
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันไม่ได้วัดกันที่ผลกำไรเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป หากแต่ต้องวัดจากศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีความรับผิดชอบ ผู้ประกอบการ SMEs ยืนยันการดำเนินงานอย่างยั่งยืนเป็นโอกาส การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ภาระหรือเป็นต้นทุนที่สูญเปล่า แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ผู้ประกอบการ SMEs ไทยกว่า 100 รายที่เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "Empowering SMEs Competitiveness: อยู่รอด เติบโต ยั่งยืน" ในงาน GCNT Expo 2025 จัดโดย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ธนาคารพัฒนาเอเชีย และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญของบริษัทถ่ายทอดความรู้และแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ไทยขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ร่วมดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม

พีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุดสายงานวิศวกรรม ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในฐานะสมาชิกของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพค ประเทศไทย (GCNT) การจัดกิจกรรมแบ่งปันองค์ความรู้เสริมสร้างศักยภาพธุรกิจ SMEs ดำเนินงานตามหลักการ ESG ดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ซีพีเอฟเชื่อมั่นว่า 'ความยั่งยืน' จะเกิดขึ้นได้จริงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุนในระยะยาว เสริมสร้างความน่าเชื่อถือ และเปิดโอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่ รวมถึงแหล่งเงินทุนที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ด้าน ยุทธพล วงศ์วรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้แพค จำกัด ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร กล่าวว่า SME หลายรายกังวลการพัฒนาที่ยั่งยืนต้องใช้งบประมาณ เมื่อได้ลงมือลดก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต พบว่าไม่ได้มีต้นทุนสูงอย่างที่เคยคิด แต่กลับช่วยให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้ผลผลิตเพิ่ม ต้นทุนลดลง ที่สำคัญช่วยสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้า โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
ขณะที่ หิรัญญา วงศ์จิรัฐิติกาล ผู้อำนวยการ บริษัท วงศ์เอกอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวเสริม ว่า แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นทฤษฎี ความรู้ที่ได้รับเป็นแนวทางปฏิบัติที่นำไปประยุกต์ใช้ได้จริง จากการปรับเปลี่ยนสู่ธุรกิจสีเขียวช่วยเปิดประตูให้ SMEs ได้เข้าถึงลูกค้าใหม่และโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้น
ภเดช กันตจินดา กรรมการผู้บริหาร บริษัท เนเจอร์สไปซ์ จำกัด สะท้อนว่า "ความยั่งยืน" ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ธุรกิจ SME สามารถนำมาปรับใช้ได้จริง ผลลัพธ์ที่ตามมา SMEs มีรายได้ที่มั่นคง ต้นทุนที่ลดลง และสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในสายตาของผู้บริโภค
การส่งเสริมการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG เป็นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตก้าวทันโลก พร้อมกับสร้างคุณค่าและความยั่งยืนทั้งต่อองค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว./