'ธรรมศาสตร์' กับภารกิจ ปลดแอกบนบ่า 'เดอะแบก'ปั้นนวัตกรรมรับมือสังคมสูงวัย 50 อปท.

ข่าวทั่วไป Monday August 4, 2025 17:42 —ThaiPR.net

'ธรรมศาสตร์' กับภารกิจ ปลดแอกบนบ่า 'เดอะแบก'ปั้นนวัตกรรมรับมือสังคมสูงวัย 50 อปท.

"เดอะแบกของบ้าน" เป็นคำพูดที่ระบุถึงกลุ่มคนที่กำลังเป็นความหวังของครอบครัว ต้องทำงานอย่างหนัก มีความรับผิดชอบสูง และเผชิญกับความกดดันรอบทิศทาง เพื่อประคับประคองไม่ให้ตนเอง ซึ่งหมายถึงอีกหลายชีวิตภายใต้การดูแลต้องล้มลง

การเกิดขึ้นของ "เดอะแบก" เป็นผลมาจากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป อธิบายง่ายๆ คือคนที่เป็นวัยแรงงานน้อยลง แต่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา ทำให้มีสัดส่วนผู้สูงอายุสูงถึงราว 13 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 19.97 ของประชากรทั้งหมด หรือเกือบ 1 ใน 3 ขณะที่เด็กเกิดใหม่น้อยลง

ในขณะที่ลูกหลานกำลังออกไปสู้งานข้างนอกอย่างหนักหน่วง ท่ามกลางความซบเซาของพิษเศรษฐกิจ สิ่งที่ดำเนินไปอย่างควบคู่กันก็คือผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยต้องอาศัยอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยวขาดคนดูแล เกิดปัญหาสุขภาพกาย สุขภาพจิต และคุณภาพชีวิตที่ดิ่งลง

นี่คือโจทย์ของประเทศที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อเพิ่มการเข้าถึงคุณภาพชีวิตดีสำหรับผู้สูงวัย และลดภาระทางใจและกายให้กับ "เดอะแบก" ของบ้าน ซึ่งสิ่งที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ดำเนินการอยู่ น่าสนใจจึงนำมาบอกต่อ

โปรเจกต์อันเป็นร่มใหญ่ของธรรมศาสตร์ ที่ต้องการระดมทรัพยากรทั้งองค์ความรู้ บุคลากร กระบวนการ งานวิจัยและนวัตกรรม ออกมาทำงานรับใช้สังคมเพื่อรับมือกับปัญหาสังคมสูงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับมือกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีชื่อว่า TU Care & Ageing Society 'ธรรมศาสตร์' เพื่อนร่วมทางสังคมสูงวัย

ภายใต้ TU Care & Ageing Society มีการขับเคลื่อนงานอีกหลายโครงการใหญ่ ที่น่าสนใจและเกิดผลสัมฤทธิ์แล้วคือ โครงการการพัฒนาการจัดบริการสำหรับผู้สูงอายุในชุมชน ผ่านการสร้างเครือข่าย อปท. ในประเทศไทย หรือ SMART AND STRONG PROJECT ที่ธรรมศาสตร์ ได้ให้บริการวิชาการสนับสนุนการยกระดับการจัดบริการสุขภาพใน อปท. 39 แห่ง ทั่วประเทศ

จุดเริ่มต้นของโครงการ ผศ. ดร.ณัฏฐพัชร สโรบล ภาควิชานโยบายสังคม การพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน สาขาเชี่ยวชาญสวัสดิการผู้สูงอายุ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าว่า SMART AND STRONG PROJECT เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างธรรมศาสตร์ กับเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มาตลอด 10 ปี จนเกิดเป็นรูปธรรมและนวัตกรรมในการพัฒนาและออกแบบการจัดบริการผู้สูงอายุในพื้นที่ อาทิ การจัดตั้งศูนย์สันทนาการและฟื้นฟูผู้สูงอายุ (Day Care Center) เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมในช่วงกลางวัน มีบริการรถรับ-ส่งตามบ้าน ตลอดจนการจัดบริการรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม การกายภาพบำบัด คลินิกสุขภาพจิต คลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน ฯลฯ โดยศูนย์การแพทย์และฟื้นฟูบึงยี่โถ รวมไปถึงการมีศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ อีกจำนวน 3 แห่ง และอื่นๆ อีกมากมาย

สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า สวัสดิการบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่ดำเนินการโดยท้องถิ่นร่วมมือกับสถาบันทางการศึกษา มีศักยภาพมากเพียงพอ ที่จะรองรับและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุได้ จนอาจสามารถปลดแอกบนบ่าให้กับเดอะแบกได้ไม่มากก็น้อย เพราะเป็นการรุดไปข้างหน้า แสวงหาโอกาสของชีวิตโดยรู้สึกอุ่นใจว่า ชีวิตของพ่อแม่ หรือญาติพี่น้อง ซึ่งอยู่วัยเกิน 60 ปี จะมีระบบสวัสดิการสังคมจากภาครัฐคอยเป็นตาข่ายรองรับชีวิตไม่ให้ร่วงหล่น

โครงการ SMART AND STRONG PROJECT จึงเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 - 2565 เพื่อต่อยอดและขยายภาพความสำเร็จของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ ไปยัง อปท. อื่นๆ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเสริมพลัง และคำแนะนำ ระหว่างภาคีเครือข่าย ทั้งสิ้น 39 อปท. ที่ร่วมกันทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อรับมือกับสังคมสูงวัยในประเทศไทย ผ่านกระบวนการจัดอบรม และถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการให้แก่ อปท. โดยได้รับการสนับสนุนทั้งเงินทุน และองค์ความรู้จากหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่น อย่างองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และองค์กร Nogezaka-Glocal เทศบาลเมืองยูกาวะระ

ทั้งนี้ บทบาทมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในทางวิชาการ คือการถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อเสริมพลังให้กับผู้บริหารท้องถิ่น และบุคลากร เจ้าหน้าที่ ด้านสาธารณสุขของ อปท. เพื่อสร้างทีม 'นักบริหารจัดการสังคมสูงวัย' จากหลากหลายวิชาชีพ เพื่อให้มีศักยภาพที่เข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือออกแบบระบบบริการสุขภาพเพื่อคนสูงอายุที่เหมาะสมกับเงื่อนไขเฉพาะพื้นที่ของตนเอง

ทั้งนี้ มีเทศบาลเมืองบึงยี่โถ เป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมประสานกับภาคีเครือข่ายท้องถิ่น ทั้ง 39 อปท. และเป็นพื้นที่ต้นแบบการศึกษา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 3 ปี ของโครงการฯ ได้ส่งผลให้เกิดการนำประเด็นซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการฯ ไปสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ของตนเองได้

ยกตัวอย่างเช่น กรณีของเทศบาลตำบลเทพารักษ์ ที่มี วชิรเชษฐ์ รุ่งธวัฒน์วงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลเทพารักษ์ เป็นผู้นำ เปิดเผยว่า ภายในปี 2569 เทศบาลตำบลเทพารักษ์ ตั้งเป้าหมายกันไว้ว่าจะสร้าง 'ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟู' คล้ายคลึงกับเทศบาลเมืองบึงยี่โถ เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่นี่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ปรึกษากับ รังสรรค์ นันทกาวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองบึงยี่โถ มาโดยตลอด และในวันที่ 24 - 25 เดือนกรกฎาคม นี้ จะมีการจัดอบรมบุคลากรของเทศบาลให้เป็นทีม "นักบริหารจัดการสังคมสูงวัย" จากคณาจารย์ธรรมศาสตร์เพื่อเตรียมความพร้อมในการ เปิดศูนย์ฯ

ขณะที่ อติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน กล่าวว่า ภายหลังการเข้าร่วมโครงการ SMART AND STRONG PROJECT ได้นำมาสู่การออกแบบกิจกรรม Huahin Heal Team ซึ่งประกอบไปด้วยบุคลาการทางการแพทย์หลากหลายสหวิชาชีพ ในการทำให้เกิดเจตคติและสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้สูงอายุ กับผู้ดูแลในครอบครัว ตลอดจนทำให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับภาวะของคนเป็นโรคสมองเสื่อม

ด้าน ดร.กิตติพงศ์ สีเหลือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ดใต้ (อบต.เสม็ดใต้) กล่าวว่า แม้ว่า อบต.เสม็ดใต้ จะเป็นท้องถิ่นขนาดเล็ก มีทรัพยากรงบประมาณและบุคลากรจำกัด แต่ส่วนตัวก็มีความตั้งใจที่จะสร้างศูนย์สันทนาการและฟื้นฟูผู้สูงอายุ หรือ Day Care Center ให้เกิดขึ้นจริงในอนาคตเช่นกัน โดยหวังว่า จะมีบริการรับ-ส่ง ถึงที่บ้าน ผู้สูงอายุมายังพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมร่วมกันในตอนกลางวัน ซึ่งจะทำให้ลูกหลานที่จะต้องออกไปทำงานเกิดความสบายใจ ซึ่งขณะนี้ อบต.เสม็ดใต้ กำลังอยู่ในช่วงของการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน เพื่อไปสู่การสร้าง Day Care Center ใน

รศ. ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า ปัจจุบัน SMART AND STRONG PROJECT กำลังจะเดินต่อไปในระยะที่สอง ภายในกรอบระยะเวลาตั้งแต่ปี 2568-2571 ซึ่งจะขยายความร่วมมือไปสู่ 50 อปท.ทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างไป 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. การดูแลผู้สูงอายุสมองเสื่อม 2. การให้บริการดูแลโภชนาการ 3. การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน 4. การจัดการเฝ้าระวังความเสี่ยงและภัยพิบัติ

ทั้ง 4 ประเด็น ที่จะเกิดการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่นั้น ล้วนแต่เป็นประเด็นที่ผ่านการชั่งน้ำหนักความสำคัญ และผ่านการวิเคราะห์-สังเคราะห์ โดยทีมวิชาการทั้งธรรมศาสตร์และภาคีประเทศญี่ปุ่นอย่างเข้มข้น

รศ. ดร.อรรถสิทธิ์ ระบุอีกว่า จากการทำงานร่วมกับ อปท. ชัดเจนว่า อปท. มีความสามารถและมีศักยภาพสูง มีความใกล้ชิดเข้าใจสภาพปัญหา บริบท และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แต่ในเรื่องสังคมสูงวัยและการจัดบริการปฐมภูมิ อาจถือเป็นเรื่องใหญ่และใหม่ของหลายท้องถิ่น การสร้างกลไกสนับสนุนทางองค์ความรู้ ผ่านการจับมือทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษากับ อปท. จะยิ่งช่วยให้การรับมือกับสังคมสูงวัยเป็นไปอย่างมั่นคงและมั่นใจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ TU Care & Ageing อันเป็นร่มใหญ่ของโครงการดูแลผู้สูงวัยโดยธรรมศาสตร์ที่มุ่งสนับสนุนองค์ความรู้ และเป็นกลไกสนับสนุนการทำงานทั้งระดับนโยบายและระดับท้องถิ่น

นี่เป็นตัวอย่างของจังหวะก้าวที่น่าสนใจของสถาบันอุดมศึกษา ในฐานะส่วนหนึ่งในการรับมือวิกฤตชาติ และสอดรับกับวิสัยทัศน์ของ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ป้ายแดง ที่ต้องการขับเคลื่อน 1 มหาวิทยาลัย 1 ภารกิจ เพื่อท้องถิ่น อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ