กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--IR network
“บมจ.น้ำตาลครบุรี” หรือ KBS เนื้อหอม เดินทางโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์พบนักลงทุนสถาบัน 14 กองทุน ปลื้มได้รับความสนใจอย่างยิ่ง “อิสสระ ถวิลเติมทรัพย์” เผยประเด็นที่ถูกถามมากคือทิศทางธุรกิจพร้อมแนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำตาลในภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่ง KBS ประเมินแนวโน้มราคาน้ำตาลยังทรงตัวได้อย่างแข็งแกร่งที่ 22-35 เซ็นต์ต่อปอนด์ อย่างน้อยจนถึงปี 2557 แย้มแนวโน้มผลประกอบการปีหน้าคาดรายได้โตต่อเนื่อง 10-15% ส่วนปีนี้สบายใจได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นาย อิสสระ ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) (KBS) เปิดเผยภายหลังจากเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2554 ว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยมีกองทุนชั้นนำเข้าร่วมงานเต็มจำนวน 14 กองทุน ซึ่งผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศให้ความสนใจ KBS เป็นอย่างมาก โดยประเด็นคำถามหลักๆ ที่ถามจะเป็นเรื่องของโมเดลธุรกิจ ทิศทางธุรกิจ และมุมมองต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำตาลภายใต้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
“KBS ประเมินว่าราคาน้ำตาลยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก เนื่องจากผลผลิตน้ำตาลของบราซิลลดลง และสต๊อกน้ำตาลทั่วโลกยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะเดียวกันจากรายงานผลการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกในบราซิลล่าสุด พบว่าบราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในโลกไม่มีการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำตาลรวมถึงการขยายพื้นที่เพาะปลูกด้วย บวกกับสภาพอากาศที่แปรปรวนไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ทำให้คาดว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลก มีแนวโน้มจะยืนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ราว 22-35 เซ็นต์ต่อปอนด์ ต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2557”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าปริมาณน้ำตาลโลกในปี 2555 จะมีมากกว่าความต้องการซื้อในปี 2554 อันเป็นผลมาจากการผลิตที่สูงขึ้นในประเทศไทย อินเดีย และสหภาพยุโรป แต่จากสต๊อกน้ำตาลโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี จึงส่งผลต่อระดับราคาน้ำตาลโลกให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป
“สำหรับแนวโน้มของผลประกอบการในรอบบัญชีปี 2554 มั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ ส่วนรอบบัญชีปี 2555คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องได้ โดยวางเป้าหมายเบื้องต้นคาดว่ารายได้รวมจะมีการเติบโตประมาณ 10-15% และมีอัตรากำไรสูงกว่ารอบปี 2554 เนื่องจากที่ผ่านมาได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทำให้สามารถผลิตน้ำตาลได้มากขึ้น นอกจากนี้คาดว่าปริมาณหีบอ้อยในงวดปี 2555 จะใกล้เคียงกับปี 2554 ที่ 2.8 ล้านตันอ้อย และบริษัทได้มีสัญญาขายล่วงหน้าแล้ว 85% ของปริมาณผลิต” นายอิสระ กล่าวในที่สุด