
บลจ.ทิสโก้ประกาศเพิ่มทุน กองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ ไชน่า (TEMxCH) เป็นจำนวนเงินทุนโครงการทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท เพราะลูกค้ายังต้องการลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว ประกอบกับการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เริ่มชัดเจน
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan Managing Director of TISCOASSET) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ได้ประกาศเพิ่มจำนวนเงินทุนโครงการกองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ ไชน่า (TEMxCH) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เป็นจำนวน 1,200 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักที่ทำให้กองทุน TEMxCH น่าสนใจในช่วงนี้มาจากการเมืองประเทศเกาหลีใต้มีเสถียรภาพขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของไต้หวันแข็งแกร่งขึ้นจากปัจจัยหนุนด้านการค้า และความเชื่อมั่นใจธุรกิจ AI ที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม พบว่าลูกค้ายังคงให้ความสนใจลงทุนเป็นอย่างมากทำให้ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ตัดสินใจเพิ่มจำนวนเงินทุนโครงการอีกเป็น 2,000 ล้านบาท
" ในช่วงนี้หลายประเทศเริ่มเข้าไปเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และได้รับการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าลงมาจากเดิมที่สหรัฐฯ ประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าในระดับสูง ความชัดเจนที่เกิดขึ้นส่งผลบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ นอกจากนี้ ราคาหุ้นดัชนี MSCI Emerging Markets ex China อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2568 ดัชนี MSCI Emerging Markets ex China ยังมีมูลค่าหุ้นที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า 12 เดือน (Forward P/E) อยู่ที่ 13.0 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 5 ปี อีกทั้ง ในระยะกลางถึงระยะยาวตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ไม่รวมจีน ถือเป็นกลุ่มประเทศที่เป็นขุมพลังของเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่ เนื่องจากมีจำนวนประชากรวัยทำงานที่มากเป็นอันดับ 1 ของโลกส่งผลให้มีกำลังการบริโภคสูง อีกทั้งเป็นกลุ่มประเทศที่เป็นผู้ผลิตชิปซึ่งเป็นเบื้องหลังของธุรกิจ AI ที่เป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของโลก รวมถึงเป็นกลุ่มประเทศส่งออกทรัพยากรธรรมชาติและเป็นฐานการผลิตใหม่ของโลกอีกด้วย" นายสาห์รัชกล่าว
ทั้งนี้ กองทุน TEMxCH ลงทุนใน Invesco Emerging Markets ex-China Equity Fund Class C-Acc (กองทุนหลัก) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งหรือมีการดำเนินธุรกิจหลักอยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งไม่รวมประเทศจีน สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุน ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 พบว่า 3 อันดับแรกคือ 1. Taiwan Semiconductor Manufacturing บริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลก เพราะสามารถผลิตชิปขนาดเล็ก 3nm ที่มีคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการของธุรกิจผลิตภัณฑ์มือถือ และ Data Center 2. Samsung Electronics ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าจากเกาหลี ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าในอนาคตรายได้ส่วนชิปหน่วยความจำต่างๆ ที่บริษัทผลิตจะได้รับความนิยมมากขึ้นจากการเข้ามาของ AI และ 3. HDFC Bank ธนาคารเอกชนใหญ่ที่สุดในอินเดีย ผลประกอบการโตแข็งแกร่งตามสัดส่วนเงินฝากที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของกลุ่มมนุษย์เงินเดือนในประเทศ
กองทุนเปิด TEMxCH ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนกองทุนรวมอื่นๆ ของบลจ.ทิสโก้ได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds