
บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ (UREKA) เดินหน้าธุรกิจครึ่งปีหลังเต็มพิกัด ขยายกำลังการผลิตธุรกิจน้ำประปา ต่อยอดโครงการใหม่ๆ ร่วมกับภาครัฐผ่านรูปแบบ PPP ตั้งเป้าเพิ่มฐานรายได้ประจำจากสัญญาระยะยาวอีก 100-200% เร่งขยายตลาดเม็ดพลาสติกรีไซเคิลรองรับดีมานด์จากภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับ Green Supply Chain และ Net Zero พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่มูลค่าเพิ่ม ตอบโจทย์ตลาดต้องการวัตถุดิบรีไซเคิลคุณภาพสูง พร้อมยกระดับเป็น "Green Infrastructure และ Circular Business Platform" ภายใน 3-5 ปี ผลักดันรายได้ทั้งกลุ่มเติบโตก้าวกระโดด
นางสาวรินทร์ณฐา เอกอัศวภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) (UREKA) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 บริษัทฯ ยังคงเดินตามแผนเต็มกำลัง โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ที่ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะมีบทบาทที่สำคัญมากยิ่งขึ้นในอนาคต จากปัจจัยสนับสนุนหลัก ได้แก่ การขยายตัวของเมือง การเติบโตของนิคมอุตสาหกรรม และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในหลายพื้นที่ ซึ่งล้วนมีความต้องการใช้น้ำคุณภาพดีเป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันประเทศไทย และทั่วโลกต่างเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรน้ำที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและแปรปรวนของปริมาณน้ำในแต่ละปี ภายใต้บริบทนี้ ทำให้ UREKA ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของน้ำมากยิ่งขึ้น
"ในครึ่งปีหลังประเมินว่า แนวโน้มธุรกิจยังมีทิศทางที่ดี ทั้งในส่วนของธุรกิจน้ำประปา ที่มีแผนขยายกำลังการผลิต พร้อมต่อยอดสู่โครงการใหม่ๆ ร่วมกับภาครัฐผ่านรูปแบบ PPP (Public-Private Partnership) โดยตั้งเป้าเพิ่มฐานรายได้ประจำจากสัญญาระยะยาวอีก 100-200% ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นคงของรายได้ และขยายบทบาทในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับพื้นที่มากยิ่งขึ้น ด้านเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ก็จะขยายตลาดจากจีนไปสู่ตลาดอาเซียน เพื่อรับกับดีมานด์จากภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับ Green Supply Chain และ Net Zero มากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่ม ตอบโจทย์ตลาดที่ต้องการวัตถุดิบรีไซเคิลคุณภาพสูง" นางสาวรินทร์ณฐา กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างวางแผนและออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเป็นการยกระดับการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วอย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ก็คือการสร้างรายได้จากสิ่งที่เคยเป็นต้นทุนคงที่ให้เป็นรายได้ประจำ โดยไม่ต้องลงทุนใหม่เต็มรูปแบบ และกระจายความเสี่ยงของพอร์ตธุรกิจ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UREKA กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทฯได้รับเงินเพิ่มทุนจะเป็นการเร่งสปีด การเติบโตของกลุ่มบริษัท โดยเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจะถูกนำไปใช้ใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.ขยายโครงการน้ำประปาเพิ่มเติม 2.ลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และพัฒนา ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ และ3.นำบางส่วนของเงินทุนไปเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมความสามารถในการขยายรายได้ ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และพร้อมรองรับโอกาสในการเติบโตในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมแผนธุรกิจ 3-5 ปี ที่จะยกระดับธุรกิจจากผู้ดำเนินกิจการแบบดั้งเดิม ไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ทั้งในส่วนของภาพรวมขององค์กร มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย ESG อย่างเต็มรูปแบบ โดยเปลี่ยนจาก 'บริษัทน้ำและรีไซเคิล' ไปสู่การเป็น "Green Infrastructure และ Circular Business Platform" ที่แข็งแรงและยั่งยืน
"บริษัทอยู่ระหว่างการออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าสูงสุด โดยสร้างรายได้จากสิ่งที่เคยเป็นต้นทุนคงที่ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนใหม่เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ยังมุ่งกระจายความเสี่ยงของพอร์ตธุรกิจ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน และลดการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเป็นหลัก อีกทั้ง UREKAกำลังก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย ESG อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงในระดับกลยุทธ์ แต่ฝังรากลึกในระดับวัฒนธรรมองค์กร ครอบคลุมทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม การดูแลพนักงาน และการบริหารจัดการองค์กรอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยตั้งเป้าว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะเปลี่ยนภาพลักษณ์จาก "บริษัทน้ำและรีไซเคิล" ไปสู่การเป็น "Green Infrastructure และ Circular Business Platform" ที่มีความแข็งแกร่งทางโครงสร้าง รายได้มั่นคง และเติบโตบนหลักการของความยั่งยืน"
ปัจจุบัน UREKA ประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ผ่านบริษัทย่อย คือ บริษัท โมเดิร์น ซินเนอร์ยี่ จำกัด ที่ได้ร่วมมือกับการประปาส่วนภูมิภาคในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมสัญญาการซื้อขายน้ำระยะยาว 10 ปี นอกจากนี้ยังได้รับสัมปทานประกอบกิจการประปา ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์
2.ธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งดำเนินธุรกิจโดยบริษัท เอ.พี.ดับเบิลยู. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (A.P.W.) ที่สะท้อนถึงจุดยืนด้าน "อนาคต" ของบริษัท ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่กำลังเข้ามาแทนที่การผลิตแบบใช้แล้วทิ้ง มีประสบการณ์ในธุรกิจรีไซเคิลมากว่า 22 ปี โดยสามารถสร้างรายได้จากวัสดุที่เดิมถูกมองว่าเป็นขยะกลายเป็นวัตถุดิบที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งบริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทำให้สามารถลดต้นทุนการดำเนินงาน
จากภาพรวมทั้งหมด จะเห็นได้ว่าทั้งสองธุรกิจหลักของบริษัท ธุรกิจน้ำประปา และธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ต่างได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายมหภาคและเมกะเทรนด์ระดับโลก และ UREKA ก็พร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างทั้ง "ความมั่นคง" และ "ความยั่งยืน" ให้กับธุรกิจในระยะยาว