KTAM เปิด IPO "KTWC-INCOME" 17-23 มิ.ย.นี้ มองบวกตราสารหนี้ทั่วโลก พร้อมกับการสร้างกระแสรายได้ระหว่างทาง

ข่าวทั่วไป Tuesday June 17, 2025 13:58 —ThaiPR.net

KTAM เปิด IPO

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองเห็นจังหวะโอกาสการสร้างผลตอบแทนจากตราสารหนี้ทั่วโลก พร้อมกับโอกาสการสร้างกระแสรายได้ระหว่างทางให้กับนักลงทุน เพื่อช่วยชดเชยความผันผวนภายใต้สภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน บริษัทฯ จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Income (KTWC-INCOME) (ความเสี่ยงระดับ 5) บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนจาก Fidelity International ซึ่งที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มกองทุน KTWC Series โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 17 - 23 มิถุนายน 2568 นี้ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ผ่านธนาคารกรุงไทย รวมถึงแอปพลิเคชัน Next และ KTAM Smart Trade

สำหรับกองทุน KTWC-INCOME เป็นกองทุนรวมผสมที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือกองทุนรวม ETF ในต่างประเทศ ทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ทรัพย์สินทางเลือก เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก โดยจะลงทุนในกองทุนรวมและ/หรือ ETFอย่างน้อยตั้งแต่ 2 กองทุน เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่เกิน 79% ของ NAV และกองทุนมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV อย่างไรก็ตาม กองทุนจะกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 30% ของ NAV โดยกองทุนจะเน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั่วโลก เพื่อโอกาสรับกระแสรายได้ระหว่างทางอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะมอบหมายให้ FIL Investment Management (Hong Kong) Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Fidelity International เป็นผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุน โดยไม่รวมในส่วนการลงทุนเพื่อสภาพคล่อง

กองทุนมีกลยุทธ์เน้นสร้างกระแสรายได้จากแหล่งที่มาที่มีความหลากหลาย โดยจะเน้นการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั่วโลกใน (1) สินทรัพย์ที่มีคุณภาพ (Quality Assets) เช่น พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ Investment grade ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถลงทุนได้ (>BBB-) (2) สินทรัพย์เพื่อสร้างกระแสรายได้ (Carry Assets) เช่น ตราสารหนี้ High yield และตราสารหนี้ Emerging market และ (3) สินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ (Opportunistic Assets) เช่น Leveraged loan, Listed private debt (BDCs) และหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยกองทุนจะกำหนดกรอบการลงทุนเป็นสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (High Yield) ไม่เกิน 60% และสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ไม่เกิน 15% โดยเบื้องต้นได้กำหนดสัดส่วนการลงทุนเป้าหมายในกลุ่มตราสารหนี้ High Yield ประมาณ 35% และสินทรัพย์ทางเลือกประมาณ 10%

นอกจากนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน หน่วยลงทุน CIS กองทุน ETF หน่วย infra หน่วย private equity หน่วย property และ/หรือเงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนหลักทรัพย์หรือ ทรัพย์สินอื่น ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศกำหนด (กลยุทธ์และสัดส่วนการลงทุนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางผู้จัดการกองทุน ที่มา : Fidelity International ข้อมูล ณ 30 พ.ค. 2568)

นอกจากความน่าสนใจจากการสร้างกระแสรายได้จากแหล่งที่มาที่มีความหลากหลายในทุกสภาวะตลาด และบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอย่าง FIL Investment Management (Hong Kong) Limited แล้ว ยังสามารถมีโอกาสสร้างกระแสรายได้ในระดับที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ผ่านกระบวนการในการสร้างพอร์ตการลงทุนอย่างมีวินัย พร้อมทั้งยังสร้างความสมดุลด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงจากแหล่งที่มาของความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลความเสี่ยงระหว่างด้านเครดิต และด้านอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดเสถียรภาพตลอดวัฏจักรของตลาดด้วย

สำหรับจุดเด่นของ KTWC-INCOME นอกจากจะเพิ่มโอกาสสร้างความมั่นคงในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนแล้ว ยังมาจาก Yield ของตราสารหนี้ที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบันที่อยู่ในระดับน่าสนใจเมื่อเทียบกับในอดีต จึงเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนเพื่อสร้างกระแสรายได้ในอนาคต รวมถึงแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ที่อาจช่วยให้ราคาพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น และเพิ่มมูลค่าให้แก่เงินลงทุนได้ นอกจากนี้ บริษัทในปัจจุบันมีความยืดหยุ่นมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลก จึงส่งผลให้พื้นฐานของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้นกว่าในอดีต โดยจะเห็นได้จากระดับหนี้สินที่ต่ำลง และมีอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลง ดังนั้น กองทุน KTWC-INCOME จึงเป็นทางเลือกอีกหนึ่งกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนในช่วงสภาวะตลาดที่มีความผันผวน และเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเน้นลงทุนในตราสารหนี้มากกว่าหุ้นได้เช่นกัน" นางชวินดา กล่าว

"ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 และธนาคารกรุงไทย หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn

ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุนที่สำคัญ : ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาตราสาร ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการนำเงินลงทุนกลับประเทศ ความเสี่ยงจากการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกัน ความเสี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ความเสี่ยงในเรื่องคู่สัญญาในการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง

คำเตือน กองทุนนี้มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจถึงลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ