
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ตอกย้ำความพร้อมด้านการศึกษาในสายปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยการพัฒนาหลักสูตรที่เจาะลึกทั้งในเชิงทฤษฎีและการประยุกต์ใช้งานจริง เพื่อรับมือกับความท้าทายของโลกอนาคตที่ AI กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งในทุกมิติของชีวิตและธุรกิจ
ดร.อิสสระพงศ์ ค้วนเครือ รักษาการแทนหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีเชิงลึก (DeepTech) และอาจารย์ประจำ คณะแทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สจล. มีการพัฒนาหลักสูตรปริญญาตรี มุ่งเน้นผลิตบุคลากรคุณภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รองรับความต้องการของอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล ได้แก่ หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ที่ครอบคลุม 3 แขนงย่อย ได้แก่ ระบบเครือข่าย การพัฒนาซอฟต์แวร์ และมัลติมีเดีย โดยมุ่งเน้นการสร้างผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเข้าไปทำงานในองค์กรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักสูตรวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงธุรกิจ (Data Science and Business Analytics) ที่ตอบโจทย์เทรนด์องค์กรยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
หลักสูตรเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI Technology) ซึ่งเป็นหลักสูตรล่าสุด ที่เน้นการปฏิบัติจริง โดยส่งเสริมให้นักศึกษาได้ลงมือทำโครงงาน นำความรู้ด้าน AI มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาจริงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม แม้เนื้อหาหลักสูตรอาจยังไม่ได้มุ่งเน้นโดยตรงไปยังการสร้างผู้ประกอบการหรือ Startup แต่ทางคณะได้วางกลไกสนับสนุนไว้ 2 แนวทาง โดยแนวทางแรกคือรายวิชา Team Project ที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 - ปีที่ 3 เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม วิเคราะห์ปัญหา และนำความรู้ด้าน AI ไปใช้ในโครงงานที่มีเป้าหมายเชิงธุรกิจ รวมถึงฝึกคิดในเชิงการลงทุนและการนำเสนอผลงาน และแนวทางที่สองคือ การฝึกงานแบบฝังตัวผ่านกลไกสหกิจศึกษา (Cooperative and Work Integrated Education) โดยเฉพาะในหลักสูตร AI นักศึกษาจะได้เข้าไปทำงานในสถานประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนในลักษณะ "พนักงานฝึกหัดจริง" ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการฝึกทักษะวิชาชีพ แต่ยังเปิดโอกาสในการมองเห็นภาพการทำงานจริงในภาคธุรกิจ
หลักสูตรเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สจล. เปิดดำเนินการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยมุ่งเน้นให้นักศึกษาเข้าใจเบื้องลึกของกระบวนการสร้าง AI ตั้งแต่พื้นฐาน เช่น คณิตศาสตร์ การเขียนโปรแกรม เทคโนโลยีสารสนเทศ ไปจนถึงวิชาเฉพาะทางอย่าง Deep Learning, Probabilistic Machine Learning และ Data Science หลักสูตรเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้เนื้อหาเชิงลึก เช่น Big Data Analytics and Engineering, Neural Network and Optimization, Computer Vision, Natural Language Processing (NLP), การจัดกลุ่มข้อมูล (Clustering), การประมวลผลภาพ (Image Processing), และการเชื่อมโยงระบบ Internet of Things (IoT) พร้อมทั้งลงมือทำโครงงานหรือวิทยานิพนธ์จริง (Thesis) ร่วมกับภาคอุตสาหกรรม อาทิ SCG, Seagate, Western Digital และ KBTG โดยเฉพาะในด้าน FinTech, System Integration และ Data Analytics และมีความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการวิจัย โดยทางคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สจล. มี DGX Server ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High Performance Computing) รองรับการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และ Machine Learning Model
ปัจจุบัน กระแสของ Generative AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานหลายสาขา ทั้งการประมวลผลภาษา ภาพ และข้อมูลจำนวนมหาศาล แต่ปัญหาสำคัญที่สังคมกำลังเผชิญคือการใช้ AI โดยไม่เข้าใจ ซึ่งทำให้มนุษย์ตกอยู่ใต้การควบคุมของเทคโนโลยี แทนที่จะควบคุมและกำหนดทิศทางของมัน
AI ไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป แต่เป็นเทคโนโลยีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกด้านของชีวิต การเรียนรู้ AI จึงไม่ได้จบแค่การใช้งาน แต่ต้องเข้าใจเชิงลึก โดยเฉพาะในงานพัฒนาโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ นักศึกษาอาจใช้เครื่องมือ AI ในการสร้างโค้ด แต่ถ้าไม่เข้าใจพื้นฐานก็จะไม่สามารถปรับหรือดัดแปลงให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานจริงได้ และ AI ควรถูกมองเป็นส่วนขยายของศักยภาพมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งที่มาแทนที่มนุษย์ การเรียนรู้ AI อย่างเข้าใจจะทำให้นักศึกษาสามารถใช้มันในการสร้างโอกาสของตนเอง ทั้งในการทำงานและการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต
ปัจจุบัน หลักสูตรปริญญาตรี ของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สจล. รับนักศึกษารุ่นละประมาณ 250 คน โดยนักศึกษาปริญญาตรีด้าน AI ของคณะจะได้รับโอกาสฝึกงานในสถานประกอบการจริง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ช่วยยืนยันความรู้จากห้องเรียนสู่โลกภายนอก โดยมุ่งพยายามฝึกให้เด็กเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนตลอดเวลา สิ่งที่เราให้นอกจากความรู้ คือวิธีคิด และวิธีปรับตัว ขณะที่หลักสูตรระดับปริญญาโท - เอก ภายใต้ชื่อ AI for Business Analytics มีผู้สมัครเข้าศึกษารุ่นละ 30-45 คน ซึ่งผู้เรียนมาจากภาคธุรกิจจริง รวมถึงเจ้าของกิจการที่ต้องการนำ AI ไปประยุกต์ในองค์กรของตน