สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ลุ้นแรงซื้อไฮซีซันไตรมาส 3 กลับมาเป็นบวก หลังภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรก 68 ติดลบลดลง จับตา 'ขึ้นค่าแรง - ภาษีทรัมป์' ดึงต้นทุนสร้างบ้าน

ข่าวอสังหา Wednesday July 16, 2025 11:05 —ThaiPR.net

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ลุ้นแรงซื้อไฮซีซันไตรมาส 3 กลับมาเป็นบวก หลังภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรก 68 ติดลบลดลง จับตา 'ขึ้นค่าแรง - ภาษีทรัมป์' ดึงต้นทุนสร้างบ้าน

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) เผยภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรก 68 ยอดติดลบลดลงเป็น 7% จาก 15% ชี้ 3 กลุ่มราคาบ้าน 'ดาวรุ่ง - ทรงตัว - ติดลบ' บ้านต่ำกว่า 10 ล้านบาท มาแรงจากปัจจัยหลักเรียลดีมานด์หนุนพลิกกลับมาเติบโต กลุ่ม 10 - 20 ล้านบาท ยัง 'ทรงตัว' ด้านบ้าน 20 ล้านบาท ติดลบ 15% ลุ้นต่อไตรมาส 3 ช่วงไฮซีซัน จับตา 'ขึ้นค่าแรง - ภาษีทรัมป์' ส่งผลต่อต้นทุนสร้างบ้านปรับขึ้นส่งท้ายปี พร้อมเร่งสร้างการรับรู้ผู้บริโภค โชว์จุดเด่น 'มืออาชีพ - เชื่อถือได้ - บริการครบวงจร' ควบคู่จัดอีเวนต์ใหญ่ 'รับสร้างบ้านและวัสดุ EXPO 2025' ระหว่าง 10 - 14 กันยายน 2568 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6

นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2568 ว่า ยอดขายของบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ อยู่ในภาวะติดลบลดลง จากติดลบ 15% ในไตรมาสแรก มาเป็นติดลบเหลือ 7% โดยมีปัจจัยกระตุ้นหลักมาจากความต้องการที่แท้จริง หรือ เรียลดีมานด์ในเซกเมนต์บ้านราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทที่ฟื้นตัวและสามารถผลักดันให้ตลาดส่วนนี้เติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน

ขณะที่ตลาดบ้านราคา 10 - 20 ล้านบาท ยังเป็นเซกเมนต์ที่ "ทรงตัว" และยังไม่พบปัจจัยที่เป็นสัญญาณบวกมาสนับสนุนให้ตลาดกลุ่มนี้ฟื้นตัว ส่วนราคามากกว่า 20 ล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นเซกเมนต์ที่มีการหดตัวมากกว่า 2 กลุ่มแรก โดยมียอดติดลบ 15%

"ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านต่ำกว่า 10 ล้านบาท เป็นการสร้างเพื่ออยู่อาศัยจริงและกลุ่มมีกำลังซื้อมีเงินออมอยู่แล้ว พร้อมทั้งมีความกังวลถึงต้นทุนก่อสร้างที่อาจปรับขึ้นได้จากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งค่าแรง วัสดุก่อสร้าง ทำให้ตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่บ้านเกินกว่า 20 ล้านบาท แม้จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง แต่เนื่องจากเป็นบ้านหลังที่สองและสามจึงยังไม่มีความจำเป็นด้านการเข้าพักอาศัย ทำให้เลื่อนการตัดสินใจสร้างบ้านออกไปก่อนเพื่อรอดูภาพรวมของเศรษฐกิจอีกครั้ง ส่วนบ้าน 10 - 20 ล้านบาทที่ตลาดทรงตัว เพราะขาดความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ การเมืองภายในและต่างประเทศ อีกทั้งส่วนใหญ่จะไม่ใช่บ้านหลังแรกจึงขอรอดูสถานการณ์ก่อน ซึ่งจากการตัดสินใจของผู้บริโภคทั้งสามกลุ่ม ทำให้ต้องจับตามองตลาดในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป" นายอนันต์กร กล่าว

ทั้งนี้ นอกจากตลาดในภาพรวมแล้ว เมื่อเจาะลึกลงรายพื้นที่พบว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นตลาดที่มีภาวะหดตัวมากที่สุดประมาณ 30% ขณะที่ภาคตะวันออก ในภาพรวมเติบโตประมาณ 3% โดยมีจังหวัดชลบุรีเป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุด ส่วนภาคใต้ เติบโตประมาณ 8% และมีการขยายตัวมากที่สุดในจังหวัดภูเก็ตและสงขลา ส่วนภาคเหนือโดยรวมตลาดหดตัวประมาณ 12% มีเพียงตลาดเชียงใหม่ที่สามารถ "ทรงตัว" อยู่ได้ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน

สำหรับตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในภาพรวมติดลบ 20% อย่างไรก็ดี นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่สามารถเติบโตได้ดีประมาณ 11% ส่วนตลาดภาคกลางและภาคตะวันตก ถือว่ายังอยู่ในภาวะทรงตัว

นายอนันต์กร กล่าวว่า จากภาพรวมตลาดในครึ่งปีแรก สมาคมฯ ต้องเร่งจัดกิจกรรมและสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ผู้บริโภคในวงกว้างให้มากขึ้นกว่าเดิมผ่านสมาชิกสมาคมฯ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเน้นถึงมาตรฐานการก่อสร้าง การให้บริการที่ครบวงจร ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างบ้านและจุดขายที่แตกต่างจากบริษัทรับเหมา เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น

"ที่ผ่านมา สมาชิกฯ ในต่างจังหวัดมีการจัดอีเวนต์สำหรับโซนของตัวเองเพื่อสร้างกำลังซื้อ และสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ว่าธุรกิจรับสร้างบ้านแตกต่างจากผู้รับเหมาอย่างไร ส่งผลให้บางพื้นที่มีผู้บริโภคเลือกใช้บริการมากขึ้น ส่งผลให้บางจังหวัดขยายตัวได้ดี" นายอนันต์กร กล่าว

สำหรับการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ผู้บริโภคในส่วนของสมาคมฯ จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่สามในงาน "รับสร้างบ้านและวัสดุ EXPO 2025" โดยปีนี้จัดขึ้นในคอนเซ็ปต์ "สร้าง อยู่ ดี" สะท้อนภาพที่ชัดเจนในการสร้างบ้านกับนักสร้างมืออาชีพ บริษัทที่มีประสบการณ์สูง และความเป็นอยู่ที่ดีจากบ้านคุณภาพ ซึ่งงานจัดระหว่าง 10 - 14 กันยายน 2568 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6

"หากผู้บริโภคคิดจะสร้างบ้าน ก่อนการตัดสินใจ แนะนำให้ศึกษาประวัติและผลงานของบริษัทนั้น ๆ ว่ามีประสบการณ์อย่างไร สร้างบ้านมาแล้วกี่หลัง รวมถึงสอบถามลูกค้าที่เคยสร้างบ้านกับบริษัทสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ จะช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้บริการ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สาม ซึ่งถือเป็นไฮซีซันของธุรกิจรับสร้างบ้าน ทั้งนี้เชื่อมั่นว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะกลับมา จากความต้องการสร้างบ้านเพื่ออยู่จริง ราคาสร้างบ้านที่ยังคงราคาต้นทุนเดิมในไตรมาสสาม ขณะที่มีแนวโน้มต้นทุนสร้างบ้านอาจปรับตัวขึ้นได้ในช่วงปลายปีนี้และในปีหน้า จากการประกาศปรับค่าแรง 350 เป็น 400 บาท รวมถึงต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่อาจปรับตัวขึ้นจากผลกระทบภาษีทรัมป์" นายอนันต์กร กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ