
Krungthai CIO ชี้เทรนด์ลงทุน "Income Theme" มาแรงในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ช่วยสร้างรายได้สม่ำเสมอ กระจายความเสี่ยงพอร์ต รับมือเงินเฟ้อ แนะกองทุนใหม่กลุ่ม Krungthai World Class Series Fund ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการสร้างกระแสเงินสด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแผนการลงทุนระยะยาว
ทีมกลยุทธ์การลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office) เปิดเผยว่า ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน "กลยุทธ์การลงทุนที่เน้นสร้างรายได้" หรือ Income Theme กำลังเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ พร้อมบริหารความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนให้มั่นคงในระยะยาว ตอบโจทย์นักลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งผู้มีรายได้ประจำที่ต้องการเงินปันผลจากการลงทุน รวมถึงผู้สูงวัยที่ต้องการความมั่นคงในการใช้ชีวิตหลังเกษียณ ด้วยการสร้างรายได้จากสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ พร้อมลดความผันผวนของรายได้ในช่วงตลาดขาลง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาทางเลือกในการรับมือกับสภาวะดอกเบี้ยต่ำและเงินเฟ้อ
Krungthai CIO มองว่า การลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก เป็นการลงทุน Income Theme ที่น่าสนใจ และเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน จากปัจจัยสนับสนุน ดังนี้
- อัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
- แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศ อาจส่งผลให้ราคาพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น
- พื้นฐานบริษัทเอกชนทั่วโลกแข็งแกร่งขึ้น พร้อมระดับหนี้และอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลง
- กระแสรายได้ที่มั่นคงจากตราสารหนี้ ช่วยชดเชยความผันผวนในช่วงตลาดไม่แน่นอน
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น ล่าสุด บลจ.กรุงไทย เตรียมเปิดเสนอขายกองทุนใหม่ในกลุ่ม Krungthai World Class Series Fund ระหว่างวันที่ 17-28 มิถุนายน 2568 ภายใต้ชื่อ Krungthai World Class Income Fund (KTWC-INCOME-A) ที่ถูกออกแบบมาสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างกระแสรายได้ระหว่างทางจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงสูงจากการลงทุนในหุ้น และ เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะกลางถึงยาว โดยกองทุนเน้นการเข้าถึงแหล่งรายได้จากตราสารหนี้ที่หลากหลายประเภททั่วโลก ผ่านการผสมผสานพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชน เพื่อให้กองทุนมีรายได้เข้าอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสินทรัพย์สร้างกระแสเงินสด (Carry) สินทรัพย์คุณภาพ (Quality) และสินทรัพย์ทางเลือก (Opportunistic) โดยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจาก Fidelity International ออกแบบพอร์ตให้มั่นคงด้วยการกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านเครดิตและอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้พอร์ตไม่กระจุกตัว พร้อมสร้างผลตอบแทน ที่มีเสถียรภาพในระยะยาว