกับให้ปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด หากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด ภายใต้โครงการกรุงเทพฯ เมืองอาหารปลอดภัย และยุทธการปราบไขมัน โดยจัดทำป้ายรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย ซึ่งแสดงถึงการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสถานประกอบการอาหารด้านสุขลักษณะ ความปลอดภัยของอาหาร การบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การป้องกันโรคติดต่อ และได้มาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอีกด้วย
นอกจากนี้ สนอ. ได้กำหนดจัดอบรมและประเมินผลความรู้หลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้ประกอบกิจการผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัล (Online) ระหว่างเดือน พ.ค.-มิ.ย. 68 จำนวน 10 รุ่น เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการจำหน่ายอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และสามารถจัดการมูลฝอยและไขมันได้อย่างถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล รวมถึงประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้ประกอบการเข้าร่วม "โครงการไม่เทรวมกับ กทม." เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการแยกขยะเศษอาหารและไขมันที่เกิดจากการประกอบการ ส่งต่อให้หน่วยงานของ กทม. นำไปกำจัดอย่างถูกต้อง เป็นการรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้มอีกทางหนึ่งด้วย
นายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) กทม. กล่าวถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวย่านบรรทัดทองว่า สวท. ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือนกรุงเทพฯ ผ่านการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดทำอินโฟกราฟิก ภาพเล่าเรื่อง บทความด้านการท่องเที่ยว ปฏิทินการท่องเที่ยว และผลิตวิดีโอสั้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในมิติต่าง ๆ โดยถ่ายทำและตัดต่อให้มีความน่าสนใจ บันทึกเสียงเป็นภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เพื่อเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ ภายใต้ธีม "Visit Bangkok" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว แนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึงงานเทศกาลและกิจกรรมต่าง ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับทราบอย่างทั่วถึง
สำหรับการประชาสัมพันธ์ย่านถนนบรรทัดทอง สวท. ได้จัดทำคลิปวิดีโอและเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ของส่วนการท่องเที่ยว ซึ่งผู้ติดตามส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีความสนใจในการเดินทางท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยมี 5 ช่องทาง ได้แก่ TikTok ภายใต้ชื่อ Visitbangkok offical มีผู้ติดตามกว่า 14,000 คน Facebook ชื่อ VisitBangkok.Thailand มีผู้ติดตามกว่า 34,000 คน YouTube ชื่อ Visitbangkok_offical มีผู้ติดตามประมาณ 1,000 คน Instagram ชื่อ Visitbangkok_offical มีผู้ติดตามประมาณ 700 คน และเว็บไซต์ ชื่อ visit.bangkok.go.th โดยได้ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์อาหารอร่อย Street Food ในย่านบรรทัดทอง
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และกระแสข่าวด้านลบเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกรณีการหายตัวไปของนักท่องเที่ยวชาวจีน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สวท. จึงเร่งสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นฟูภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ให้กลับมาเป็นเมืองที่ปลอดภัยและพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่ใกล้เคียงมีการส่งต่อพลังบวกและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรับรู้ว่ากรุงเทพฯ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยและน่าสนใจ พร้อมทั้งได้ปรับภาพโปรไฟล์ในช่องทางโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ พร้อมข้อความ "Bangkok, We are OK!" เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน สวท. ยังได้จัดการแสดงดนตรีภายใต้กิจกรรม "อนุรักษ์ฟื้นฟู และเผยแพร่ศิลปะการดนตรีเพื่อประชาชนกรุงเทพมหานคร" รวมถึงจัดกิจกรรม "Bangkok Street Performer" โดยวง Bangkok String Ensemble บริเวณจุฬาลงกรณ์ ซอย 14 ถนนบรรทัดทอง เพื่อเป็นอีกช่องทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจในย่านบรรทัดทองและดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว รวมทั้งให้การสนับสนุนตามภารกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาย่านบรรทัดทองให้เป็นย่านสร้างสรรค์ และอยู่ระหว่างเสนอโครงการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีย่านถนนบรรทัดทองเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมาย