"วิกฤติคือโอกาส" กับตลาดหุ้นจีนท่ามกลางความท้าทาย

ข่าวทั่วไป Wednesday June 11, 2025 11:58 —ThaiPR.net

ในปัจจุบันที่ความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐฯ และจีนได้ก้าวเข้าสู่ยุคของการแข่งขันเชิงกลยุทธ์อันนำพาไปสู่สงครามการค้า ทั้งสองประเทศต่างก็ใช้มาตรการกำแพงภาษีเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้ นอกจากนี้ การแข่งขันด้านเทคโนโลยียังเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่สำคัญ ซึ่งสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในส่วนของเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยี AI ไปยังจีน

ท่ามกลางความท้าทายจากสงครามการค้า สงครามค่าเงิน และการแข่งขันด้านเทคโนโลยีกับสหรัฐฯ นั่นจึงทำให้ตลาดหุ้นจีนแทบไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จนทำให้ปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2568 ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange) มีการซื้อขายที่ระดับ P/E Ratio เพียง 14.34 เท่าเท่านั้น (เปรียบเทียบกับตลาดหุ้นไทยที่อยู่ที่ 13.18 เท่า) ซึ่งหากเทียบกับดัชนีตลาดหุ้นในประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สหรัฐฯ หรือแม้แต่ยุโรป ก็ล้วนทำราคาดัชนีไต่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในสภาวะเช่นนี้ คนทั่วไปอาจมองว่าเป็นวิกฤติของจีน แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ดังที่สุภาษิตจีนว่าไว้ "วิกฤติคือโอกาส" ก็เป็นอีกมุมมองที่น่าสนใจและสามารถสะท้อนสถานการณ์ตลาดการเงินจีนในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน

นายกวี ชูกิจเกษม ประธานเจ้าหน้าที่สายการบริหารพอร์ตการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ได้แบ่งปันมุมมองว่า "แม้ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนอาจจะไม่โดดเด่นอย่างตลาดอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอย่างดี และมีแนวโน้มที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้เราเห็นศักยภาพอันโดดเด่นของบริษัทในตลาดหุ้นจีน ที่เต็มไปด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำระดับต้นๆ ของโลก"

ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ จีนไม่ได้นิ่งเฉย แต่กลับเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติผ่านนโยบาย "Made in China 2025" ซึ่งรัฐบาลจีนได้ปรับกลยุทธ์การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ โดยเน้นการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี การเปิดตลาดทุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตแบบยั่งยืนมากขึ้น

"ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีพลังงานทดแทน นอกจากนี้ยังมีบริษัทชั้นนำสัญชาติจีนที่น่าจับตามองอีกมากมาย อาทิ Tencent, Alibaba, CATL, BYD และ Baidu ที่กำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งด้วยศักยภาพในการเติบโตที่ยอดเยี่ยมในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยีขั้นสูง ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักลงทุนที่จะได้เห็นด้วยตาตนเองว่านวัตกรรมของจีนกำลังกำหนดรูปแบบตลาดโลกอย่างไร และเพื่อค้นหาโอกาสการลงทุนที่มีแนวโน้มสดใส" คุณกวี กล่าวเสริม

ด้วยโอกาสที่น่าสนใจนี้ บล.พายจึงร่วมมือกับ CSI Society จัดทริปสุดพิเศษไปยังศูนย์กลางนวัตกรรมของจีนที่เมืองหังโจวและเซี่ยงไฮ้ เพื่อสัมผัสกับพลังแห่งนวัตกรรมของจีนอย่างใกล้ชิดระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม 2568 โดยทริปนี้มอบโอกาสให้นักลงทุนได้สำรวจศักยภาพการเติบโตอันมหาศาลของจีนผ่านการเยี่ยมชมบริษัทเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เป็นตัวแทนของนวัตกรรมระดับโลกในอนาคต เช่น

  • Unitree Robotics บริษัทเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ประสิทธิภาพสูงและเป็นบริษัทแห่งแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์สี่เท้าและหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ประสิทธิภาพสูงแก่สาธารณชน
  • Tongdun Technology ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการจัดการความเสี่ยงอัจฉริยะและระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ให้บริการลูกค้ากว่า 10,000 รายใน 22 อุตสาหกรรม รวมถึงการเงินและอีคอมเมิร์ซ
  • Hikvision Digital Technology บริษัทผู้ผลิตกล้องวงจรปิดสัญชาติจีนที่สามารถนำเอาการประมวลผลในระดับ Cloud, Big Data และ Deep Learning เพื่อยกระดับระบบกล้องวงจรปิด พร้อมขยายธุรกิจสู่โซลูชันสมาร์ทโฮมและสมาร์ทซิตี้

นำทริปโดยนายกวี ชูกิจเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพอร์ตการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) พิเศษสำหรับลูกค้าของบล.พาย รับส่วนลด 3,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ LINE OA: @CsiSociety

ติดตามโปรโมชันและข่าวสารต่างๆ ของบล.พายเพิ่มเติมได้ที่ LINE OA: @pisecurities, FB: pisecurities และ YouTube: Pi Securities


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ