อีเอ็มซีตอกย้ำผู้นำสตอเรจโลก ชูจุดแข็งซอฟต์แวร์โซลูชั่นครบวงจร

ข่าวทั่วไป Thursday January 15, 2004 16:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
อีเอ็มซี ผู้นำตลาดระบบจัดเก็บข้อมูลอันดับหนึ่งของโลกประกาศนั่งบัลลังก์แช้มป์ในอีก 2 ปีข้างหน้าหลังเข้าซื้อกิจการ 3 บริษัทซอฟต์แวร์โซลูชั่นด้านต่างๆ เป็นผลสำเร็จ ระบุชัดยังให้อิสระในการทำตลาดและขายผลิตภัณฑ์ ส่วนสาขาประเทศไทยปลื้มยอดปีที่ผ่านมาโตกว่า 100 เปอร์เซ็นตั้งเป้าปีนี้โตอีก 35 เปอร์เซ็นต์ ผลจากการผลักดันนโยบายด้านไอทีภาครัฐ ขณะเดียวกันระบุการแข่งขันดุเดือดกว่าปีก่อน
นายมาร์ค เอส. ลูอิส รองประธานบริหาร ฝ่ายซอฟต์แวร์ระบบเปิด บริษัท อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น ผู้นำในตลาดระบบการจัดเก็บข้อมูลของโลก เปิดเผยถึงแผนการตลาดของอีเอ็มซีทั่วโลกในปีนี้เนื่องในโอกาสการมาประชุมผู้บริหารทั่วภาคพื้นเอเชีย/แปซิฟิกครั้งแรกในเมืองไทยว่า บริษัทจะยังคงเดินหน้าเพื่อขยายโอกาสใหม่ๆ ของช่องทางการทำตลาดภายหลังจากการเข้าซื้อกิจการ 3 บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลก อันได้แก่ เลกาโต, ด็อกคิวเม็นตั้ม และวีเอ็มแวร์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมาด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า ภายใต้จุดแข็งที่แตกต่างกันของ 3 บริษัทดังกล่าว จะทำให้บริษัทสามารถขยายช่องทางใหม่ๆ ในการทำตลาดเพื่อรักษาอันดับในฐานะผู้นำตลาดสตอเรจระดับโลกได้ในอีก 2 ปีข้างหน้าด้วยเป้าหมายการขยายตัวของยอดจำหน่ายซอฟต์แวร์โซลูชั่น ซึ่งประกอบด้วย ซอฟต์แวร์ด้านการจัดการเนื้อหา (Content Management) ในอัตราการขยายตัวประมาณ 23 เปอร์เซ็นต์ ส่วนซอฟต์แวร์ด้านการจัดการบริหารวงจรการใช้งานข้อมูล (Information Management) จะมีการขยายตัวประมาณ 24 เปอร์เซ็นต์ และซอฟต์แวร์ด้านโครงสร้างพื้นฐานเวอร์ช่วล ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 100 เปอร์เซ็นต์ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายใน 3 สายผลิตภัณฑ์ได้ไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้
"เรามองว่าศักยภาพของตลาดในแถบภูมิภาคเอเชีย/แปซิฟิกอยู่ในระดับที่ดีมากเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ และตลาดในประเทศไทยเองก็มีทิศทางการเติบโตในระดับดีเช่นกัน และเราเชื่อมั่นว่าภายใต้การทำตลาดผนวกกับผลิตภัณซอฟต์แวร์ของ 3 บริษัทดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถเดินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ได้" นายลูอิสกล่าวย้ำ
สำหรับเรื่องแผนการปรับโครงสร้างการบริหารงานทั่วโลก รวมทั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทยภายหลังจากการควบรวม 3 บริษัทดังกล่าวว่า ในระยะสั้นอีเอ็มซีจะยังคงปล่อยให้แต่ละบริษัทมีการบริหารงานอย่างอิสระภายใต้ผู้บริหารคนเดิม โดยยังไม่มีนโยบายยุบบริษัทใดๆ เข้ามาทำงานรวมกับอีเอ็มซีแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อความคล่องตัวในการทำงานเนื่องจากแต่ละบริษัทมีทีมด้านการวิจัยและการตลาดที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยในระยะยาวนั้นบริษัทอาจจะมีการพิจารณาถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานอีกครั้งตามความเหมาะสม
ด้านนายวินัย วารัญญานนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะร่วมมือกับคู่ค้าหลัก 3 รายรุกตลาด SME และองค์กรภาครัฐในมากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาอีเอ็มซี ประเทศไทยสามารถทำยอดจำหน่ายด้วยอัตราการเติบโตกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้คาดว่าจะสามารถมีอัตราการขยายตัวได้ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากกว่าอัตราการขยายตัวทั่วโลกของอีเอ็มซีซึ่งประกาศว่าจะอยู่ในอัตรา 25 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ สาเหตุของการขยายตัวในตลาดสตอเรจในปีนี้สืบเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการด้วยกันประการแรก สืบเนื่องมาจากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศซึ่งก่อให้เกิดการลงทุนในทุกๆ ภาคอุตสาหกรรม และส่งผลให้ภาคเอกชนได้เล็งเห็นความสำคัญของการนำระบบการบริหารและจัดการข้อมูลมาใช้ในองค์กรมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าประเภทธนาคาร, สื่อสารโทรคมนาคม ตลอดจนกลุ่มอุตสาหกรรมหนักต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ ประการถัดมาคือ เป็นไปตามแนวโน้มของตลาดโลกที่มีการนำระบบดังกล่าวมาใช้บริหารงานในองค์กรและก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ทำให้บริษัทใหญ่ๆ ในไทยเริ่มเห็นความสำคัญและเริ่มมีการนำระบบไอทีเข้ามาบริหารและจัดการข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร อาทิ SAN NAS และประการที่สาม คือ การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการใช้ไอทีจากภาครัฐไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายวินัยกล่าวว่าการขยายตัวดังกล่าวก่อให้เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของตลาดระดับกลางถึงระดับบนซึ่งมีผู้ค้ารายใหญ่หลายรายพยายามปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าและช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดให้ได้มากที่สุด โดยในส่วนของอีเอ็มซีเองได้ตอกย้ำนโยบายการทำตลาดโดยขายผ่านคู่ค้าเป็นหลัก และยืนยันจุดแข็งในการเป็นผู้นำเสนอระบบซอฟต์แวร์บริหารข้อมูลแบบโซลูชั่นคือ มีทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมทั้งการให้บริการด้านคำปรึกษาก่อนและหลังการขาย
"คู่แข่งของอีเอ็มซีจะขายสตอเรจเป็นส่วนหนึ่งของระบบ แต่เรากลับมองว่าสตอเรจเป็นหัวใจของระบบการบริหารจัดการข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์กรภาครัฐ ซึ่งหากมีระบบการจัดการข้อมูลที่ดีจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่" นายวินัยกล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลเกี่ยวกับ EMC
อีเอ็มซี คือผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นระบบเครือข่ายสตอเรจ แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆทั่วโลกสามารถดึงและใช้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ได้ในระดับสูงสุดและใช้ต้นทุนทั้งหมดขั้นต่ำสุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.EMC.com
สำหรับสื่อมวลชน : สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
Khoo Yin
Senior Marcom Specialist
EMC South Asia Tel: +65-6427-1741 Fax: +65-6333-6878
Email: khoo_yin@emc.com
Local PR agency contact
สุดานาฏ อิ๋วสกุล
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด โทร : 0-2971-3711 โทรสาร : 0-2521-9030
E-mail: sudanart@pc-a.co.th--จบ--
-รก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ