RSV ระบาดฤดูไหน? ป้องกันและเตรียมตัวรับมือก่อนสายเกินไป

ข่าวทั่วไป Tuesday June 24, 2025 18:00 —ThaiPR.net

RSV ระบาดฤดูไหน? ป้องกันและเตรียมตัวรับมือก่อนสายเกินไป

เรียกได้ว่าตอนนี้...ประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงฤดูกาลระบาดของโรคไวรัสทางเดินหายใจอย่างเป็นทางการอีกครั้งแล้ว แต่ละประเทศจะมีฤดูกาลระบาดของโรคไวรัสทางเดินหายใจแตกต่างกันไป ตามสภาพดินฟ้าอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เช่น โรงเรียนเปิดเทอม ปิดเทอม การเปลี่ยนฤดูกาลเข้าสู่ฤดูฝน ฤดูหนาว ซึ่งบทความให้ความรู้โดย พญ.สิริรักษ์ กาญจนธีระพงค์ (ว 34129) กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา แผนกสุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนวเวช ได้อธิบายเกี่ยวกับสาระน่ารู้ไขข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับ RSV พร้อมทั้งแนะนำวิธีการฉีดวัคซีนป้องกันโรค RSV เพื่อนำไปสังเกตลูกน้อยและผู้สูงอายุในบ้านให้ห่างไกลจากโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus)

RSV ระบาดฤดูไหน? ป้องกันและเตรียมตัวรับมือก่อนสายเกินไป

4 โรคไวรัสทางเดินหายใจที่พบได้บ่อยที่สุดคือ

  1. โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19; โควิด-19)
  2. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza, Flu)
  3. โรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus/RSV)
  4. ไรโนไวรัส Rhinovirus (โรคหวัด)

พบว่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยได้เริ่มมีการระบาดของไวรัสโควิด 19 ร่วมกับไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะเห็นว่ามีการระบาดเร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มาพอสมควร แต่อาจจะไม่ได้มีอาการที่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนหน้านั้น ส่วนไรโนไวรัสมักพบได้ตลอดทั้งปีอยู่แล้ว แต่สำหรับ RSV ในทุก ๆ ปี จะเริ่มระบาดตั้งแต่ช่วงกลางฤดูฝน หรือประมาณช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฏาคม ที่กำลังจะมาถึงนั่นเอง

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ RSV

RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจะซึมเข้าสู่ทางเดินหายใจได้โดยตรงและรวดเร็ว ทำให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อบุทางเดินหายใจรุนแรง และทำให้เกิดโรคปอดบวม ปอดอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบได้ง่ายมาก ซึ่งติดต่อกันง่ายแบบ Droplet จากสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย ผ่านการไอ จาม และการสัมผัสกันโดยตรง พบการระบาดตามฤดูกาล ช่วงกลางฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว หรือช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง

เมื่อไหร่? จะสงสัยว่าติดเชื้อ RSV

RSV อาการเริ่มแรกเหมือนไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล และจะหายได้ ภายใน 5-7 วัน เด็กบางคนมีอาการไอแบบมีเสมหะร่วมด้วย ไอมากจนอาเจียน อาจมีหายใจเร็ว แรง หายใจลำบาก หรือหายใจแบบมีเสียงวี๊ด (wheezing) ได้ จะป่วยรุนแรงขนาดไหนขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานตามช่วงวัย ในเด็กจึงเป็นได้ตั้งแต่ ไข้หวัดธรรมดา (Common cold) คออักเสบ (Pharyngitis) กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) ไปจนถึงหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) หลอดลมฝอยอักเสบ (Bronchiolitis) และปอดบวม ปอดอักเสบ (Pneumonia) ในเด็กทารกอายุน้อยกว่า 2 ปี ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องจึงเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรงได้มากที่สุด

ในปัจจุบันการตรวจหาเชื้อ RSV โดยการป้ายสารคัดหลั่งน้ำมูกในจมูก (Nasal swab) ทำได้ง่าย สะดวก ราคาถูก สามารถตรวจคัดกรองเบื้องต้นเหมือนการตรวจโควิด ได้ด้วยตนเอง

RSV รักษาให้หายได้อย่างไร?

การรักษา แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การประคับประคองอาการทั่วไป เช่น ให้สารน้ำทางเส้นเลือดดำ ให้ออกซิเจน ช่วยดูดระบายเสมหะ และการรักษาแบบเฉพาะที่ เช่น พ่นยาขยายหลอดลม พ่นน้ำเกลือเข้มข้นชนิดพิเศษ เพื่อลดภาวะหลอดเกร็ง หายใจมีเสียงวี๊ด ในปัจจุบันมีรายงานการใช้ยา Montelukast ในการลดความรุนแรงในช่วงแรกของการหายใจหอบเหนื่อย แบบมีเสียงวี๊ด และใช้ยาต่อเนื่อง เพื่อลดการกลับเป็นซ้ำ

แม้จะรักษาหายขาดแล้ว RSV ก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก โดยเด็กมักมีภาวะหลอดลมไวตามมา ทำให้หายใจเหนื่อยง่าย หลังการติดเชื้อทางเดินหายใจ รวมถึงมีรายงานเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดได้สูงขึ้นทั้งในเด็กที่มีและไม่มีความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ในครอบครัว

จริงหรือไม่? RSV มีวัคซีนป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ

ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV (Respiratory syncytial virus) แล้ว ซึ่งสามารถลดโอกาสการติดเชื้อ และลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง แนะนำให้ฉีดในคุณแม่ตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หอบหืด ถุงลมโผ่งพอง เบาหวาน ไต หัวใจ แต่ทั้งนี้ในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ปี แนะนำให้ฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปต่อเชื้อ RSV เพื่อช่วยให้เด็กเล็กสามารถสร้างภูมิคุ้มกันระยะสั้นได้ทันที โดยปราศจากการติดเชื้อ จึงแนะนำให้เริ่มรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปต่อเชื้อ RSV ช่วงก่อนฤดูกาลระบาดของเชื้อ

ทั้งนี้ แผนกสุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนวเวช ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วย คุณภาพการรักษา มาตรฐานการให้บริการ ระบบการดูแลผู้ป่วยด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ และผ่านการรับรองมาตรฐาน AACI (American Accreditation Commission International) ISO 7101:2023 - Health Care Organization Management และ ISO 9001:2015 - Quality Management Systems แต่อย่างไรก็ตามมาตรการสำคัญในการป้องกันการระบาดของไวรัสทางเดินหายใจที่ดีที่สุด ทั้ง RSV และไวรัสทางเดินหายใจอื่น ๆ นั้น คือการหมั่นล้างมือให้สะอาดหรือใช้เจลแอลกอฮอลล์ลูบมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมร่วมกันอย่างเหมาะสม ไม่ควรให้เด็กอยู่ร่วมกันกลุ่มใหญ่ ๆ แออัด และควรรีบแยกเด็ก แยกของเล่นเด็กทันที เมื่อสังเกตุได้ว่ามีเด็กป่วยสงสัยว่ามีการติดเชื้อ หากเป็นไปได้ควรให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้าน และทำการตรวจหาเชื้อทันที กรณีหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดและขอรับคำปรึกษาได้ที่ โทร. 1507 Line: @navavej


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ