
บมจ. เรดดี้แพลนเน็ต (READY) เผยผลประกอบการครึ่งแรกปี 2568 มีรายได้รวมทะลุ 100 ล้านบาท และกำไรสุทธิเกือบ 19 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องจากแรงหนุนของแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัล (All-in-One Platform) ที่ทำสถิติรายได้สูงสุดใหม่ แม้รายได้จากระบบ Hotel Direct Booking จะชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ READY มองครึ่งปีหลังเข้าสู่ไฮซีซั่นธุรกิจโรงแรม หนุนรายได้ฟื้นตัว ขณะเดียวกันเทรนด์ MarTech ยังสดใสจากกระแส Digital Transformation และการเติบโตของ Generative AI (GenAI) READY พร้อมรุกตลาดเต็มสูบ เสริมทีมขาย-การตลาด เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่แบบ 360 องศา ตอกย้ำความเป็นผู้นำแพลตฟอร์ม MarTech ของไทย
นายทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว (All-in-One Sales and Marketing Platform) และระบบจองโรงแรมโดยตรง (Hotel Direct Booking) เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวมอยู่ที่ 100.05 ล้านบาท เป็นรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 99.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 18.98 ล้านบาท แม้ลดลงเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าราว 4% โดยยังคงรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ในระดับ 19%
ขณะที่ ในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 48.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.72 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 17% ส่วนหนึ่งมาจากรายได้กลุ่ม Hotel Direct Booking ที่ลดลงตามภาวะชะลอตัวของการท่องเที่ยว และการเลื่อนมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐไปยังไตรมาส 3 ปีนี้
อย่างไรก็ดี แม้สภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะยังเผชิญแรงกดดัน แต่เรายังสามารถสร้างรายได้เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลที่ทำยอดสถิติรายได้สูงสุดใหม่ (New High) ที่ 44.5 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2568 คิดเป็นสัดส่วนรายได้ถึง 91%
ขณะเดียวกัน ในไตรมาส 2 บริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษประมาณ 750,000 บาท เช่น ค่าปรับปรุงสถานที่ฝึกอบรมหลังเหตุแผ่นดินไหว และค่าทดสอบระบบ IT Security เพื่อเสริมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม ตามที่ได้วางแผนล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลต่อกำไรสุทธิ แต่เป็นเหตุการณ์ชั่วคราว และหากไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทจะมีผลกำไรที่สูงกว่านี้
ในครึ่งปีหลัง 2568 READY ยังคงเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มและขยายธุรกิจเชิงรุก ด้วย 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.พัฒนา All-in-One Sales and Marketing Platform ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลูกค้า และบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มพันธมิตรอื่นๆ ในอนาคต 2. มุ่งเน้นด้าน AI Transformation 3. การขยาย Readyplanet Academy ติดอาวุธด้าน Marketing Technology ที่ใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อน 4. มุ่งพัฒนา R-Commerce แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ E-Commerce ประสิทธิภาพสูง และ 5. การขยายทีมขายภายใต้ Professional Plus Model เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่บริษัทฯ พบว่ายังมีกลุ่มผู้ประกอบการที่สนใจปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการขายและการตลาด ส่งผลให้ความต้องการใช้แพลตฟอร์ม All-in-One Sales and Marketing เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการชะลอการตัดสินใจของลูกค้าบางกลุ่ม พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงท้ายปี รวมถึงมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ จะช่วยสนับสนุนรายได้จากระบบ Hotel Direct Booking ให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน READY ยังเดินหน้าขยายทีมขายและการตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 20% เพื่อขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทุกขนาดธุรกิจ ผลักดันรายได้ประจำใหม่ (New MRR) และรายได้จากบริการที่ปรึกษา Onboarding ในไตรมาสถัดไปและระยะยาว
โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแสวงหาโอกาสในการเติบโตผ่านการควบรวมกิจการ (M&A) ตามที่ได้นำเสนอความคืบหน้าในไตรมาส 1 ว่ากำลังเจรจา 1 ราย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ Due diligence ด้านการเงินและด้านกฎหมาย นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังคงมีการเจรจากับ บริษัทเป้าหมายอื่นๆ ที่มีความเหมาะสม เพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจแบบ Inorganic ต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 สิงหาคม 2568 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 20 สิงหาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 4 กันยายน 2568
"เรามั่นใจในศักยภาพการเติบโตระยะยาวของเทรนด์ MarTech ภาคธุรกิจจะให้ความสำคัญและมุ่งเน้นไปที่การใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน ทั้งในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการตลาด READY พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นของคนไทย พัฒนาโดยคนไทย เพื่อธุรกิจไทยเติบโตในอนาคตอย่างแข็งแรง" นายทรงยศ กล่าวทิ้งท้าย