'THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ' พื้นที่แห่งการสร้างแรงบันดาลใจในการค้นหาตัวตน และถ่ายทอด 'ชีพจรที่สอง' เติมเต็มชีวิตด้วยความสุขที่เป็นตัวเอง

ข่าวทั่วไป Wednesday July 16, 2025 13:28 —ThaiPR.net

'THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ' พื้นที่แห่งการสร้างแรงบันดาลใจในการค้นหาตัวตน และถ่ายทอด 'ชีพจรที่สอง' เติมเต็มชีวิตด้วยความสุขที่เป็นตัวเอง

สิงห์ เอสเตท ตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า 'บ้าน' ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือพื้นที่สร้างความสมดุลของชีวิตให้ทุกคนได้แสดงออกและใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ พร้อมเติมเต็มทุกมิติของการใช้ชีวิตอย่าง EXTRA สะท้อนแนวคิดของโครงการ 'THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ' ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'EXTRAORDINARY' ผ่านการจัดนิทรรศการศิลปะและเวิร์กช็อป 'The Second Pulse' นำเสนอผลงานพร้อมเรื่องราวผ่านแรงบันดาลใจของ 'หมอตุ่น-หมอปิแอร์-หมอฟรัง-นิสิตแพทย์พฤกษ์' เพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออกในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ ซึ่งอาจเป็นความ EXTRA หรือสิ่งที่เปรียบเสมือน 'ชีพจรที่สอง' ของแต่ละคน หนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์คือ การนำผลงานภาพวาดสีน้ำรูปดอกไม้ของ หมอตุ่น - พญ.วริศรา ไปจัดประมูล ซึ่งรายได้ทั้งหมดมอบให้กับ มูลนิธิรามาธิบดีฯ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย

ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ 'S' กล่าวว่า "สิงห์ เอสเตท มุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่กล้าทำในสิ่งที่รัก แม้จะไม่ใช่เส้นทางที่เรียนมาหรือทำเป็นอาชีพหลัก เราเชื่อว่าในชีวิตของทุกคนมีบางสิ่งที่ 'EXTRA' เพื่อเติมเต็มจังหวะชีวิตอีกด้าน สำหรับโครงการ 'THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ' ซึ่งมีลูกบ้านจำนวนไม่น้อยเป็นบุคลากรทางการแพทย์และนักศึกษาแพทย์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เราได้จัดนิทรรศการศิลปะและเวิร์กช็อป 'The Second Pulse' ขึ้นเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและแรงบันดาลใจนอกเหนือเสื้อกาวน์ โดยเราตั้งใจที่จะส่งเสริมและต่อยอดงานสร้างสรรค์เช่นนี้ต่อไป เพื่อให้โครงการ 'THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ' เป็นพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้ค้นพบตัวตนและเติมเต็มความสุขของชีวิต นอกจากนี้ สิงห์ เอสเตทยังให้ความสำคัญกับงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และเปี่ยมด้วยเรื่องราวมาโดยตลอด อย่างโครงการ 'THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ' ก็ได้รับรางวัล Best Luxury Condo Architectural Design จากเวที PropertyGuru Thailand Property Awards 2024 ด้วย"

นิทรรศการศิลปะและเวิร์กช็อป 'The Second Pulse' นำเสนอ 'ชีพจรที่สอง' ของ 'หมอตุ่น-หมอปิแอร์-หมอฟรัง-นิสิตแพทย์พฤกษ์' ความคิดสร้างสรรค์นอกห้องตรวจ ความสุขอีกด้านในชีวิตผ่านผลงานศิลปะ ขนมที่ชื่นชอบ และธุรกิจส่วนตัว ที่สะท้อนให้เห็นว่า 'ความสุข' สามารถเกิดขึ้นได้จากสิ่งเล็กๆ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สะท้อนความเป็นตัวเองผ่านเวิร์กช็อปจัดดอกไม้อีกด้วย

นิสิตแพทย์พฤกษ์ มัธยมจันทร์ นิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 6 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความสุขที่ตนเองได้ค้นพบว่า"การวาดภาพด้วยมือ ทำให้เรารู้จักปล่อยวางความสมบูรณ์แบบลงและหันมาให้ความสำคัญต่อการถ่ายทอดอารมณ์และสัมผัสถึงพลังของศิลปะผ่านประสาทสัมผัส การวาดภาพสำหรับผมจึงไม่ใช่แค่กิจกรรมยามว่าง แต่เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง ได้ปล่อยอารมณ์ ความคิด และความรู้สึก ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ผมสามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ ผมอยากให้ทุกคนลองค้นหาชีพจรที่สองของตนเอง เพื่อค้นพบความสุขอีกด้านของชีวิต"

นอกจากการค้นหาชีพจรที่สองของตนเองแล้ว หมอตุ่น - พญ.วริศรา รุทระวณิช แพทย์ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังสะท้อนถึงบทบาทของศิลปะในการจัดการกับความเครียด อารมณ์ และสมาธิ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตว่า "บางคนอาจมีความเครียดโดยไม่รู้ตัว การได้หาพื้นที่ที่ใช่สำหรับตนเองเพื่อหาจุดบาลานซ์ของชีวิตจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับหมอตุ่นเองหลงใหลในการวาดภาพด้วยสีน้ำ เพราะเป็นสีที่เราไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ต้องฝึกการปล่อยวางและการยอมรับ ให้น้ำเป็นตัวนำพา ลืมสิ่งนอกกายที่เราควบคุมไม่ได้และจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า"

นอกจากนี้ หมอตุ่น - พญ.วริศรา ยังได้ถ่ายทอดความรู้สึกและแรงบันดาลใจผ่านภาพวาดสีน้ำรูปดอกไม้ ซึ่งตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อส่งกำลังใจให้กับผู้ป่วย โดยมอบผลงานชิ้นนี้ให้กับสิงห์ เอสเตท นำไปจัดประมูลผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมมอบรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อสนับสนุนภารกิจในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากไร้และขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้รับโอกาสเข้าถึงการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นอีกมิติของ 'ชีพจรที่สอง' ที่ไม่ได้เพียงเติมเต็มจิตใจของผู้สร้างสรรค์ผลงานเท่านั้น แต่ยังส่งต่อพลังไปสู่สังคมได้อย่างงดงาม

มุมมองและการถ่ายทอดงานศิลปะของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน เพราะคำว่า 'ศิลปะ' ไม่มีการตีกรอบว่าสิ่งใดถูกหรือผิดอย่าง หมอฟรัง - พญ.นรีกุล เกตุประภากร ได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มและสะท้อนตัวตนผ่านธุรกิจแบรนด์สมูทตี้ "บางทีชีพจรที่สองของเราอาจจะเป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของเราอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ค้นพบ อย่างฟรังที่ช่วยเหลือธุรกิจที่บ้านมาตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้นจึงได้ค้นพบว่า การทำธุรกิจนี่แหละเป็นสิ่งที่เราหลงรักมานาน จึงเป็นพื้นที่ที่ฟรังใช้ในการสร้างสรรค์เมนู และออกแบบแบรนด์ที่สะท้อนตัวตนของฟรังออกมาได้อย่างแท้จริง ผสมผสานทั้งรสชาติที่อร่อย และคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ แต่ยังอยากเอ็นจอยกับชีวิตอย่างเต็มที่"

ชีพจรที่สองไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่หรือเกินเอื้อม แต่เป็นเพียงการค้นหาความสุขนอกเหนือหน้าที่ความรับผิดชอบหลักของตนเอง "แม้ชีพจรที่สองจะไม่ได้เป็นกุญแจสำคัญต่อชีพจรที่หนึ่งของเรา แต่เป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญ เป็นความสุข เป็นรางวัล เป็นแรงผลักดัน และเป็นความกลมกล่อมของชีวิต เลยอยากให้ทุกคนทบทวนกับตัวเองว่า ปัจจุบันมีอะไรที่ยังอยากทำและเพราะอะไรถึงยังไม่ทำ หากไม่ใช่เหตุผลที่ส่งผลเสียต่อชีวิต ก็ลองทำเลย และเราจะได้ประสบความสำเร็จในชีวิตไปอีกหนึ่งอย่าง" หมอปิแอร์ - ผศ.นพ.สิระ กอไพศาล แพทย์ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์ โรคต่อมไร้ท่อ และ Metabolism โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวทิ้งท้าย

นิทรรศการศิลปะและเวิร์กช็อป 'The Second Pulse' ไม่เพียงสะท้อนแนวคิดของโครงการ 'THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ' ในการเป็น 'บ้าน' ที่ดีที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้เติบโตในทุกมิติ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้แสดงออกในสิ่งที่เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะในโลกที่หมุนเร็วและความรับผิดชอบที่มากมาย การมี 'ชีพจรที่สอง' หล่อเลี้ยงใจ คือพลังสำคัญที่ช่วยเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์และมีความสุขยิ่งขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ