ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และมีเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608 ที่ผ่านมาความต้องการโซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจรจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในงาน Asia Sustainable Energy Week (ASEW) 2025 หรืองานแสดงเทคโนโลยีความยั่งยืนด้านพลังงาน ทรินาโซลาร์ ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์โฟโตวอลเทอิก และระบบกักเก็บพลังงาน เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดที่รวมระบบโซลาร์พีวีควบคู่กับระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของทรินาโซลาร์
ในงาน ASEW 2025 นี้ ทรินาโซลาร์ จะนำผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจรที่เปิดตัวในงาน SNEC 2025 ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีไฮไลท์ ได้แก่ โมดูล Vertex N i-TOPCon Ultra ประสิทธิภาพสูง ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ สำหรับกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน Elementa 2 Pro ขนาด 5 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) รวมถึงระบบกักเก็บพลังงานสำหรับที่พักอาศัย ผลิตภัณฑ์และโซลูชันชั้นนำเหล่านี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทรินาโซลาร์ ในฐานะผู้นำด้านพลังงานอัจฉริยะ โดยนำเสนอโซลูชันที่ครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของภูมิทัศน์ด้านพลังงานที่เปลี่ยนไป
โมดูล Vertex N i-TOPCon Ultra ของทรินาโซลาร์ เป็นโซลาร์พีวีที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การเคลือบสองด้าน และบัสบาร์แบบบางพิเศษ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเซลล์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานได้สูงถึง 40 วัตต์ รุ่น NEG21C.20 เป็นโซลาร์พีวีขนาดใหญ่ที่สามารถให้พลังงานได้สูงถึง 760 วัตต์ และมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าถึง 24.5% ในขณะที่รุ่น NEG19RC.20 เป็นรุ่นขนาดกลางที่ให้พลังงานที่ 670 วัตต์ และมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าถึง 24.8% โมดูลเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยต่อหน่วย (LCOE) และทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในสภาพแวดล้อมของประเทศไทย
ทรินาโซลาร์ เตรียมเปิดตัว Elementa 2 Pro ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ขนาด 5 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) สำหรับกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า โดยมีเซลล์แบตเตอรี่ขนาด 314Ah ที่พัฒนาขึ้นโดยทรินาโซลาร์ ที่สามารถรีชาร์จได้มากกว่า 10,000 ครั้ง โดยที่ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ไม่ลดลง ระบบกักเก็บพลังงานสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP67 มีมาตรการป้องกันอัคคีภัย และระบบระบายความร้อนแบบไฮบริด ที่ลดการใช้พลังงานสำรองลง 30%และระบบนี้ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในสภาพอากาศร้อนและอุณหภูมิที่สูงอย่างประเทศไทย รวมถึงระบบกักเก็บพลังงานที่สามารถเชื่อมต่อกับโซลาร์พีวีได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ ทรินาโซลาร์ จะจัดแสดงระบบกักเก็บพลังงาน สำหรับผู้ใช้งานในที่พักอาศัยซึ่งออกแบบมาสำหรับการใช้งานขนาดเล็ก มีกำลังการผลิตแบบแยกส่วนตั้งแต่ 5.12 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ถึง 25.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) รองรับทั้งการกำหนดค่าไฟฟ้าแบบเฟสเดียวและสามเฟส สามารถติดตั้งได้ง่าย ด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ได้แก่ ระบบดับเพลิงในตัว การป้องกันฝุ่นละอองและน้ำด้วยมาตรฐานระดับ IP65 และระบบถ่ายความร้อนตามธรรมชาติ โซลูชันนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา สำหรับบ้านพักอาศัยในเขตเมือง และชนบท
เอลวา หวัง ผู้อำนวยการกลุ่มประจำเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียกลาง ของทริน่าโซลาร์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า "ตลาดพลังงานสะอาดของไทยกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยได้รับแรงผลักดันจากนโยบายที่เข้มแข็ง ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น และการการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้นโดยภาคเอกชน ทริน่าโซลาร์ มองเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับโซลูชันแบบบูรณาการที่มีความยืดหยุ่นสามารถ เชื่อมต่อกับโครงข่ายของการไฟฟ้า หรือระบบผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในภาคธุรกิจ ทรินาโซลาร์พร้อมที่จะส่งมอบระบบผลิตพลังงานสะอาดที่รวมโซลาร์พีวี และระบบกักเก็บพลังงานขั้นสูงที่ปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมในประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าในระยะยาวให้กับนักพัฒนา อีพีซี และผู้ใช้งานชาวไทย ความมุ่งมั่นของเราไม่ได้มีเพียงการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเสริมศักยภาพให้กับพันธมิตรในแต่ละประเทศ เพื่อการบรรลุเป้าหมายคาร์บอนต่ำของแต่ละประเทศอีกด้วย"
ทรินาโซลาร์ จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ฮอลล์ 3 บูท S11 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 2 - 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568