
พร้อมเผยกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง ขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตอย่างมั่นคง
ทิศทางก้าวหน้า บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK บริษัทฯ ที่ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยี และมีความเชี่ยวชาญอันโดดเด่นด้านสายสัญญาณ พร้อมกับอุปกรณ์ส่งสัญญาณอันดับต้น ๆ ของประเทศ และในอาเซียน จัดงาน "Interlink Communication Company Visit and Analyst Meeting ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568" ณ สำงานใหญ่ รัชดา กรุงเทพฯ เปิดบ้านใหญ่ ต้อนรับนักลงทุน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้ติดตามความเคลื่อนไหวของธุรกิจ

โดยร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมบริษัทฯ เผยผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา และตั้งใจประกาศเจตนารมณ์ จากความชำนาญของบริษัทฯ ที่ได้นำมาปรับใช้ให้ประสบผลสำเร็จเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ และความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ พร้อมกับเจาะลึกนำเสนอทิศทาง ชูกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังของปี 2568 ให้สอดคล้องการขับเคลื่อนตามเป้าหมายของ ILINK ที่ได้เติบโต ต่อเนื่อง อย่างยั่งยืน แบบมีคุณภาพ ด้วย Quality Growth และหัวใจ 5 ห้อง ควบคู่ไปกับการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ซักถามข้อมูลเชิงลึก พร้อมทั้งยังได้มีการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญ ทั้ง ความท้าทายทางธุรกิจ แนวโน้มการเติบโตเทคโนโลยีแห่งยุคดิจิทัล และโอกาสในการเติบโตในอนาคต เพื่อตอกย้ำถึงความพร้อมของทั้ง 3 ธุรกิจ ในการเดินหน้าพัฒนาองค์กรให้สอดรับครอบคลุมทุกมิติอย่างมั่นคง
วันนี้ (17-18 ก.ค. 68) นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการบริษัทฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมถ่ายทอดทิศทางธุรกิจ ภาพรวมผลประกอบการ และกลยุทธ์การเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวร่วมกัน ซึ่งภายในงาน ได้มีการกล่าวเปิดมุมมองการบริหารธุรกิจของกลุ่มบริษัท ILINK ที่ดำเนินงานมากว่า 38 ปี ส่งผลทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ และทำกำไรได้อย่างมั่นคงจนถึงปัจจุบัน หรือ ที่เรียกว่า หัวใจ 5 ห้อง ซึ่งเปรียบเสมือนโครงสร้างหลักที่หล่อหลอมการเติบโตของธุรกิจ สู่การขับเคลื่อนดำเนินงานได้อย่างก้าวหน้า จึงนับว่าสิ่งนี้เป็นปฏิญญาที่สำคัญที่บริษัทเชื่อมั่น และสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงการเติบโต อย่างยั่งยืนเสมอมา คือ
นอกจากนี้ การขับเคลื่อน และหลักการในการดำเนินธุรกิจของ 3 ธุรกิจหลักในเครือนั้น ล้วนเติบโต และมีศักยภาพที่แตกต่างกัน แต่เกื้อหนุนกันได้อย่างลงตัว ที่สามารถทำรายได้ และสร้างกำไรสุทธิอย่างมั่นคง คือ หลักกลยุทธ์ "เติบโต ต่อเนื่อง อย่างยั่งยืน แบบมีคุณภาพ (Quality Growth)" ของทั้งกลุ่ม 3 ธุรกิจหลัก
- ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Import & Distribution Business) ปัจจุบันเป็นผู้นำทางการตลาด และในอาเซียน โดยเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมถึงอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ ได้ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีด้วยความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศ ภายใต้ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ (The Group of Interlink) โดยมี ปฏิญญาทางธุรกิจ "สินค้าคุณภาพ ราคาถูกกว่า และบริการที่ดีกว่า" ที่เติบโตต่อเนื่อง ภายใต้แบรนด์ LINK AMERICAN และ GERMAN RACK จากเทรนด์การขยายตัวของ Digital Infrastructure, AI, Data Center และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (Smart Security) อย่างครอบคลุมทุกโซลูชัน และตอบโจทย์ทุกงานระบบ
- ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ (Turnkey Engineering Business) ดำเนินงานโดย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยเน้นงานประมูลโครงการภาครัฐที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่บริษัทฯ หรือ กลุ่มบริษัทฯ มีประสบการณ์ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเน้นการบริหารความเสี่ยง โดยยังคงรักษาสัดส่วนรายได้อย่างเหมาะสม ควบคู่กับการคัดเลือกงานที่มีคุณภาพ และผลตอบแทนที่ดี
- ธุรกิจโทรคมนาคม และดาต้าเซ็นเตอร์ (Telecom & Data Center) ดำเนินงานผ่านบริษัทย่อย โดยบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ที่เน้นโอกาสในยุค Hyperscale Data Center และ 5G ที่กำลังเติบโต เพื่อสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจได้เติบโตก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งต่อไป
และถึงแม้ในไตรมาส 1/2568 จะมีรายได้รวม 1,775.40 ล้านบาท ด้วยกำไรสุทธิรวม 111.13 ล้านบาท (ที่ได้ประกาศงบประจำไตรมาส1/68 เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 68 ไปแล้วนั้น) แต่ ILINK ยังคงมั่นใจรายได้โตต่อเนื่องแบบมีคุณภาพ ทั้งรายได้ และกำไร โดยที่ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังต่อจากนี้ ในปี 2568 บริษัท เน้นย้ำต่อว่า มั่นใจ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจหลักยังคงแข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสายสัญญาณ และโทรคมนาคมที่ยังเดินหน้าได้ดี ส่วนธุรกิจวิศวกรรมโครงการ ยังอยู่ในช่วงรอรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ที่จะส่งผลทำให้มีมาร์จิ้นที่ดีขึ้นได้แน่นอน
จากจุดเริ่มต้น จนถึงปัจจุบัน กว่า 38 ปี ของการดำเนินธุรกิจ ทั้ง 3 ธุรกิจ และ 1 มูลนิธิฯ ได้มีผลงาน ไปพร้อมกับการสร้างรายได้ และผลกำไร เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ ILINK ได้มองเห็นโอกาสการเติบโตจาก 6 ปัจจัยสำคัญ ทั้งการขยายตัวของ AI และเทคโนโลยี นวัตกรรมอัจฉริยะ/ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล/การเติบโตของกล้องวงจรปิด และระบบ Automation/การพัฒนา Hyperscale Data Center/แนวโน้มการประหยัดพลังงาน และการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ในภาคครัวเรือน หรือภาคอุตสาหกรรม/การขยายตัวของระบบความปลอดภัย และควบคุมอาคาร (Smart Building) ซึ่งทั้งหมดนี้ ช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณของ ILINK ที่เปรียบเสมือน "ผู้วางถนนหลักให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้าน Digital Infrastructure" ของประเทศอีกด้วย
"นับว่า การจัดงาน Interlink Communication Company Visit ครั้งที่ 2 นี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ILINK ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีเป้าหมาย ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อสังคม และแนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ไม่เพียงสร้างผลกำไร แต่ยังสร้างคุณค่าให้กับสังคม และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท อีกทั้ง ยังแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส ความตั้งใจ และพลังแห่งการขับเคลื่อนภายในองค์กรของ ILINK ที่ไม่ได้หยุดแค่เพียงการสร้างกำไร แต่ยังสร้าง "คุณค่าในทุกมิติของทุกธุรกิจ และไม่หยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อทำรายได้ และทำกำไรให้เพิ่มพูน" ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอยึดมั่นเจตนารมณ์ในการพัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศของคนไทยที่แข็งแกร่ง และสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ และมั่นคง" นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการบริษัทฯ กล่าวเสริมตอนท้าย