PETPAL ยื่นไฟลิ่งเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจรับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ดพร้อมบริการครบวงจร

ข่าวทั่วไป Monday June 16, 2025 15:59 —ThaiPR.net

PETPAL ยื่นไฟลิ่งเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจรับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ดพร้อมบริการครบวงจร

บมจ.เพ็ทพัล โปรดักส์ หรือ PETPAL ยื่นไฟลิ่งเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เสริมความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจรับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ดภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (ODM) พร้อมบริการแบบครบวงจร
ชูศักยภาพผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกว่า 10 ปี และทีมผู้เชี่ยวชาญร่วมทำงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด
ทุกขั้นตอน ตั้งแต่คิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ด้วยสูตรเฉพาะของบริษัทฯ การคัดสรรวัตถุดิบ เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และโรงงานที่ได้รับรองมาตรฐานทั้งระดับประเทศและระดับสากล รวมถึงมีการผลิตและจำหน่ายอาหารแมวและสุนัขชนิดเม็ดแบบแห้งภายใต้แบรนด์ของตนเอง (House Brand) เพื่อเพิ่มโอกาสขยายตลาดและเพิ่มมูลค่าธุรกิจในระยะยาว

นายวสกร โมรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพ็ทพัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PETPAL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ด (Dry Pet Food) ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (Original Design Manufacturer: ODM) พร้อมบริการแบบครบวงจร (One-stop Service) โดยครอบคลุมการให้คำปรึกษา การคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การผลิต จัดเตรียมเอกสาร และจัดส่งสินค้า นอกจากนี้ ได้มุ่งเน้นการให้บริการที่มีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ทั้งที่เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับสากลและลูกค้ารายใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์สินค้าของตนเอง

บริษัทฯ มีผู้บริหารที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงมานานกว่า 10 ปี และมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอาหารสัตว์เลี้ยงทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ด้วยสูตรเฉพาะของบริษัทฯ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิตและมีการตรวจสอบควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน โดยโรงงานของบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสระบุรี ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งระดับประเทศและระดับสากล อาทิ มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP), มาตรฐานระบบการจัดการและควบคุมความปลอดภัยของอาหาร (GHP/HACCP - Food Safe) มาตราฐาน ISO22000, ISO9001:2015 ฯลฯ และมาตรฐานเฉพาะอื่น ๆ เช่น มาตรฐาน HALAL ที่รับรองผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ว่าเป็นไปตามหลักของศาสนาอิสลาม, มาตรฐาน SUCI PURE ด้านความสะอาดและปลอดภัย เป็นต้น ซึ่ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 โรงงานมีกำลังการผลิต 36,000 ตันต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังผลิตและจำหน่ายอาหารแมวและสุนัขชนิดเม็ดแบบแห้งภายใต้แบรนด์ของตนเอง (House Brand) เพื่อเพิ่มโอกาสขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ และเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะเพิ่มมูลค่าธุรกิจในระยะยาว รวมถึงเพิ่มยืดหยุ่นในการปรับตัวให้สอดคล้องกับตลาดที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตลาดทุกระดับ ได้แก่ (1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม (Premium Grade) สำหรับลูกค้าที่ต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ อาหารแมวและสุนัข แบรนด์ Boom Gold และอาหารแมวแบรนด์ Animeals (2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับมาตรฐาน (Standard Grade) สำหรับลูกค้าที่ต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพในราคาย่อมเยา ได้แก่ อาหารแมวและสุนัขแบรนด์ Boom และอาหารสุนัขแบรนด์ MYPETS และ (3) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับประหยัด (Economy Grade) โดยยังคงคุณค่าทางโภชนาการขั้นพื้นฐานสำหรับสัตว์เลี้ยง ได้แก่ อาหารแมวและสุนัขแบรนด์ Smillie

นายวสกร กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกและสามารถขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมาจากข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันของบริษัทฯ ได้แก่

1) มีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและกระบวนการผลิตที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล โดยบริษัทฯ ยึดมั่นในคุณภาพ ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงอย่างเคร่งครัดมาตลอด รวมถึงมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เพื่อส่งเสริมสุขภาพและการเจริญเติบโตที่ดีของสัตว์เลี้ยง

2) บริการที่ยืดหยุ่นและครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพเพื่อตอบสนองความต้องการของ SME และผู้ประกอบการรายใหม่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสูตรอาหารสัตว์เลี้ยงแบบ In-House ด้วยทีมงานภายในทั้งหมด และส่งเสริมให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์

3) มีกลุ่มลูกค้ากระจายตัวหลายประเทศและการทำตลาดที่หลากหลาย โดยบริษัทฯ ทำการตลาดทั้งแบบ B2B และ B2C ทั้งในและต่างประเทศ จึงช่วยกระจายความเสี่ยงกลุ่มลูกค้าและการพึ่งพารายได้จากประเทศใดประเทศหนึ่ง สะท้อนจากปี 2567 ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดมีสัดส่วนรายได้เพียงร้อยละ 20 และมีการส่งออกผลิตภัณฑ์แบบ ODM และ House Brand กว่าร้อยละ 61

4) อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตดีช่วยสนับสนุนการขยายตัวของบริษัทฯ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปพร้อมกับภาพรวมอุตสาหกรรมและแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น โดย Fortune Business Insights ประเมินว่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกปี 2567 มีมูลค่ารวม 126.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าปี 2568-2575 จะมีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้นจาก 132.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 193.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 5.52

5) มีทีมผู้บริหารรุ่นใหมที่มีวิสัยทัศน์ โดยผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ (คุณวสกร โมรากุล CEO และคุณวัฒนา โมรากุล CFO) เห็นโอกาสเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง จึงตั้งเป้าหมายยกระดับคุณภาพ สารอาหาร โภชนาการ และคุณประโยชน์ของอาหารสัตว์เลี้ยงให้เทียบเท่าอาหารของมนุษย์

นางสาวนลิน วิริยะเสถียร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.เพ็ทพัล โปรดักส์ ได้เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ปัจจุบันได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.แล้ว เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 75,384,500 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 150,769,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วมีจำนวน 49,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 98,000,000 หุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 52,769,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน ไม่เกินร้อยละ 35 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ วัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ขยายการลงทุนโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานและในอนาคต รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ