
นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า จากภาพรวมของโรคฝีดาษวานรในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่าแนวโน้มการแพร่ระบาดปี 68 น้อยกว่าปี 67 ขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ซึ่งข้อมูลล่าสุดพบผู้ป่วยฝีดาษวานรสะสมแล้ว 511 รายตั้งแต่มีรายงานโรคนี้มา โดยในปี 68 มีผู้ป่วย 33 คน ปี 67 มีผู้ป่วย 62 คน ปี 66 มีผู้ป่วย 412 คน และปี 65 มีผู้ป่วย 4 คน อย่างไรก็ตาม กทม. ได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านท่องเที่ยวและย่านพักอาศัยของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และเตรียมพร้อมด้านต่าง ๆ ของสถานพยาบาลในสังกัด เพื่อรองรับการดูแลรักษาผู้ป่วย หากพบการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรเพิ่มขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ได้ส่งเสริมความรู้ สร้างความตระหนักและความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับลักษณะอาการ การแพร่เชื้อ และวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคฝีดาษวานร โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักในการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนไม่รู้จัก ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วย หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีผื่นสงสัยโรคฝีดาษวานร หลีกเลี่ยงไปในสถานที่ที่มีกิจกรรมการรวมตัว หรือกิจกรรมพบปะสังสรรค์ที่อาจเสี่ยงติดโรคฝีดาษวานร รวมทั้งข้อควรปฏิบัติเมื่อพบอาการเข้าข่ายโรคตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เน้นย้ำแนวทางปฏิบัติให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในสถานพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทั้ง 69 แห่ง ในคลินิกต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่ใช้บริการคลินิกเฉพาะทาง เช่น Pride Clinic (คลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย) Family & Friend (ARV Clinic) คลินิกรักปลอดภัย คลินิกโรคผิวหนัง รวมถึงสร้างความตระหนักและสื่อสารสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในการประชุมต่าง ๆ ตลอดจนสื่อสารมาตรการป้องกันโรคฝีดาษวานรควบคู่กับการดูแลสุขภาพอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งทาง Facebook I love Club และ Line เพร๊พบางกอก Line BKK Pride Clinic และการร่วมจัดกิจกรรมออกบูทความรู้ในวันสำคัญต่างๆ เช่น Pride Month วันเอดส์โลก วันวาเลนไทน์