
บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ลงนามบันทึกความเข้าใจ "โครงการยุติธรรมสร้างโอกาส บิทคับสร้างชีวิตใหม่" เพื่อการประสานความร่วมมือในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงและส่งเสริมโอกาสเพื่อสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำของกรมราชทัณฑ์และเด็กและเยาวชนในสถานที่ควบคุมของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมี พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรีและรองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นประธานสักขีพยาน พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด, คุณพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม, พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, คุณณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน, คุณอรุณี กลิ่นสุด ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด (Pizza Hut) และคุณวรวรรณ จั่นทิม รองผู้อำนวยการโครงการเพื่อสังคม บริษัท เชฟแคร์ส โปรเจกต์ จำกัดและมูลนิธิเชฟแคร์ส (Chef Cares) เข้าร่วม ณ ห้องประชุมสนฉัตร อาคารกระทรวงยุติธรรม กรุงเทพฯ

ภายใต้ความร่วมมือ "โครงการยุติธรรมสร้างโอกาส บิทคับสร้างชีวิตใหม่" นี้ บิทคับ กรุ๊ป จะร่วมสนับสนุนการส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เด็กและเยาวชน รวมถึงผู้ต้องขัง ในด้านเทคโนโลยี, เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการจัดการความรู้ทางการเงิน ผ่านโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การอบรมให้ความรู้, การสนับสนุนสื่อการเรียนรู้ให้กับศูนย์การเรียนรู้ (Learning Center) ด้านเทคโนโลยี, โครงการ Roadshow ด้านการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจทั่วประเทศร่วมกับพันธมิตรสำคัญอย่าง Pizza Hut และ Chef Cares, การบริจาคคอมพิวเตอร์และหนังสือความรู้ด้านการเงิน ฯลฯ
คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "บิทคับ กรุ๊ป ตระหนักดีว่า 'โอกาส' คือจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เราจึงให้ความสำคัญกับการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะสำหรับทุกคนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนภายใต้การดูแลของกรมพินิจฯ รวมถึงผู้ต้องขังในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ เรามีแผนดำเนินโครงการ Roadshow ด้านการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจทั่วประเทศในปี 2568 ร่วมกับพันธมิตรสำคัญอย่าง Pizza Hut และ Chef Cares ซึ่งจะครอบคลุมทั้งสถานพินิจฯ ศูนย์ฝึกและอบรมฯ และเรือนจำ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาทักษะอาชีพแห่งอนาคตและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง"
คุณพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า "ดิฉันรู้สึกยินดีต่อความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและเปิดโอกาสให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ เด็กเยาวชน และบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพสมัยใหม่ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการกลับคืนสู่สังคมอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ดิฉันขอขอบคุณเครือข่ายภาคเอกชนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของเด็กและเยาวชน ตลอดจนผู้ต้องราชทัณฑ์ และร่วมเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจคืนคนดีสู่สังคม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ที่จะสร้างพลังแห่งโอกาสและเปิดเส้นทางชีวิตใหม่ให้กับผู้ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาตนเอง และกลับมาเป็นกำลังที่เข้มแข็งของสังคมอีกครั้ง"
พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า "การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและส่งเสริมการฝึกอาชีพให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมพินิจฯ โดยมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนมีทักษะวิชาชีพติดตัว เป็นการเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ กรมพินิจฯ จึงมีความพยายามที่จะทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ในการส่งเสริม พัฒนาให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความสามารถ และมีทักษะวิชาชีพ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมโอกาส และสร้างทางเลือกของเด็กและเยาวชนภายหลังปล่อยตัว ทุกท่านในที่นี้ คือ จิ๊กซอว์ ที่สำคัญ ในการเชื่อมโยงส่งมอบโอกาสและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน และผมเชื่อว่า ทุกเครือข่ายความร่วมมือที่เข้ามาสนับสนุนภารกิจของกรมพินิจฯ ต่างมุ่งหวังเพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างภาคภูมิและดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข"
บิทคับ กรุ๊ป เชื่อมั่นว่า การส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และผู้ต้องขังได้เรียนรู้พัฒนาและมองเห็นเส้นทางชีวิตใหม่ที่สร้างสรรค์ คือการลงทุนในทุนมนุษย์ของประเทศอย่างแท้จริง รวมถึงเป็นรากฐานสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและฟื้นฟูสังคมในระยะยาว ตลอดจนพร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมสร้าง "สังคมแห่งโอกาส" ที่แท้จริง