
- เลอโนโวเปิดตัวบริการใหม่ AI Adoption & Change Management Services เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานได้อย่างราบรื่น สนับสนุนให้พนักงานปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ช่วยเร่งกระบวนการปรับใช้ในระดับองค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)
- ออกแบบมาเพื่อเพิ่มปะสิทธิภาพการดำเนินงานในภาคการผลิต การบริการ โรงแรม และค้าปลีก ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม
- การขยายแพลตฟอร์ม Hybrid AI Factory ของเลอโนโว ทำร่วมกับพันธมิตรเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Cisco, IBM และ NVIDIA ช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง ขยายขนาด และบริหารจัดการระบบ AI ได้จากทุกที่ทั่วโลก

เลอโนโวเดินหน้าขยาย Lenovo Hybrid AI Advantage(TM) โดยเพิ่มบริการให้คำปรึกษาและช่วยดำเนินการติดตั้ง, บริการโซลูชันเฉพาะทางสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ และแพลตฟอร์ม Hybrid AI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างรอบด้าน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับระบบไอทีขององค์กรในยุค AI การขยายการให้บริการในครั้งนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง ขยายขนาด และบริหารจัดการโรงงานด้วยระบบ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง ระบบประมวลผลความเร็วสูง ระบบเครือข่าย และการผสานระบบกับพันธมิตรเทคโนโลยีระดับโลก โซลูชัน บริการ และแพลตฟอร์มใหม่เหล่านี้ ช่วยให้องค์กรเร่งนำ AI ที่ออกแบบมาเฉพาะทางไปใช้งานได้ทั้งในสภาพแวดล้อมภายในองค์กร และระบบคลาวด์ พร้อมเพิ่มคุณค่าทางธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และความน่าเชื่อถือในการดำเนินงาน
จากรายงาน Lenovo Global CIO Playbook พบว่า องค์กรถึงสองในสามยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนใน AI ได้ เนื่องจากยังประสบปัญหาในการขยายการใช้งานให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีช่องว่างทั้งด้านการฝึกอบรม การนำ AI ไปใช้ และปัญหาด้านเทคนิค นอกจากนี้รายงานยังระบุถึงแนวโน้มการลงทุนว่า ในปี 2025 งบประมาณการลงทุนของธุรกิจสำหรับ AI จะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 20% ของงบประมาณด้านไอทีทั้งหมด ทำให้องค์กรจำเป็นต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพ สมรรถนะ และความสามารถในการขยายตัว เพื่อให้เกิดผลตอบแทนจากการลงทุนที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
คุณแอชลีย์ โกรักภูรวัลลา, ประธานกลุ่มโซลูชันอินฟราสตรัคเจอร์, เลอโนโว กล่าวว่า "เลอโนโวคือผู้นำด้านไฮบริด AI ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมโซลูชันที่ครบวงจร เพื่อช่วยพัฒนาวงการอุตสาหกรรม และทำให้ AI ระดับองค์กรกลายเป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยโซลูชันและความน่าเชื่อถือของเรา เลอโนโวกำลังเปลี่ยน AI ให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้จริง ผ่านการใช้งาน และบริการที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และช่วยให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าให้แก่ธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น"
เลอโนโวเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญนี้ ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน Hybrid AI โซลูชัน และบริการที่รองรับการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา นับตั้งแต่เลอโนโวประกาศลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเร่งการนำ AI ไปใช้ในภาคธุรกิจทั่วโลก จำนวนลูกค้าที่เลือกใช้โซลูชันของเลอโนโวก็เพิ่มขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระดับโลก
เลอโนโว Hybrid AI Advantage ผสานโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่ครอบคลุม ทั้งชุดข้อมูล โมเดล บริการ และกรณีศึกษาตัวอย่างที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้งานได้อย่างครบถ้วน ทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงานของพนักงาน, เพิ่มประสิทธิผลในขั้นตอนการผลิตหรือการปฎิบัติงาน รวมถึงใช้ในขั้นตอนการจัดการข้อมูล ด้วยบริการจากเลอโนโว ขั้นตอนการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในองค์กรผ่านการใช้งานเครื่องมือ Generative AI สามารถเสริมประสิทธิภาพและประสิทธิผล พร้อมลดเวลาการทำงานให้ธุรกิจได้มากถึง 31% ต่อสัปดาห์
บริการเสริม AI เพื่อโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมขยายตัว
แม้ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทอย่างรวดเร็วในสถานที่ทำงาน แต่พนักงานกว่าครึ่งยังรู้สึกว่าไม่ได้รับการสนับสนุนด้านการฝึกอบรม AI อย่างเพียงพอ ส่งผลให้การนำ AI ไปใช้งานยังไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น บริการ Lenovo AI Adoption and Change Management จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้โจทย์นี้โดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถประเมินความพร้อมในการนำ AI ไปใช้งาน พัฒนาทักษะของพนักงาน ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน ผ่านกระบวนการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งเน้นตามกลุ่มบุคคล พร้อมยึดแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเป็นหลัก โดยครอบคลุมแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้:
- การประเมินความพร้อมของบุคลากรด้าน AI (Lenovo AI People Readiness Assessment): ช่วยให้องค์กรสามารถประเมินระดับความพร้อมของพนักงานในการปรับตัวสู่การใช้ AI พร้อมทั้งระบุแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสม กลุ่มเป้าหมายหลัก และกรณีการใช้งานที่คาดว่าจะสร้างผลกระทบในเชิงบวกได้อย่างเป็นรูปธรรม
- การฝึกอบรมและสร้างการมีส่วนร่วมตามบทบาทพนักงาน (Persona-Based Training & Engagement): ออกแบบโปรแกรมการนำ AI ไปใช้ให้สอดคล้องกับหน้าที่และความรับผิดชอบของพนักงานแต่ละกลุ่ม เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ และยกระดับการมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง
- การส่งเสริมการใช้งาน Copilot (Copilot Adoption): สนับสนุนให้พนักงานสามารถผสานเครื่องมือ Generative AI อาทิ Copilot เข้ากับกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง และการติดตามผล
- การกำกับดูแล AI และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับ AI (AI Governance & Cultural Readiness): ส่งเสริมให้ผู้นำและทีมงานมีความเข้าใจตรงกันในเรื่องการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการนำ AI มาใช้และสอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแลที่เหมาะสม
คุณเคน หว่อง, รองประธานบริหาร และประธานกลุ่มธุรกิจโซลูชันและบริการ, เลอโนโว กล่าวว่า"การใช้งาน AI ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ที่ชัดเจน ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเทคโนโลยีที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเร่งให้เกิดคุณค่าทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง ด้วย Lenovo Hybrid AI Advantage เรากำลังช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนศักยภาพของ AI ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ช่วยให้องค์กรทำงานได้อย่างชาญฉลาด รวดเร็ว และมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกภาคส่วน"
ด้วยบริการใหม่ล่าสุด เลอโนโวพร้อมส่งมอบผลลัพธ์ที่ชัดเจนและวัดผลได้ให้กับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมเสริมศักยภาพให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมั่นใจหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จคือการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของสายการบินชั้นนำ ด้วยการนำ AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ผ่านบริการที่ครอบคลุมทั้งการให้คำปรึกษา การวางแผน และการออกแบบระบบอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งช่วยยกระดับการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อบริการเหล่านี้ผสานเข้ากับโซลูชันของเลอโนโว จะสามารถขับเคลื่อนเวิร์กโฟลว์ด้าน AI ได้ในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นการเร่งกระบวนการวินิจฉัยทางการแพทย์ การวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ หรือการเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ในภาคการผลิต
ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมด้วยโซลูชัน AI ที่ผ่านการรับรองและออกแบบมาอย่างตรงจุด
เลอโนโว Hybrid AI Advantage ช่วยให้องค์กรก้าวข้ามขั้นตอนการทดลองใช้งาน และเดินหน้าไปสู่การสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้และวัดผลได้จริงในทุกภาคส่วนขององค์กร โดยมีเป้าหมายในการปิดช่องว่างระหว่างแผนกลยุทธ์ด้าน AI กับผลลัพธ์เชิงปฏิบัติที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว องค์กรจึงต้องการแอปพลิเคชัน AI ที่เชื่อถือได้ ครอบคลุมการใช้งานในทุกมิติ และสามารถปรับขนาดรองรับเวิร์กโฟลว์ทางธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ โซลูชันเลอโนโว Hybrid AI Advantage รุ่นใหม่ล่าสุด ได้รับการออกแบบร่วมกับพันธมิตรซอฟต์แวร์ชั้นนำ (ISV) ผ่านโครงการ เลอโนโว AI Innovator เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ปรับจูนประสิทธิภาพ และทดสอบอย่างเข้มงวด เพื่อให้สามารถส่งมอบเวิร์กโฟลว์และกรณีศึกษาที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว บนแพลตฟอร์ม Hybrid AI ได้อย่างครบถ้วนและน่าเชื่อถือ โดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
- กลุ่มงานด้านบริการ เพิ่มประสิทธิภาพด้วย Centific AI Data Foundry และ NVIDIA: มอบศักยภาพในการเพิ่มการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และขับเคลื่อนผลกำไร ด้วยฟีเจอร์ที่รองรับการปรับแต่งแบบเรียลไทม์ การบริหารงานที่คล่องตัว และข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven insights)
- ความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพด้วย PPE ร่วมกับ Avathon Visual AI และ NVIDIA: สนับสนุนการตรวจสอบความปลอดภัยและการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลแบบเรียลไทม์ ช่วยตรวจจับความเสี่ยง ข้อผิดพลาด และพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย โดยใช้กล้องที่มีอยู่แล้วเพื่อให้การติดตั้งและบูรณาการเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมทั้งระบบอัตโนมัติในการดำเนินการแก้ไขเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
- กลุ่มธุรกิจค้าปลีกและสมาร์ท สเปซ เพิ่มประสิทธิภาพด้วย WaitTime และ Intel: เลอโนโวให้บริการโซลูชันวิเคราะห์จำนวนคนแบบเรียลไทม์ โดยใช้เทคโนโลยี Edge AI ร่วมกับการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Vision) เพื่อแปลงภาพจากกล้องเป็นข้อมูลเชิงลึกทันที ช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการเพิ่มรายได้และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ซึ่งในบางโครงการสามารถเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้สูงถึง 30%
- กลุ่มงานควบคุมและตรวจสอบคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพด้วย Trifork และ NVIDIA: โซลูชันนี้มอบระบบตรวจจับข้อบกพร่องแบบอัตโนมัติ พร้อมการฝึกอบรมโมเดล AI บนอุปกรณ์ และแปลงข้อมูลจากเซ็นเซอร์แบบเรียลไทม์ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ใช้งานได้จริงในพื้นที่โรงงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมคุณภาพและลดข้อผิดพลาดในการผลิต
ระบบนิเวศที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนโรงงาน AI แบบไฮบริดเพื่อความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่
การขยายความร่วมมือในครั้งนี้ต่อยอดจากพันธมิตรหลักของเลอโนโว ได้แก่ Cisco, IBM และ NVIDIA โดยนำเสนอชุดโซลูชันแบบบูรณาการใหม่ ที่ช่วยเร่งการนำ AI มาใช้ในองค์กรระดับโลก แพลตฟอร์มรุ่นใหม่นี้พัฒนาบนโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ทันสมัย พร้อมผสานเทคโนโลยีเร่งประมวลผล เครือข่าย การสวิตชิ่ง และซอฟต์แวร์จากพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรม ช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง ขยาย และบริหารจัดการโรงงาน AI แบบไฮบริดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบ Lenovo ThinkSystem SR680a V4 รุ่นใหม่: ออกแบบมาเพื่อปลดล็อกศักยภาพของ AI อย่างเต็มที่ ด้วยสมรรถนะการประมวลผลขั้นสูงสำหรับการพัฒนาโมเดล การประมวลผลกราฟิก และเวิร์กโหลดด้านการจำลองในทุกอุตสาหกรรม ระบบมาพร้อมหน่วยประมวลผล Intel Xeon 6 ตัว และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) NVIDIA Blackwell จำนวนสูงสุด 8 ตัว เชื่อมต่อกันผ่านเทคโนโลยี NVIDIA NVLink ความเร็วสูง เพื่อส่งมอบพลังการประมวลผลและการเร่งความเร็วที่ทรงประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเสริมด้วย NVIDIA SuperNICs อีก 8 ตัว และ NVIDIA BlueField-3 DPU ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งความเร็วเครือข่าย การเข้าถึงข้อมูล และการจัดการเวิร์กโหลด AI อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- แพลตฟอร์ม AI แบบไฮบริดของ Lenovo ร่วมกับ IBM watsonx: แพลตฟอร์มนี้มอบโครงสร้างพื้นฐาน AI ประสิทธิภาพสูง พร้อมใช้งานทันที โดยสร้างขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ Lenovo ThinkSystem SR675 ผสานกับ Red Hat OpenShift และเทคโนโลยีจาก NVIDIA เพื่อเร่งและเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของการพัฒนา การนำไปใช้งาน และการกำกับดูแลโมเดล Generative AI อย่างเป็นระบบและเชื่อถือได้
- แพลตฟอร์ม Hybrid AI ของ Lenovo ร่วมกับ Cisco: แพลตฟอร์มเวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการยกระดับนี้ รองรับ Cisco Nexus Switches พร้อมเทคโนโลยี NVIDIA Spectrum-X เพื่อเพิ่มสมรรถนะเครือข่ายสำหรับ AI Factory ในองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยความเร็วเครือข่ายที่เร็วขึ้นถึง 1.6 เท่า และการบริหารจัดการเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพผ่าน Cisco Nexus Dashboard ในโซลูชันแบบบูรณาการ แพลตฟอร์มนี้รองรับการใช้งาน AI ทั้งในสภาพแวดล้อมใหม่ (Greenfield) และเป็นส่วนขยายของโครงสร้างพื้นฐาน IT เดิม โดยสร้างขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ทรงพลัง Lenovo ThinkSystem SR675 V3 ซึ่งรองรับ GPU NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Server Edition ได้สูงสุด 8 ตัว พร้อม NVIDIA SuperNICs และ NVIDIA BlueField-3 ช่วยส่งมอบระบบศูนย์ข้อมูลที่พร้อมรองรับการดำเนินงาน AI Factory อย่างครบวงจร นับเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านจากโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย CPU ไปสู่ระบบที่ขับเคลื่อนด้วย GPU อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
ไม่ว่าองค์กรจะอยู่ในขั้นตอนไหนของการนำ AI มาใช้ โซลูชันและบริการเลอโนโว Hybrid AI Advantage ล้วนพร้อมช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ผ่านโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่เชื่อถือได้และได้รับการพิสูจน์แล้ว ไม่ว่าองค์กรจะเพิ่งเริ่มต้น กำลังขยายขีดความสามารถ หรืออยู่ในระยะการเพิ่มประสิทธิภาพ พอร์ตโฟลิโอHybrid AI แบบครบวงจรของเลอโนโวถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการทำให้ AI เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้มากขึ้น และสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละองค์กร ด้วยโซลูชันแบบบูรณาการที่รองรับการใช้งานทั้งในอุปกรณ์ปลายทาง ที่ขอบของเครือข่าย (edge) และในระบบคลาวด์