
เมื่อเข้าสู่หน้าฝนการขับขี่ท่ามกลางสายฝนตกหนัก หรือน้ำท่วมขัง ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อการขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง โดยเฉพาะ "มือใหม่" หรือ "ผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว" ยิ่งต้องมีสติและเตรียมตัวให้พร้อม เพราะการขาดประสบการณ์ หรือไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ หรือความเสียหายต่อรถยนต์ที่ไม่คาดฝันได้
นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้แบรนด์ "POP" ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์มาตรฐานสากลฝีมือคนไทยที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างยาวนาน เปิดเผยว่า "ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ที่เราได้มุ่งมั่นพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คุณภาพสูง เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ทุกคน ซึ่งแม้ว่าเราอาจไม่ได้อยู่ในรถของคุณ แต่เราอยู่ใต้รถของคุณเสมอ ทุกชิ้นส่วนที่เราผลิต ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับฝนตกหนัก น้ำท่วม หรือสภาพถนนที่คาดเดาไม่ได้ เพราะความปลอดภัยบนถนนไม่ได้เกิดจากโชคดี แต่มาจากความรู้ ความเข้าใจ และการดูแลล่วงหน้าครับ"

อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ผู้ขับรถมือใหม่ที่ขาดประสบการณ์ อาจตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ดังนั้น มือใหม่ควรศึกษาข้อมูล และมีคำแนะนำติดไว้ในรถด้วย โดยคุณชวิศ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังสำหรับผู้ขับรถมือใหม่ในการขับรถหน้าฝน สิ่งที่ควรทำ (Do) และสิ่งที่ไม่ควรทำ (Don't) เมื่อจำเป็นต้องขับรถขณะฝนตก หรือขับรถลุยน้ำท่วม เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ขับขี่และตัวรถ
Do: สิ่งที่ "ควรทำ"
- สิ่งแรกที่อยากเน้นคือ ทัศนวิสัยจะเปลี่ยนทันทีที่ฝนเริ่มตก โดยเฉพาะช่วงน้ำแรกถนนจะลื่นกว่าปกติมาก ผู้ขับขี่ควรลดความเร็ว เปิดไฟหน้าแม้ในตอนกลางวันเพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นเรา และควรเพิ่มระยะห่างจากคันหน้า 2-3 เท่า ที่สำคัญอย่าใช้ไฟฉุกเฉินในขณะที่รถยังวิ่งอยู่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นสับสนคิดว่ารถจอดนิ่งอยู่กลางถนน เสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ควรมีการตรวจเช็คอะไหล่รถยนต์ เพื่อเตรียมรถให้พร้อมการใช้งาน โดยเฉพาะยางรถยนต์ ใบปัดน้ำฝน และเบรก คือ 3 จุดแรกที่ควรเช็คทันที แต่สิ่งที่มักถูกละเลยคือ 'ช่วงล่าง' โดยเฉพาะรถที่ใช้งานหนักหรือวิ่งถนนไม่เรียบ บูชยาง ลูกหมาก โช้คอัพ และยางรองแท่นเครื่อง หากเสื่อมจะส่งผลให้รถสั่น โคลง หรือสูญเสียการควบคุมเวลาเจอถนนเปียก การเช็กช่วงล่างไม่ได้แค่เพื่อความนุ่ม แต่คือความปลอดภัย
- ถ้าจำเป็นต้องขับรถตอนฝนตกหนัก มือใหม่ควรตั้งสติและใจเย็นๆ อย่าตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก การขับรถหน้าฝนไม่ได้อันตรายถ้าวางแผนให้ดี มือใหม่ควรเลือกเส้นทางหลัก หลีกเลี่ยงถนนที่น้ำท่วมประจำ ควรขับช้า ใช้เกียร์ต่ำ และหากเริ่มมองไม่เห็น ควรหาที่ปลอดภัยจอดรอ ไม่ต้องฝืนขับ เพราะความมั่นใจที่มากไป บวกกับประสบการณ์ที่ยังไม่มาก อาจทำให้เกิดเหตุไม่คาดคิดได้
- เทคนิคในการขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังสูง
- ขั้นแรกต้องประเมินระดับน้ำ ถ้าสูงเกินครึ่งล้อหน้าไม่ควรลุย ควรหันหลังกลับหรือเปลี่ยนเส้นทาง โดยเฉพาะผู้หญิงหรือมือใหม่ ถ้ารู้สึกไม่มั่นใจ ขอให้หยุดรถก่อนเข้าเขตน้ำขัง จะไม่เสียหาย โดยสังเกตจากสิ่งรอบตัว เช่น ล้อรถคันหน้า เสาไฟ หรือฟุตบาท ถ้าน้ำสูงเกินครึ่งล้อ หรือเห็นรถคันอื่นหยุดรอ แสดงว่าน้ำลึกเกินควรลุย ถ้าเป็นมือใหม่ อาจพกไม้สั้นๆ ไว้ตรวจระดับน้ำง่าย ๆ จากหน้าต่าง นอกจากนี้ ควรสังเกตทิศทางน้ำ ถ้าไหลแรงหรือขุ่นคลัก หลีกเลี่ยงไว้ก่อนดีที่สุด
- หากจำเป็นต้องลุยน้ำ ให้ปิดแอร์ ใช้เกียร์ต่ำ เดินคันเร่งคงที่ ห้ามเบรก หรือเร่งเครื่องแรงเด็ดขาด ถ้ารถติดช่วงล่างไม่ดี อย่างบูชหรือโช้คเสื่อม รถจะโคลงและสั่นมากขณะผ่านน้ำ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ระบบข้างใต้เสียหาย
- ถ้าเครื่องยนต์ดับกลางน้ำ อย่าสตาร์ทรถซ้ำเป็นอันขาด เพื่อป้องกันความเสียหาย เพราะการสตาร์ทอาจทำให้เกิด 'Water Lock' หรือการที่น้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้ ส่งผลให้เครื่องพังถาวร ควรปลดเกียร์ ดึงเบรกมือ และโทรเรียกรถยกทันที อาจจะดูยุ่งยากแต่ป้องกันค่าซ่อมหลักแสน
- หลังจากเพิ่งขับรถลุยน้ำท่วมขังให้เหยียบเบรกย้ำๆสัก 2-3 ครั้งก่อนที่จะขับต่อไป เพื่อให้ระบบเบรกทำงานได้ปกติ
- ถ้าไม่มั่นใจว่าจะขับผ่านน้ำท่วมได้ ควรหยุดรถในที่ปลอดภัย บนพื้นที่สูง ไม่ขวางจราจร ไม่อยู่ใต้ต้นไม้ หรือสายไฟแรงสูง เปิดไฟฉุกเฉินไว้ ปิดกระจกให้สนิท อย่าออกจากรถโดยไม่จำเป็น และอย่าเปิดประตูถ้าน้ำเริ่มเข้าเกินพื้นรถ เพราะน้ำจะทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว
- ควรล้างช่วงล่างรถทันที เพราะถ้าไม่ล้างจะทำให้โคลนและน้ำเกาะที่บูชยางรองต่างๆ และสะสมความชื้น ทำให้เสื่อมเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว หากช่วงล่างหลวม น้ำเข้าเพลาขับ หรือบูชฉีก ก็อาจเป็นจุดเริ่มของความเสียหายที่ใหญ่ขึ้น
- มือใหม่ หรือผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว ควรเตรียมกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ท้ายรถเสมอ เช่น ไฟฉาย เบอร์ฉุกเฉินของประกัน หรือรถยก เสื้อกันฝน ผ้าขนหนู และ Power bank เผื่อสถานการณ์ติดค้างกลางฝนเป็นเวลานาน
Don't: สิ่งที่ "ไม่ควรทำ"
- เวลาขับรถลุยน้ำท่วมสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่มือใหม่มักพลาดทำบ่อยๆและทำให้เกิดความเสียหาย ได้แก่
- เร่งเครื่อง เพื่อให้ผ่านเร็วๆ ซึ่งทำให้พัดลมหรือท่อดูดอากาศดูดน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์
- การเปิดแอร์แรงขณะลุยน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำกระเซ็นเข้าไปในพัดลมระบายความร้อน หรือระบบไฟใต้ท้องรถ โดยเฉพาะถ้าแอร์รถอยู่ต่ำมากในรุ่นรถบางประเภท น้ำอาจโดนพัดลมคอนเดนเซอร์ ดังนั้น ขณะลุยน้ำควรปิดแอร์
- การเบรกแรงกะทันหันขณะน้ำขัง อาจทำให้เบรกลื่น หรือระบบเบรกดูดน้ำเข้าไปในดรัม
- พฤติกรรมที่ห้ามทำเด็ดขาดขณะขับรถลุยน้ำท่วม ได้แก่
- ถ้าขับรถลุยน้ำลึกแล้วเครื่องยนต์ดับห้ามสตาร์ทเด็ดขาด เพราะทำให้เกิดความเสียหาย
- ห้ามเปิดฝากระโปรงรถ เพราะถ้าเครื่องยนต์ร้อนจัดและสัมผัสน้ำ อาจเกิดไอน้ำหรืออันตรายจากแรงดัน
- ห้ามเปิดประตูหากน้ำยังท่วมถึงขอบรถ เพราะน้ำจะทะลักเข้ามาทันที ห้ามขับเร็ว ห้ามขับสวนกับกระแสน้ำ และห้ามขับตามท้ายรถใหญ่เกินไป เพราะคลื่นน้ำจากรถหน้าอาจซัดกลับเข้าห้องเครื่องของเรา อย่าคิดว่าแค่ลุยแป๊บเดียวแล้วจะไม่เป็นอะไร เพราะน้ำเพียง 20-30 ซม. ก็ทำให้ระบบช่วงล่างพังได้ ถ้าเข้าไปสะสมในบูชยางหรือจุดข้อต่อ
- ห้ามออกมากเดินย่ำน้ำรอบรถโดยไม่รู้ระดับพื้น เพราะอาจตกหลุม หรืออาจมีสายไฟชำรุด ทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้
- อย่าดับเครื่องยนต์ทันที หลังจากขับรถลุยน้ำท่วมจนมาถึงจุดหมายแล้ว เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำที่ค้างอยู่ที่ท่อไอเสียย้อนกลับเข้าไป ให้สตาร์ทรถทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้น้ำที่อาจตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียระเหยออกมาให้หมดช่วยลดความเสียหายต่อเครื่องยนต์
บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ "POP" อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 30 ปี โดยมุ่งเน้นการผลิตชิ้นส่วนที่มีความทนทานและได้มาตรฐานสากล เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5,000 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ส่วนบุคคลจนถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ สามารถสอบถามรายละเอียด ที่ร้านอะไหล่รถยนต์ชั้นนำ ตัวแทนจำหน่าย หรือเว็บไซต์ https://chalitindustry.com โทร.02 8026400 Email: [email protected]